กบ - เคโระ


เจ้ากบตัวน้อยๆ นั่งมองคนเดินผ่านไปมาตาแป๋วๆ คงรอความช่วยเหลือจากคนที่เมตตาอยู่ก็เป็นได้

       ประสบการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีผ่านมาแล้ว คือ ปากซอยเข้าบ้านจะมีตลาดนัดขายของทุกอย่างที่ พ่อบ้าน แม่บ้าน สามารถหาซื้อเข้ามาทำทานเองได้ หรือ สำเร็จรูปก็มี ผลไม้ ขนมก็มี ทีนี้ผู้เขียนวันนั้นกลับจากทำงานเร็วประมาณหกโมงเย็นก็ถึงบ้านแล้วก็เลยแวะหาซื้อขนมมากินที่บ้าน จึงเดินดูเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งสายตาไปประสานกับเจ้ากบ-เคโระ เข้าโดยบังอิญ เจ้ากบน้อยนั่งอยู่ในกะละมังมองคนเดินผ่านไปมาตาแป๋วเลย ผู้เขียนเห็นก็สงสารจึงรีบเดินผ่านไป

       แต่สุดท้ายผู้เขียนก็เดินวนกลับมาที่เดิมแล้วเหมากบทั้งกะละมังกลับบ้าน พอเข้าบ้าน พ่อ แม่ และน้องสาวก็นั่งกันอยู่หน้าบ้านพอดี จึงเปิดกระโปรงท้ายรถเอาของออกและแง้มๆ ไว้หน่อย เพื่อให้กบมีอากาศหายใจ สาเหตุที่ซื้อกบเพราะบ้านผู้เขียนอยู่ติดคลองกะว่าเมื่อซื้อมาแล้วจะนำมาปล่อยที่คลองให้หมด และที่ไม่ต้องการให้ที่บ้านรู้เพราะกลัวถูกดุว่าเอาอีกแล้วชอบสงสารคนอื่นแล้วตัวเองเดือนร้อนประจำ ผู้เขียนรอจนกระทั่งทุกคนเข้าบ้านก็แอบเอาไปปล่อยที่คลองแต่ทดลองปล่อยที่คลองซึ่งเป็นร่องน้ำระหว่างบ้านพ่อกับบ้านอา จะมีคลองเล็กๆ มาบรรจบกับคลองของหลวงที่เป็นคลองกว้างๆ ให้เรือวิ่งกันไปมา และที่ตรงนี้จะมีกอสวะเหมาะสำหรับเจ้ากบน้อยจะแอบได้

       เมื่อผู้เขียนปล่อยลงไปก็เฝ้ามองก่อนว่ากบจะไปได้ไหม ปรากฏว่า กบตัวเล็กๆ แบบรุ่นลูกสามารถไปได้แถมร้องอ๊อบๆ ประสานกันด้วย แต่เจ้าตัวโตวางไว้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ทำให้สงสัยว่าเป็นอะไร จึงต้องเดินลุยน้ำลงไปดูอีก จึงรู้ว่าเจ้ากบกระโดดและเดินไม่ได้ หากปล่อยไว้ก็ต้องเป็นอาหารของเจ้าตัวเงินตัวทองที่อาศัยอยู่แถวนั้นและคนที่เดินผ่านไปมาเพราะหลังบ้านของผู้เขียนเป็นเขื่อนให้คนเดินลัดผ่านไปออกถนนใหญ่ได้ หากปล่อยไว้ก็ต้องเป็นอาหารของคนหรือสัตว์ที่เห็นแน่ๆ และกบที่ซื้อมาก็ตัวโตและอ้วนเสียด้วย งานนี้จึงต้องเดิยลุยน้ำไปตามจับเจ้ากบที่ไปไหนไม่ได้กลับมาใส่กะละมังแล้วเอาไปให้ที่บ้านดูว่าจะทำยังไงดีจนได้

