ความไม่จริงของแม่ชี จันทร์ ขนนกยูง ในคู่มือสมภาร


ข้อที่ว่า คุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ศึกษาวิชาธรรมกาย แล้วได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเวร ในการทำวิชานั้น เป็นข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริง

เขียนกรณีนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงข้อเท็จจริง ตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ของผู้ที่ศึกษาวิชาธรรมกาย เพื่อให้ถูกต้องตรงตามวิชาที่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ได้ค้นคว้าไว้ เพื่อให้ถูกต้องตรงตามที่พระพุทธเจ้า แลพระจักรพรรดิ์ ทุกระดับ ผู้ทรงรักษาวิชาและปกป้องวิชาธรรมกายนี้ พวกเราเหล่าลูกศิษย์จำเป็นต้องให้ข้อมูลที่ครบถ้วน เพื่อยังผู้ใฝ่ในธรรม ได้เข้าใจและวินิจฉัยตามหลักนักปราชญ์ ป้องการการถูกชักจูง หลอกรู้ลวงญาณ ทำให้เสียโอกาสในการเข้าถึงวิชาธรรมกายที่ถูกต้อง จะทำให้การเข้านิพพาน เนิ่นช้าไป

คู่มือสมภาร ฉบับวัดพระธรรมกาย

ในคู่มือสมภารที่วัดพระธรรมกายจัดพิมพ์ เนื่องในโอกาสพิธีจุดไฟแก้วสลายร่าง ของคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2545 มีข้อผิดพลาดและยกย่อง ครูบาอาจารย์ของตนจนเกินกว่าเหตุ และไม่มีใครแก้ข้อมูลนี้ให้ถูกต้อง ทำไมเงียบกันไปหมด

ข้อความคลาดเคลื่อน 

ข้อที่ว่า คุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ศึกษาวิชาธรรมกาย แล้วได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าเวร ในการทำวิชานั้น เป็นข้อความบิดเบือนข้อเท็จจริง

ข้ออธิบาย สมัยนั้นหัวหน้าเวร ผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งนั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ จะเป็นผู้ตรวจสอบและแต่งตั้ง เวรมีอยู่ 6 เวร เวรละ 4 ชั่วโมง มีหัวหน้าเวรอยู่ 5 ท่าน ว่างอยู่ 1 คือคุณยายอาจารย์ แม่ชีปุก มุ้ยประเสริฐ ผู้ได้รับการชมเชยว่าเป็นรัตตัญญูแห่งวัดปากน้ำ คุณยายอาจารย์แม่ชีญาณี ศิริโวหาร คุณยายอาจารย์แม่ชีชั้น จอมทอง คุณยายอาจารย์ฉลวย สมบัติสุข คุณยายอาจารย์ตรีธา เนียมขำ อยู่วัดปากน้ำในปัจจุบัน ที่ว่าว่างอยู่  เพราะว่างอยู่นาน จนมีผู้เหมาะสมมาปฏิบัติธรรมนั่นคือคุณยายอาจารย์แม่ชีถนอม อาสไวย์


หัวหน้าเวรทำวิชชา

 

การแต่งตั้งคุณยายอาจารย์แม่ชีถนอม อาสไวย์นั้น ตั้งอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่ผู้ศึกษาวิชาธรรมกายในภายหลังควรทราบ มีคำอธิบายว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ได้เรียกประชุม และให้หัวหน้าเวรเข้าที่ เข้าธรรมกายไปถามพระพุทธเจ้าในนิพพาน เวลาถามไม่ได้ถามองค์เดียวนะครับ แล้วให้ตอบหลวงพ่อ คุณยายแม่ชีปุกก็ตอบว่า ให้แม่ชีถนอม คุณครูฉลวยก็ให้แม่ชีถนอม หัวหน้าเวรทุกท่านลงความเห็นให้แม่ชีถนอมทั้งนั้น เป็นเอกฉันท์ จึงตั้งคุณยายอาจารย์แม่ชีถนอม อาสไวย์ เป็นหัวหน้าเวรคนที่ 6 ตั้งแต่นั้นมา

ถามว่าคุณยายอาจารย์แม่ชีจันทร์นั้น อยู่ไหม ตอบว่าอยู่และเป็นผู้เจริญวิชชาในโรงงานมาก่อนแม่ชีถนอมหลายปีมาก แต่เรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับบุญบารมีเดิมครับ

ส่วนเรื่องคำชมคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์นั้น เรื่อง "เป็นหนึ่งไม่มีสอง" ท่านเข้าใจอย่างไร ถ้าเข้าใจว่าเป็นเรื่องของวิชาธรรมกายว่าเก่งจนคนอื่นเทียบไม่ได้ ขอตอบว่าคลาดเคลื่อน "เป็นหนึ่งไม่มีสอง" นั้น พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด ท่านชมว่าคุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ท่านตรงต่อเวลา พอถึงเวรท่านก็จะเข้าเวรตรงเวลา ส่วนท่านอื่นๆ ตรงเวลาบ้าง ช้าบ้าง สู้คุณยายอุบาสิกาจันทร์ไม่ได้

ข้อมูลมีอยู่อย่างนี้ โปรดใช้โยนิโสมนสิการ ตามอัธยาศัย

------------------------------------------------------------ 

เว็บแนะนำครับ  

www.wisdominside.org
forum.wisdominside.org
th.wisdominside.org
http://www.kayadham.org/

