ไม่มีความเห็น
ในประการแรก ขอยืนยันว่า บัตรประจำตัวบุคคลที่ไม่มีสถานะทางทะเบียน และแบบรับรองรายการทะเบียนราษฎร จากสำนักเบียนกลาง ถือว่าเป็นหลักฐานทางทะเบียนราษฎร ตาม ม.23 ค่ะ
ในประการที่สอง หากปลัดอำเภอปฏิเสธ ก็ขอให้เขาปฏิเสธคำร้องลงรายการสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓ แล้วค่อยอุทธรณ์ แล้วไปฟ้องศาลปกครองได้ค่ะ
ในประการที่สาม หากเด็กเกิดในโรงพยาบาลในประเทศไทย ก็ใช้หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร.๑/๑) ซึ่งออกโดยโรงพยาบาลเป็นพยานหลักฐานแสดงการเกิดในประเทศไทย แต่หากเด็กเกิดนอกโรงพยาบาล ก็ต้องร้องขอทำหนังสือรับรองการเกิดก่อนนะคะ ซึ่งในกรณีนี้ ต้องร้องขอทำที่อำเภอค่ะ ต้องนำพยานบุคคลในหมู่บ้านและครูที่เคยสอนอยู่ในหมู่บ้านนั่นแหละค่ะ มาให้ปลัดอำเภอสอบปากคำ หากปลัดปฏิเสธ ก็ต้องอุทธรณ์ แล้วไปฟ้องศาลค่ะ
ในประการที่สี่ คุณถามว่า คุณต้องช่วยเด็กในการยื่นขอใช้สิทธิในสัญชาติไทยตามมาตรา ๒๓ หรือไม่ ? คำตอบก็คือ ถ้าคุณพร้อมที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อใครสักคน แม้มันนอกหน้าที่โดยตรง ก็ทำได้ เพราะมันเป็นการช่วยให้เด็กนักเรียนของคุณได้มาซึ่งโอกาสในการแก้ไขปัญหาความไร้สัญชาติอย่างถาวร
ในประการสุดท้าย แนบบทความความที่เขียนเกี่ยวกับมาตรา ๒๓ เพื่อตอบคำถามของเด็กสบเมยมาให้อ่าน แม้มิใช่เป็นเรื่องของคนถือบัตรเลข ๐ แต่ก็ให้หลักกฎหมายมาตรา ๒๓ เหมือนกัน และมาตรา ๒๓ ก็ใช้กับทุกคนที่มีชื่อในทะเบียนราษฎร คนถือบัตรเลข ๐ หรือ ๐๐ หรือ ๖ หรือ ๗ หรือ ๘ ก็เป็นคนที่มีหลักฐานทางทะเบียนราษฎรเหมือนกัน อ่านดูนะคะ
“บุคคลผู้ถือบัตรบุคคลผู้ไม่มีสัญชาติไทยและบุตร จะมีสิทธิขอลงรายการสัญชาติไทยในทะเบียนบ้านตามมาตรา ๒๓ หรือไม่ ? เพราะเหตุใด ?,
งานเขียนเพื่อหนังสือแจกในงานวันเด็กไร้สัญชาติ ครั้งที่ ๗ พ.ศ.๒๕๕๒ ของศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน, เมื่อวันที่ ๑๐ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๑
http://gotoknow.org/blog/archanwell-and-stateless-and-nationalityless/228684”
สวัสดีคะอาจารย์ อาจารย์จะช่วยหนูได้ไหมคะ เรื่องมันยาวคะ ถ้าได้ไห้เเอ๊ดมาที่[email protected]จะเล่าไห้ฟัง