       พอแม่เห็นก็โดนดุอีกว่าไม่เห็นเหรอว่ากบถูกแม่ค้าหักขาหลังทั้งสองข้างทำให้เดินไปไหนไม่ได้ จึงต้องรับผิดว่า ไม่ได้สังเกตเลย และเหมือนเป็นการทำบาป คือ แทนที่คนอื่นจะเอาไปทำอาหารและกบจะได้หายทรมานเร็วๆ แต่ผู้เขียนไปซื้อมาแล้วเอามาเลี้ยงไว้ ทำให้กบต้องทนทุกข์ทรมานนานกว่าตัวเองจะตาย แถมผู้เขียนและทุกคนที่บ้านก็ไม่เคยเลี้ยงกบจึงไม่รู้ว่าต้องให้อาหารอะไร จึงหาข้าวสุกไปวางไว้ให้กบกินแต่ก็ไม่กิน แต่ช่วงที่ผู้เขียนออกมาทำงาน ที่บ้านของผู้เขียนพ่อจะชอบกินกบผัดพริก และแกงกบ พอผู้เขียนไม่อยู่เขาเลยลงมติให้น้องชายจัดการกับเจ้ากบที่นั่งและนอนรอความตายโดยให้น้องชายทุบหัวกบให้ตายก่อน น้องชายก็ยอมทำตามนะ พอจะทุบหัว เจ้ากบก็ร้องเหมือนเด็กทารกตัวน้อยๆ น้องชายจึงไม่กล้าทำและปล่อยเอาไว้เหมือนเดิม พอเลิกงานผู้เขียนก็รีบกลับไปดูแล และที่บ้านก็เล่าให้ฟังแถมดุผู้เขียนอีกว่า ทำให้ที่บ้านไม่กล้าซื้อกบมาทำอาหารอีกเพราะเจอประสบการณ์ครั้งนี้ที่เห็นกบตาแป๋วๆ นั่งและนอนรอความตายอยู่ในกะละมังกลางบ้านทุกวันทำให้ไม่กล้ากินกบ 

       ผู้เขียนเป็นคนไม่กินเนื้อวัวและเนื้อกบอยู่แล้วจึงนึกดีใจที่ทำให้พ่อเลิกกินเนื้อกบไปได้แต่ก็ไม่นานเพราะพอเวลาผ่านไปพ่อก็กลับไปกินแกงกบ หรือผัดพริกกบตามเดิม แต่ทุกครั้งที่เขาซื้อกบกันมาจะเป็นกบตายแล้วไม่ใช่กบเป็นๆ ดังนั้น จากประสบการณ์ครั้งนั้นทำให้ผู้เขียนต้องดูให้ดีก่อนว่าจะทำให้สัตว์ที่จะช่วยเหลือมีความสุขหรือความทุกข์มากกว่าเดิม ไม่อยากทำบาปไปมากกว่านี้ แต่ตอนนี้เอาอีกแล้ว พ่อชอบซื้อหอยแครงมา และไม่ยอมลวกเอง กะรอให้แม่ลวกให้ แต่แม่ก็ป่วย น้องสาวก็ท้อง ผู้เขียนเกิดมาก็ไม่เคยลวกหอย เนี่ยถ้าหากปล่อยในคลองไม่ตาย แอบปล่อยจริงๆ ด้วย แค่ที่บ้านซื้อปูทะเลมา กลางคืนเก็บไปฝันเสียมากมายว่าเห็นหลุมฝังศพปูเต็มไปหมด มันเกินไปจริงๆ นะสำหรับความคิดของผู้เขียนเพราะสิ่งเหล่านี้เป็นอาหารของมนุษย์ แต่ผู้เขียนชอบหักมุมทำให้คนที่บ้านเบื่อมากว่าอะไรก็ไม่ได้ พอดีไม่ต้องมีอะไรกินกันพอดี ดังนั้น เวลาที่น้าๆ มาสังสรรค์ที่บ้านและทำอาหารกันทานก็จะพูดเสมอว่า "บาปอยู่ที่คนทำ กรรมอยู่ที่คนกิน" ถือว่าเป็นการแบ่งการทำบาปไปด้วยกัน

คำสำคัญ (Tags): #กบ#เคโระ
หมายเลขบันทึก: 99062เขียนเมื่อ 28 พฤษภาคม 2007 10:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 มีนาคม 2012 11:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
ผมว่านะครับ นอกจากกบแล้ว ไม่ว่าสัตว์ชนิดไหนๆ ที่ถูกเอามาขาดอยู่ตามตลาด ก็น่าสงสารอยู่ดี บางที ผมเห็นปลาที่ ถูกเลี้ยงในตู้แก้วแคบๆ ผมยังอดคิดไม่ได้ว่ามันน่าจะไป ว่ายอยู่ในแม่น้ำที่กว้างใหญ่ มากกว่าจะไปอยู่ในตู้แคบๆอย่างนี้ แต่ก็ทำไรไม่ได้ครับ เพราะมันไม่ใช่ตู้ปลาผม >.< ขอบคุณมากที่เล่าเรื่องดีให้ฟังครับ

จริงอย่างที่น้องบอกค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท