โครงการห้องเรียนสำหรับคนไร้รัฐคนไร้สัญชาติถึงไหนแล้วคะ ?

อาจารย์แหวว

คุณภาสกร จำลองราช เสนอให้จัดห้องเรียนสำหรับเด็กในสถาบันการศึกษา ซึ่งจะจบปีหน้า

ความเห็น (5)

ไม่มีความเห็น

คำตอบ (1)

Bongkot Napaumporn

เขียนเมื่อ

สำหรับเดือนนี้..หนูจะจัดการเรื่องของน้องวิษณุก่อน..

ส่วนเรื่องห้องเรียนหนูก็แอบมีแนวคิดเล็กๆ ที่อยากทำ แต่ไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือเปล่า ไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาหรือเปล่า..คือช่วงที่เราไปเชียงรายปลายเดือนนี้น่ะคะ..เราก็จะไปเยี่ยม case แซ่ลีอยู่แล้วใช่ไหมค่ะ..ถ้าเป็นไปได้ถ้าเราจะมีห้องเรียนอีกหนึ่งห้องเล็กๆ ที่เชียงราย..จะดีไหมค่ะ

ช่วงนั้น..ก็จะมี key persons อย่างที่อาจารย์ว่ามาร่วมงานอยู่แล้ว และก็ยังมีพี่ๆ expert คนอื่นๆ เช่น พี่ด๋าว พี่เอ๋ เป็นต้น พี่ๆ เค้าจะได้ช่วยหนูจัดการห้องเรียนด้วยค่ะ..อิอิ

ความเห็น (6)

อาจารย์แหวว

เขียนเมื่อ 12 มิถุนายน 2006 14:26 น. ()

เรื่องแซ่ลี ก็ช้าไปอีกแล้ว

ระยอง แซ่ลี บุตรสาวของครอบครัว แซ่ลี แต่งงานกับชายสัญชาติไทย มีบุตรคนที่สองชื่อ "น้องแพร" เกิดเมื่อวันที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๙

ไปแจ้งเกิดที่เทศบาลแม่สอด เทศบาลนี้ปฏิเสธที่จะออกสูติบัตรให้ค่ะ

แสดงว่า เทศบาลไม่เข้าใจกฎหมายและนโยบายในเรื่องนี้

แสดงว่า เขาไม่เข้าใจว่า เด็กมีสัญชาติไทย และต้องเพิ่มชื่อใน ทร.๑๔ ของพ่อ และต้องออกสูติบัตรให้โดยทันที

เราจะแจ้งให้คุณญิบใช้ในการสอนหนังสือเทศบาลทั้งประเทศ

จะออก ASTV วันที่ ๑๖ มิถุนายนนี้

คนไร้สัญชาติ

เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2007 18:00 น. ()

ผมเองก็เกิดไทย มีใบเกิด แต่ไร้สัญชาติ ดูๆแล้ว ยังมีคนอีกเยอะเนอะ ที่ยังไม่ได้ ก็เคลียดเหมือนกัน บางที่ยังคิดหนัก ต้องทำอะไรสักอยางให้รัฐได้สนใจคนเล็กๆอย่างเราบ้าง หรือไม่ก็ประท้วง หรือไม่ก็ก่อการร้าย จะดีมั้ยเนอะ แต่ว่า มันรอไม่ได้จริงๆ ใจก็เคลียด ไม่รู้เหมือนไรจะได้สักที

Bongkot Napaumporn

เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2007 08:30 น. ()

ถ้าคุณคิดจะทำจริงอย่างที่ว่าไว้..ก็ถือว่าคิดสั้นมากค่ะ (พูดกันตรงๆ)

ลองมาคุยกันหน่อยสิ.. ว่าปัญหา คือ อะไร แล้วเราจะช่วยอะไรได้บ้าง

ติดต่อกลับมานะคะ

ที่ติดต่อก็มีอยู่ตาม website นี้

วสันต์ แซ่สิว

เขียนเมื่อ 16 มิถุนายน 2007 14:51 น. ()