ประชาสัมพันธ์

http://dhammakaya.meditation.project.googlepages.com/home

หมายเลขบันทึก: 98716เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2007 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:01 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (80)
อ้าว งั้นแม่ชีจันทร์ ก็ไม่ได้เป็นหัวหน้าเวรน่ะซิครับ ถ้าอย่างนั้นแล้ว แม่ชีจันทร์ท่านมีหน้าที่ทำอะไรในโรงงานทำวิชาในสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำยังมีชีวิตอยู่ละครับ

แม่ชีจันทร์ท่านก็ทำหน้าที่ของท่านไป ก็อยู่ในโรงงานนั่นแหละ จนเมื่อหลวงพ่อสด มรณะภาพ ก็อาศัยทุนจากที่คุณลุงการุณย์หาเงินมาให้ โดยการรับบริจาคการทำบุญปล่อยปลา รักษาชีวิต จนมีเงินเก็บ 50,000 บาท มาเป็นทุนสร้างบ้านธรรมประสิทธิ์ จนเกิดเป็นกลุ่มคน ท่านเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายในปัจจุบัน เข้ามาศึกษา แล้วก็พัฒนามาเป็นวัดพระธรรมกายในปัจจุบัน

เหตุที่คุณยายแม่ชีทองสุก สำแดงปั้น ฝากให้คุณลุงการุณย์ช่วยอุปการะและดูแลแม่ชีจันทร์ด้วย จึงทำให้คุณลุงการุณย์ หาทางหาเงินมาเพื่อมอบให้ทางแม่ชีจันทร์ ทำโครงการบ้านธรรมประสิทธิ์นั่นเอง เพราะคุณยายแม่ชีทองสุก สำแดงปั้น ก็เป็นอาจารย์ผู้หนึ่งของคุณลงการุณย์เหมือนกัน  

 ซึ่งยังมีรายละเอียดน่าสนใจศึกษาต่อไป

ผมเขียนเรื่องนี้มาไม่ได้หวังโจมตีใคร เขียนมาเพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น ผมเชื่อว่าธรรมภาคกุศล เป็นของจริง ไม่มีใครมาบิดเบือนได้ เพราะการบิดเบือนเป็นปิฎกของอกุศล

มีผู้อ่านมาถึงวันนี้ ก็ไม่มีผู้ใดมาว่ากล่าว หรือจะมีท่านใดตักเตือนก็น้อมรับตามหลักนักปราชญ์

ขอทุกท่าน จงเจริญในธรรมแห่งกุศลธรรม ให้หยุด ให้นิ่ง ให้ใส ให้คล่อง ในธรรมทุกเมื่อ 

มีคำถามครับ แล้วตอนนี้หลวงพ่อท่านไปอยู่ที่ไหนเหรอครับ ท่านจะมาเกิดอีกไหม หรือ ว่าท่านเข้านิพพานไปแล้วครับ เป้าหมายการมาเกิดของท่านคืออะไรครับ ท่านจะไปเป็นพระพุทธเจ้าไหมครับ แล้วถ้านั่งสมาธิจะไปหาท่านได้ไหมครับ ไปหาได้ที่ไหนครับ

พระเดชพระคุณหลวงพ่อสด อยู่ที่ไหน ตอบว่าตอนนี้หลวงพ่ออยู่ระหว่างนิพพานกับภพทั้ง 3 ไม่ได้อยู่ที่ดุสิตบุรี อะไรนั่นหรอกครับ ลักษณะเป็นธรรมกายขนาดใหญ่มหึมา พอนิ่งไปกลางดวงปฐมมมรรคของธรรมกายนั้น จะเห็นจุดเล็กใสโตเท่าปลายเข็ม อธิษฐานให้เห็นหลวงพ่อก็จะเห็น หรือบางครั้ง พอนิ่งไปกลางท้องขององค์พระ ก็จะเห็นหลวงพ่อเลย ส่วนจะใสขนาดไหนขึ้นอยู่กับใจว่าจะนิ่งขนาดไหน

แต่ท่านต้องตรวจสอบด้วยว่าที่เห็นนั้น ใสทั้งหมดไหม ถ้ามีจุดเล็กใส เป็นจุดดำนิดหนึ่ง ก็ใช้ไม่ได้ ต้องตรวจสอบด้วย

เป้าหมายการมาเกิดของหลวงพ่อครั้งนี้ เป้าหมายแรก หลวงพ่อมาเกิดเพื่อดับตัวละครสำคัญ ไม่สามารถอธิบายให้ท่านทราบในตอนนี้ได้ ว่าเป็นใคร ประการที่สอง หลวงพ่อมาเกิดเพื่อทำวิชาปราบมาร ผู้ที่สั่งให้หลวงพ่อมาเกิด คือ ธาตุธรรมผู้ใหญ่ในนิพพานเก่าก่อน ที่ทำหน้าที่ปกครองธาตุ ปกครองธรรม ณ ช่วงเวลานั้น เนื่องจากผู้ปกครองธาตุธรรม ในแสนโกฎิจักรวาลธาตุ แสนโกฏิจักรวาลธรรม เป็นอนันตตจักรวาลนั้น แต่ละช่วงจะมีผู้ปกครองไม่เหมือนกัน เอาเท่านี้ก่อน

ผู้ที่สามารถค้นคว้าวิชาธรรมกายได้นั้น ต้องมีบารมีเหมือนพระพุทธเจ้า จึงจะสามารถค้นคว้าวิชาธรรมกายได้ ซึ่งหลวงพ่อสามารถค้นพบวิชาได้ จึงมีความสำคัญมาก เป็นพระมหาเถระอริยสงฆ์ ที่เกิดในประเทศไทย วิชาธรรมกายจึงเป็นวิชาของคนไทยอย่างแท้จริงที่ไม่ได้ลอกเรียนแบบใครมา เพราะวิชานี้ดับสูญไปเป็นพันปี และเป็นวิชาที่สามารถอธิบายพระไตรปิฎกอย่างแจ่มชัด อยากทราบรายละเอียด ต้องศึกษาให้มากขึ้น อย่ามานั่งเถียงแบบไม่มีข้อมูล หรือข้อมูลน้อยเกินไป

อยากไปหาหลวงพ่อนั้นสามารถนั่งสมาธิไปได้ ไม่ยาก แต่ต้องเป็นวิชาธรรมกายที่ถูกต้อง ไม่ผิดเพี้ยน ก็สามาถเห็นได้ครับ คุยได้ ถามได้

ถ้าคิดถึงหลวงพ่อจริงๆ ก็มาฝึกปฏิบัติธรรมร่วมกับเรานะครับ จะได้วิชาธรรมกายจริงๆ จังๆไป เพราะวิชาเหล่านี้ เราต้องจำ ท่อง ทำเป็นโดยตนเองให้ได้ เหมือนเรากินข้าวเป็นไม่ต้องให้ใครตักป้อนให้ อย่างนั้นเลยครับ

สงสัยอะไรก็ถามมานะครับ ผมไม่ใช่พระ ก็ตอบแบบไม่เกรงใจใครได้ครับ ไม่ต้องกลัวอาบัติครับ ไม่ได้โชว์ออฟนะครับ แต่แสดงเพื่อเป็นความรู้ ในการศึกษานะครับ

คุณทำหน้าที่อย่างนี้คุณเจษฎาไม่ทราบไปศึกษาวิชาธรรมกายมาจากใครหรือคับ พอบอกได้เปล่าแล้วที่พูดออกมาเป็นตุเป็นตะเนี่ยศึกษาถึงขึ้นไหนแล้วคับ

 

อยากรู้ว่าผมศึกษามามากขนาดไหน

ลองไปดู www.kayadham.org นี่เป็นแหล่งความรู้ส่วนหนึ่ง

บวกกับอีก 20+ ปีในการศึกษาปฏิบัติธรรม ในสายวิชาต่างๆ มากมาย จนกลัวตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ธาตุธรรมจะปนเป็น ถ้าท่านเรียนวิชาธรรมกายมาจะเข้าใจความหมาย 

โปรดใช้โยนิโสมนสิการเอาเองนะครับ ผมรับผิดชอบสิ่งที่แสดงต่อสาธารณะอยู่แล้ว แม้ไม่มีกฎหมายบังคับ ผมยึดหลักธรรมาธิปไตย ถือธรรมะเป็นใหญ่ ยิ่งหญ่กว่าสิ่งใดๆ ในโลกนี้

 

ขอเชิญมาศึกษาวิชาธรรมกายกันให้มากๆ เรียนกันจริงๆ จังๆ อย่าตีกรอบความคิดของตัวเองมากเกินไป อย่ากลัว ต้องใส่ความกล้าที่จะเรียนรู้  และทำตัวเหมือนแผ่นดิน ในการสร้างบารมี

 มาเรียนกันเถอะครับ เรากล้าเปิดเผยตนในทางแจ้ง เพราะเราต้องการความรู้ที่แจ่มแจ้งนั่นเอง

อย่าคิดว่าเราเป็นศัตรู เพราะไม่มีประโยชน์ เราไม่ต้องการชื่อเสียง ไม่ต้องการเงินใคร ไม่ต้องการอำนาจ ไม่ต้องการคำยกย่อง

เราต้องการบารมีในการเผยแพร่ธรรม ซึ่งไม่มีบารมีใดยิ่งใหญ่กว่านี้แล้ว นอกจากบารมีปราบมาร ซึ่งเรายังทำไม่ได้

เรียนถามคุณเจษฎาคับ ว่า  แล้วเรื่องที่บอกว่าวัดพระธรรมกายสอนไม่ถูกต้องตามคำสอนของหลวงปู่นั้นสอนไม่ถูกตรงไหนคับ ช่วย บอกหน่อยคับ (ขอความกรุณาส่งเป็น E- [email protected])

เรื่องนี้มีรายละเอียดมาก เลยต้องคนช่วย ได้ ดร.มนัส มาตอบ รายละเอียดเป็นเช่นไร เชิญทัศนาครับ

http://forum.wisdominside.org/index.php?topic=79.0

 ช่วงนี้ขอตอบสั้นๆ ก่อน เดี๋ยวคำอธิบายแบบยาวๆ จะมาตามหลัง 

คำตอบหลักๆ 
วัดพระธรรมกาย (โดยการนำของพระธัมชโย) ไม่ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของหลวงพ่อสดในทุกๆ เรื่อง

หลักฐานสนับสนุน
1) หลวงพ่อสดไม่เน้นการสร้างถาวรวัตถุ เน้นการสร้างพระในใจคน  แต่วัดธรรมกายเน้นการสร้างวัตถุเป็นส่วนใหญ่ เพื่อหาเงินเข้าวัด เงินส่วนหนึ่ง (มากน้อยเท่าใดไม่ทราบได้ แต่น่าจะเกินครึ่ง) ก็เข้ากระเป๋าเจ้าอาวาส

2) พระธัมชโยไม่เคยสอนใครให้ได้ดวงธรรม จึงสร้างภาพว่า การสอนคนให้เห็นดวงธรรม กายธรรม 18 กายต้องเป็นพระเท่านั้น  อันนี้ไม่จริง เพราะพวกผมสอนได้รวมๆ กันเกือบ 1 ล้านคนแล้ว (การนับมีการนับซ้ำ หมายความว่า สอนครั้งหนึ่ง นับ 1 คน)

พิสูจน์ได้จากเว็บนี้ หรือตามไปดูการสอนก็ได้  หรือถ้าจะเอาให้แน่ๆ เลย หาเด็กนักเรียนมาให้เราสอนเลย เราจะไปสอนให้ดู  หานอกกรุงเทพฯ ก็แล้วกัน เพราะในกรุงเทพฯ สอนมาเกือบทุกโรงเรียนแล้ว  และเด็กจะเอาเป็นไทย จีน ฝรั่ง ฯลฯ ได้ทั้งสิ้น  ถ้าเด็กไม่ใช้ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ  หาล่ามมาแปลให้ด้วยก็แล้วกัน  ขอเวลาแค่ 1 ชั่วโมงจะพิสูจน์ให้ดูอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

เมื่อตัวเองสอนไม่ได้ เลยมีการใช้เทคนิคสร้างภาพบอกว่า ชาตินี้เรี่ยไรก่อน ชาติหน้าค่อยมาทำกายธรรม การทำแบบนี้ คนเชื่อก็ไม่ค่อยฉลาดนัก  ชาติหน้ามันกะเกณฑ์กันได้ง่ายๆ เมื่อไหร่  ถ้าทำได้ชาตินี้ทำไมไม่ทำเลย

และการบอกว่า การทำบุญโดยการทำทานได้บุญมาก ผิดหลักพระไตรปิฎก ธรรมทานได้มากสุด  ถ้าให้ธรรมทานไม่ได้ ปฏิบัติธรรมเองก็ได้มากกว่า  การเรี่ยไรบ้าเลือดแบบวัดพระธรรมกายไม่ได้บุญบารมีอะไรนัก

3) การสอนต้องให้ผู้รับการสอนเดินฐานของใจ ตั้งแต่ 1-7 ไม่ใช่ไปตั้งที่ฐานที่ 7 เลย  การสอนให้ตั้งใจที่ฐานที่ 7 เลย ทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นดวงธรรมกายธรรมด้ยาก เพราะนิวรณ์ 5 เกิดได้ง่าย  ผู้ปฏิบัติจะเอาใจซัดส่ายไปเรื่อยๆ บางคนเผลอสติไปเป็นชั่วโมงก็มี

การสอนแบบวิทยากรของคุณลุง จะบอกให้ผู้ปฏิบัติทำตามตั้งแต่ฐาน 1-7  ทำให้ผู้ปฏิบัติต้องเอาใจจดจ่อตามวิทยากร  นิวรณ์ 5 เลยไม่เกิด จึงเห็นดวงธรรม กายธรรมได้ง่าย

4) พระธัมชโยเอาวิชชาธรรมกายของจริง มาล่อลวงให้คนบริจาค  เป็นการสร้างกรรมหนักมาก  พูดอย่างเข้าข้างตัวเอง  บารมีของพระธัมชโยไม่เท่าปลายเล็บบารมีของผมหรอกครับ  พระธัมชโยสร้างภาพทั้งนั้น


ตรงนี้ เอาแค่นี้ก่อน แล้วรายละเอียดจะมาตามหลัง

 (อ่านแล้วรู้สึกอย่างไร โปรดพิจารณาเอาเองนะครับ ดุดันพอสมควร แต่ผมไม่ได้ตัดข้อความอะไร copy มาให้อ่านทั้งดุ้น)

คุณเจษฎาครับ  อยากทราบว่าวิชาธรรมกายที่ถูกต้องนั้นควรไปศึกษาที่ไหน  ที่วัดปากน้ำพอมีผู้ฝึกให้เราได้ไหม

เก่งไปเถอะคุณ ตายไปแล้วจะรู้เอา

1. ก้อไม่เห็นวัดพระธรรมกายไปทำความเดือดร้อนให้ใครนี้คับ

2.  กลับตรงกันข้าม กับทำคนให้เป็นคนดี

3. ก้อไม่เห็นต้องกัดกันเลย

4. แล้ว อ. การุณย์ เป็นใคร

5. ไม่รู้จัก

6. แล้วคุณไปด่าพระอย่างนั้นได้อย่างไร (ไม่เข้าใจ)

7. วัยรุ่นเซง

8(สุดท้าย วิชาธรรมกาย 18 กายคืออะไร ผู้ที่เปนวิทยากร เข้าถึงกันหรือยัง(ไม่เข้าใจ)

ตอบตามภาษาวัยรุ่น

1.แสดงว่ายังไม่ค่อยมีข้อมูลเลยไม่รู้ บางบ้านลูกจบปริญญา จะได้เป็นที่พึ่ง ก็เข้าวัดเสียหมด พ่อแม่ใจสลาย แต่พูดไม่ออก น้ำตาซึม ร้องไห้ ลูกก็ไม่เห็น ทำไปทำไม วัดไม่ได้ทำร้ายใครเพราะวัดเป็นวัตถุ ถูกต้องแล้วครับ

2.ใช่ครับ ที่ไหนก็ทำให้เป็นคนดี แต่ต้องมีสัมมาทิฐิด้วย คนดีมีหลายแบบ ศาสนาไหนๆ ก็สอนเป็นคนดี

3.ไม่ได้กัดใคร เพราะเราไม่ใช่หมา เลยไม่รู้ตอบยังไง

4.อ.การุณย์ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดปากน้ำ สามารถขยายความวิชาธรรมกายได้ทุกเรื่อง เป็นบุคคลสำคัญมาก

5.ลองหาข้อมูลแล้วจะได้รู้จัก

6.เรื่องด่าพระ เป็นของ ดร.มนัส ผมไม่เกี่ยว แต่ส่วนใหญ่ที่เป็นพระจริง เราเคารพเหนือหัว แต่ถ้าเป็นแพะ เอาผ้าเหลืองมาหากิน เราด่าแน่นอน ดุเดือดๆๆ

7.ถ้าเซง ก็ไปนั่งสมาธิ ร้องเพลง กินข้าว จะได้หายเซง

8.ไม่รู้จักวิชา 18 กาย อย่าหมายได้มรรค ผล เข้านิพพาน ต้องอธิบายความรู้กันยาว วัยรุ่นขี้เกียจพิมพ์

หนุกหนาน ๆ ๆ ๆ

ตายไปแล้วจะรู้ ก็ช้าไป ต้องรู้ก่อนตาย ถึงจะไม่เสียชาติ ที่ลงมาเกิด

คุยด้วยเหตุผล หลักวิชา ถึงจะมีสุข เถียงด้วยอารมณ์ ด้วยหลงภาพพจน์ มีแต่ทิฐิมานะ เถียงให้ตายก็ไม่ได้ความ

ดูเหมือนจะร้อนตัวยังไงไม่รู้นะค่ะ....

เป็นผูใหญ่หรอเนี่ยอารมณ์ร้อนจังเลย

ก็เด็กมันไม่รู้ก็ตอบมันหน่อยดิ

ข้อมูลโคดมั่ว

เอามาจากนายการุณอ่ะดิ

อยากรู้ความจริงว่าเป็นงัย ไปถามคนที่อยู่ทันสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำก็รู้

จริงๆไม่อยากเอ่ยชื่อท่าน แต่เห็นว่าข้างบนเอ่ยชื่อท่านมาแล้ว ก็ขอเอ่ยชื่อท่านละกัน

ท่านคือคุณยายอาจารย์ฉลวย สมบัติสุข ตอนนี้ท่านอยู่เชียงใหม่

ท่านยืนยันว่า คุณยายจันทร์ เป็นหัวหน้าเวรจริง

ท่านยังบอกอีกว่า อย่าไปใส่ใจ คนที่เอาวิชชาของหลวงพ่อ ไปแต่งหนังสือขายเลย

คนๆนั้น อาศัยมาคุยกับคนที่ได้วิชชาธรรมกาย แล้วก็เอาไปแต่งหนังสือขาย

ไม่ต้องเชื่อที่ผมบอกนะ อยากรู้ความจริง ไปกราบท่านเพื่อสอบถามได้เลย

ทำไมไม่มีกระทู้ต่อละ

พวกเราศึกษาวิชาธรรมกาย อย่างเป็นหลักวิชาการ พร้อมผลปฏิบัติที่เห็นจริงตามภูมิธรรมของตน เราไม่ชอบศึกษาแบบปากต่อปาก เพราะสามารถผิดเพี้ยนง่าย ต่างคนต่างฟัง ผสมให้ความคิดเห็น พอนานไปก็เพี้ยนไปหมด เรื่องบางเรื่องสมัยหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่ หลวงพ่อคุมวิชา อะไรๆ หลวงพ่อก็ป้องกันหมด ปัจจุบันใครจะคุมวิชาให้ เป็นเรื่องพึงสำเหนียกให้หนักแน่นในใจ

และการที่มีท่านผู้รู้พิมพ์ตำรามาให้อ่าน ก็ต้องขาย เพราะการพิม์ตำราใช้เงินทั้งนั้นเป็นทุนดำเนินการ อยู่ที่ว่าเมื่อขายไปแล้ว ผู้แต่งตำรานั้นได้เงินหรือเปล่า และมีเจตนาขายตำรากินหรือเปล่า นั่นก็ต้องสอบทานกัน

ความรู้แบบนั้น ท่านก็ต้องศึกษาแบบอย่างนักปราชญ์ จะวิจารณ์อะไร ก็อย่าเป็นแบบหลบๆ ซ่อนๆ ถือว่าให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ถือเป็นนิสัยของผู้ดีพึงกระทำ เพราะในที่สุดแล้ว ตนนั่นแลเป็นที่พึ่งแห่งตน และตนก็เป็นผู้รับผลของการกระทำของตนเองทั้งนั้น

ส่วนสิ่งใดจะเกิดขึ้นต่อไป ผู้กระทำนั้นก็ต้องพร้อมที่จะยอมรับในผลของสิ่งที่เรากระทำทั้งนั้น พึงระลึกรู้ในธรรมให้เกิดขึ้นในใจเถิด จะมีสุขตลอดไป

ลองสังเกตดูนะครับ ว่าก่อนที่คุณยายแม่ชีถนอม จะมา หัวหน้าเวรว่างอยู่ แม่ชีจันทร์ ได้รับการตั้งให้เป็นรักษาการณ์หัวหน้าเวรนั้นอยู่ รักษาการณ์ กับการเป็นหัวหน้าเวนจริงนั้น คล้ายๆ แต่ไม่เหมือนกันนะครับ คุณมั่วมากสังเกตดูเอานะครับ

ข้อมูลดูมีเหตุมีผลดีครับ...

เคยฟังพวกวัดธรรมกาย ก็ว่าแปลกๆอยู่ กลุ่มนี้เค้าเกาะ

กามภพกันมากกว่าอยากไปนิพพานแต่เค้าว่าเป็นแนว

หลวงพ่อสด เลยทำให้ผมอยากรู้ว่าแนวหลวงพ่อสดจริงๆ

นั้นเป็นอย่างไร จนได้มาเจอเวปนี้แหละครับ

 

ขอบคุณที่ทำให้ผมรู้ว่าสายอาโลกสิณแท้ๆยังมีอยู่มาก

และขออนุโมทนาด้วยครับ

 

 

คุณเจษฎา สุนันท์ชัย

ได้ยินคำบอกเล่าเรื่องคุณยายจันทร์ จากปากคุณยายถนอมท่านเองหรือเปล่า

หรือฟังมาจากปากนายการุณย์

ผมบอกไปแล้วว่า อยากรู้ความจริง ให้ไปกราบเรียนถามคุณยายฉลวยท่านเอง

จะได้รับคำตอบจากปากท่านเองเลย

ไม่ใช่ฟังนายการุณย์พูดอะไรก็เชื่อไปซะหมด

นายการุณย์น่ะ มาไม่ทันหลวงพ่อสดซะหน่อย ไม่เคยเรียนวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อสดด้วยซ้ำ ไปกราบถามคุณยายฉลวยท่านเองเลยดีกว่าไหม

แต่ถ้ารู้ตวามจริงแล้ว ก็อย่าเสียใจละกัน

ปล.อยากฝากบอกว่า เลิกเหอะ ไอ้การสอนวิชชาธรรมกาย โดยวิทยากรที่ยังไม่เข้าถึงธรรมกาย แต่ใช้ท่องจำวิธีการผิดๆจากนายการุณย์ แล้วเอาไปสอนต่อ แบบผิดๆเหมือนกันเป๊ะๆเนี่ย ไม่ดีหรอกนะ

ผมพูดอาจจะแทงใจไปหน่อย แต่เชื่อว่า ถ้าคุณมีสติปัญญาและเหตุผลอยู่บ้าง ก็คงรู้ตัวดี ว่าเป็นอย่างที่ผมพูดจริงหรือไม่

สมัยหลวงพ่อสดน่ะ เวลาท่านจะส่งคนออกไปสอนใคร คนนั้นต้องได้ธรรมกาย และมีความเชี่ยวชาญในวิชชาธรรมกายก่อน จึงส่งออกไปสอน

ไม่ใช่ทำกันอย่างที่พวกคุณทำกันแบบนี้ บิดเบือนวิชชาธรรมกาย กรรมหนักนะครับ

ถ้าอยากศึกษาวิชชาธรรมกายจริงๆ ผมว่าเลิกเรียนจากนายการุณย์เถอะ

ครูบาอาจารย์ที่ท่านอยู่ท่านสมัยหลวงพ่อสด ตอนนี้ยังพอมีเหลืออยู่ให้ไปกราบถาม

หรือเรียนวิชชากับท่านได้

คุณยายฉลวย ที่เชียงใหม่ก็ได้

หรือคุณยายตรีธาก็ได้ ท่านอยู่ที่วัดปากน้ำนั่นแหละ

อยู่ที่พวกคุณแล้วล่ะ ว่าจะยอมรับความจริงกันหรือไม่

หรือจะเชื่อที่นายการุณย์ แต่งเรื่องกันต่อไป

ผมว่าไม่ต้องขึ้นไปถามจากปากคุณยายถนอมท่านเอง หรอกครับ

มีพระราชพรหมเถร (หลวงพ่อภาวนาฯ วีระ คณุตฺตโม)พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสนาองค์ปัจจุบัน อยู่ที่วัดปากน้ำใกล้ๆนี่เองครับ ลองไปกราบท่านดูครับ

สืบเชื้อสายวิชชามาโดยตรงจากหลวงปู่สดฯ๑ อยู่ทันทุกเหตุการณ์ทุกกรณีที่พวกคุณถกเถียงกันอยู่๑ ดำรงค์ตำแหน่งซึ่งถือว่าสูงสุดของสายวิชชาธรรมกาย(ที่มีกายเนื้อทรงขันธ์อยู่๑

น่าแปลกไหมครับไม่มีใครพูดถึง หรืออาจไม่มีใครรู้จักท่านเสียด้วยซ้ำ

ลองคิดดู ดีๆครับ ลองคิดดู

หลวงพ่อภาวนาฯ วีระ คณุตฺตโม ผมเคยเห็นท่านมาเป็นประธานงานต่าง ๆ ที่จัดขึ้นที่วัดพระธรรมกายอยู่บ่อย ๆ รูปหล่อหลวงพ่อสดทองคำแท้ ๆ ที่อยู่ในวิหารตอนนี้ก็จะอันเชิญไปที่วัดปากน้ำ จะไว้ที่เจดีย์ที่สร้างใหม่นั่นแหละ

คุณยายฉลวยกับคุณยายครูตรีธาก็ยืนยัน แล้วจะเอาอะไรอีกครับ

คุณลุงการุณท่านทำอะไรอยู่ทำไมไม่บวชซ่ะล่ะครับ หรือคุณลุงคิดว่าทำวิชชามามากพอไม่ต้องบวชพระก้ได้

อ่านไปอ่านมา เหมือนจะมาชวนทะเลาะ อ้างกันไปต่างๆ นาๆ ผมเองก็ขี้เกียจตอบ เพราะตอบไป ก็ต้องเอาประเด็นนั้นมาตีกันอีก การเรียนรู้โดยไม่มีตำรา เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร จะอ้างว่าใครพูดอย่างนั้น อย่างนี้ มันก็ได้ จะให้ผมต้องไปหาเรื่องราวมาตอบทุกอย่าง ก็ไม่มีความสามารถมากพอ เอาเป็นว่า ใครจะว่าคุณลุงการุณย์ (นายการุณย์)อย่างไร ก็ตามใจท่านเถิด ข้อนี้ผมไม่เขียนแก้ต่างให้คุณลุงต่อไป แล้วแต่ท่านๆ จะพิจารณา เรื่องปราบมารเป็นเรื่องของคุณลุงการุณย์ เป็นเรื่องใหญ่โตมาก ถ้าท่านไม่รู้เรื่องราว ก็ไม่เห็นค่าคุณลุงหรอก ก็เป็นเหมือนตาแก่ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น ข้อนี้ท่านควรจะพิจารณาเอง

ส่วนเรื่องวิทยากร ท่านบอกไม่เข้าถึงวิชา แล้วไปสอน ท่านกล่าวตู่ว่าท่องผิดๆ อันนี้ เขาเรียกว่าเขียนหาเรื่อง ถ้าท่านอยากหาเรื่อง ก็ไปพิสูจน์เอาตอนเราสอน ลองดูที่ท่านว่าผิดๆ ทำไมคนเห็นกายธรรมมากมายมหาศาลขนาดนั้น ผมเองไม่อยากจะต้องมานั่งแก้คำกล่าวตู่ทั้งหมด เสียเวลา ท่านทำกรรมใดไว้ ก็ปล่อยให้ท่านเป็นผู้รับผลมันไป จะมาตอบโต้แบบโต้วาที ก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรในชีวิตผม ผู้ใหญ่เราก็สอนเห็นกายธรรม เด้กเราก็สอนได้ สอนมามากแล้วด้วย เรื่องกล่าวตู่แบบนี้ ผมไม่สะเทือนเลย

พวกเราก็สร้างบารมีของเราไป จะไปตัดแข้งตัดผลประโยชน์ใคร เราไม่รู้ รู้แต่ต้องเผยแพร่และอนุรักษณ์วิชาธรรมกาย

ส่วนเรื่องลุงทำไมไม่บวชพระ อันนี้แสดงว่าไม่เคยอ่านหนังสือของลุง อ่านแล้วจะเข้าใจเหตุผลเอง ไม่เสียเวลาตอบ

เรื่องหลวงพ่อภาวนา (พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดปากน้ำ) ไปวัดพระธรรมกายนั้น ผมไม่เคยเห็น เห็นไปแต่วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ราชบุรี ซึ่งผมก็เป็นลูกศิษย์ที่นั่น แม้ในปัจจุบันก็นับตนเองเป็นลูกศิษย์ เพราะได้วัดนี้เป็นเนื้อนาบุญมาหลายๆ ปี ถามว่าพระในวัดพระธรรมกาย ถือหลวงพ่อภาวนาเป็นครูบาอาจารย์หรือเปล่า ให้ท่านไปหาคำตอบเอาเถิด ถ้านับถือต้องให้หลวงพ่อภาวนา คุมวิชาต่างๆ ให้

สงสัยเรื่องนี้มันแสลงใจ คนหลายคน ผมก็จะไม่ลบความเห็นของท่านทั้งหลายที่เขียนไว้ อันไหนดี ไม่ดี ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น สุดแต่โยนิโสมนสิการของท่านเอง และก็ไม่ขอหยุดการสร้างบารมีด้วย เพราะเป็นเรื่องอิสระของผม ส่วนละเอียดผมก็ปล่อยให้ธาตุธรรมผู้ใหญ่ปกครองดูแล ส่วนเรื่องหยาบๆ แบบทางโลก ก็รับฟังกันไป ผมก็ไม่ชอบเป็นกบในกะลา ทำไปก็ไม่ได้ผลประโยชน์อะไรในทางโลก เงินก็ไม่ได้ ชื่อเสียงก็ไม่สนใจ

ส่วนท่านที่ไม่เห็นด้วยจะตีอย่างไร ก็เฉยๆ ถ้ามีเหตุผลก็ฟัง ไม่มีเหตุผล ก็ช่างมันไปตามประสา ศึกษามาถึงกระดูกขั้นนี้แล้ว เจษทนได้ อิอิอิ :)