ขอโทษนะครับ ไม่ได้เข้ามาตั้งนาน ก็เลยไม่ได้ตอบกลับครับ พอดีวันนี้มีเวลา่ว่างได้กลับมาอีกครั้ง ขอบพระคุณท่านอย่างมากๆนะครับ ผมดีใจมากนะครับ ที่ท่านเห็นใจคนไร้สัญชาติอย่างผมอละคนอื่นๆอีกมากมาย ผมเป็นชาวจีนฮ่อครับ เกิดเมืองไทยมีใบเกิด พ่อได้ใบประจำตัวคนต่างด้าวตอนปี 49 แล้วครับ ส่วนแม่ผมได้รับสัญชาติไทยตอนมีนาคม ปี 50 ครับ แม่ก็เกิดไทย อายุท่านได้ 45 แล้วครับ ส่วนผมและพี่สาวที่เป็นลูกๆอย่างไม่ได้อะไรเลยครับ ทั้งๆที่อยู่ทะเบียนเดียวกันผมมีเอกสารทุกอย่างทั้งใบเกิด ทะเบียนบ้าน ทะเบียนประวัติและวุฒิการศึกษา ผมอยู่อำเภอ แม่อายครับ ปันจุบันอายุ 22 แล้ว ครับ อย่างไงก็ช่วยแนะนำหน่อยนะครับ แล้วผมจะกลับมา ขอขอบพระคุณท่านอย่างมากนะครับ

นาย วสันต์ แซ่สิว

ท ะ เ ล ห ม อ ก

เขียนเมื่อ 13 พฤศจิกายน 2007 14:44 น. ()

ผมเป็นคนไทยคนหนึ่งที่ทำงานเกี่ยวกับงานสัญชาติ โดยเฉพาะการกำหนดสถานะฯ ไม่น้อยกว่า10ปี อยากที่จะเสนอแนวความคิดหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะการให้สัญชาติไทยแก่ชนกลุ่มน้อยในประเทศไทย อยากสอบถามว่าการให้สัญชาติไทยของประเทศไทย ให้ง่ายเกินไปหรือเปล่าครับ(ที่กล่าวคือเฉพาะคนต่างด้าวนะครับ ไม่รวมถึงชาวเขาติดแผ่นดิน) ผมเข้าใจว่าคนต่างด้าวก็มีสถานะภาพและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เหมือนเรา แต่น่าจะมีแนวทางในการตรวจสอบและให้สัญชาติกับชนกลุ่มน้อยให้มากกว่านี้ ไม่ทำให้ต้องตกเป็นภาระของสังคม อาจจะต้องกำหนดแนวทางว่าต้องมีงานทำที่มั่นคง หรือมีหนังสือรับรองว่ามีเงินเดือนพอที่จะเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้ หรือต้องมีการศึกษาในระดับไหนเป็นภาคบังคับของคนต่างด้าว แม้แต่หลายประเทศเช่นประเทศสหรัฐที่เคารพสิทธิส่วนบุคคลและคอยเน้นย้ำถึงความเป็นมนุษย์ให้กับประเทศต่างๆการขอสัญชาติของเขามีเงื่อนไขมากมาย ไม่ว่าการต้องทราบประวัติของชาติเขา ภาษา งานที่ทำ เงินเดือน หรือแม้แต่การตรวจสอบด้าวความมั่นคง ... ถ้ามองถึงความจริงชนกลุ่มน้อยอพยพมาจากประเทศเพื่อนบ้าน แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลจากรัฐบาลของเขาเลย ประเทศไทยต้องรับภาระ เพียงเพราะคำว่า "มนุษยธรรม" จะผลักดันกลับก็ไม่ได้ เพราะเหตุผลหลายประการ การกำหนดสถานะถือว่าเป็นการแก้ปัญหาชนกลุ่มน้อยที่ปลายเหตุ อยากทราบแนวความคิดของทุกๆท่านว่า

เราจะแก้ปัญหาไม่ให้คนต่างด้าวล้นประเทศไทยได้ด้วยวิธีใด โปรดอย่าตอบว่าให้เขาเป็นคนไทยทั้งหมดนะครับ จะรอฟังความคิดเห็นจากพวกท่านนะครับ ผมมีแนวคิดหลายอย่างอีกมากมายครับ และคิดว่ารู้ปัญหาเรื่องนี้พอสมควรในระดับหนึ่ง หากท่านใดอยากสอบถามหรือร่วมคุยแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับงานสัญชาติเชิญอีเมลมาสอบถามได้นะครับ ยินดีครับ behappy60@gmail.com