ถ้าท่านเป็นพระแล้วแฝงมาตอบแบบโจมตี อันนี้เราจนใจ เรานับถือพระที่สืบต่อพระศาสนา วินัยของพระมีเยอะ โปรดอย่าประมาท เพื่อเตือนใจ

ท่านผู้เจริญทั้งหลาย

ผมก็แปลกใจ ทำไมหัวข้อนี้คนชอบอ่าน เรื่องปฏิบัติอย่างอื่นคนกลับอ่านน้อย แสดงว่าคนสนใจเรื่องปกิณกะ มากกว่าหลักวิชาการ เมื่อสนใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มากกว่าแก่นสารสาระของวิชา การเติบโตในธรรมก็ไม่ได้ก้าวหน้าอะไรมากมาย เขียนเรื่องนี้มากว่า 1 ปีแล้ว ก็เพื่อกระตุ้นให้ท่านค้นคว้าหาความรู้ ไม่ใช่เชื่ออะไรง่ายๆ เพื่อให้ท่านได้มีประสบการณ์ด้วยตัวท่านเอง ส่วนจะได้ประสบการณ์นั้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติ มิได้อยู่แค่คิดว่าจะต้องเป็นอย่างนั้น อยางนี้ สัจจะก็ย่อมเป็นสัจจะอยู่วันยังค่ำ

ผลงานของคณะของพวกผมในช่วง 1 กว่าปีที่ผ่านมา สามารถพิสูจน์ จำต้องได้ ขอเชิญท่านไปทัศนาได้ที่ www.wisdomninside.org จะได้ไม่ต้องมาเกทับ บลัฟแหลกกัน เสียโอกาสกันไปเปล่า เวลาแห่งการมีชีวิตนั้น น้อยนัก รีบตัดสินใจให้มันเด็ดขาดว่าจะเดินไปทางใดดีกว่า

เรื่องวิชาชั้นสูง เป็นเรื่องของคุณลุงการุณย์ พวกผมมีหน้าที่สร้างบารมี เอาเรื่องต่างๆ มาเผยแพร่ ส่วนถูกผิด ก็เป็นเรื่องของโยนิโสมนสิการของพวกเรา ซึ่งเราก็ได้เทียบเคียงแล้ว ว่าเราไม่ได้มีความโลภเพิ่มขึ้น ความโกรธเพิ่มขึ้น ความหลงเพิ่มขึ้น มีแต่เสียสละทั้งนั้น ส่วนใครจะว่าถูก-ผิด อ้างโน่น อ้างนี่ เราก็พยายามทำวิชาพิสูจน์ไป ส่วนได้ผลเช่นไร มิจำเป็นต้องเปิดเผย

ท่านทั้งหลายที่ผ่านมา ก็ขอให้ศึกษาเอา ดูเอา จับต้องเอา ว่าเป็นเช่นไร ส่วนจะผ่านมาแล้วผ่านไป ก็สุดแต่วาสนาบารมีของท่าน ที่สุดแล้ว อนาคตของเราก็อยู่ในกำมือเราเองนั้นแหละท่านทั้งหลาย อย่าไปโทษใครเลย

สาธุ

ว่ากันตามหลักแล้ว

คนส่วนใหญ่จะรู้สึกดีที่ได้สร้างพระทองคำ แต่พวกเราจะรู้สึกดีที่สอนคนเห็นดวงธรรม จนได้เดินวิชา 18 กาย

คนส่วนใหญ่จะรู้สึกดีที่ได้สร้างมหาวิหารใหญ่โต แต่พวกเราจะรู้สึกดีที่สอนคนเห็นดวงธรรม จนได้เดินวิชา 18 กาย และนำไปปฏิบัติเองได้

คนส่วนใหญ่จะรู้สึกดีที่ได้บวชพระนับร้อยรูป แต่พวกเราจะรู้สึกดีที่สอนคนเห็นดวงธรรม จนได้เดินวิชา 18 กาย นำไปปฏิบัติเองได้ และเริ่มคิดที่จะสอนคนอื่นด้วย

ยอดมหากุศลคืออะไร ศาสนาพุทธได้แบ่งแยกคนรวยกับคนจนแล้วหรือ ถ้าไม่มีเงิน คนจนก็หมดโอกาสสร้างมหาถาวรวัตถุสิ แบบนี้ก็เรียกว่าเสียชาติเกิดล่ะสิ มันถูกต้องหรือ แล้วคนรวยล่ะมีเงินสร้างวัตถุได้ใหญ่โต แต่จะได้สร้างยอดมหากุศลได้หรือไม่ อันนี้ไม่แน่ใจ และอันไหนคือคำตอบ

คนจนไม่มีเงินก็สร้างยอดมหากุศลได้ เพราะวัตถุสร้างได้ด้วยเงินทองต่างๆ แต่ยอดมหากุศล สร้างได้ด้วยการสอนคนจนรู้ เห็น และเป็นธรรมกาย

สาธุ

ใจหยุดนิ่ง เพื่อสละ ละความโกรธ

ใจหยุดนิ่ง เพื่อสลัด ตัดโลภหลง

ใจหยุดนิ่ง เพื่อพิสุทธิ์ ตามพุทธองค์

ใจหยุดนิ่ง เพื่อเข้าตรง องค์ธรรมกาย

ก็ยังดี ที่เชื่อว่า ธรรมกายคือวิธีปฏิบัติที่มุ่งตรงสู่หนทางพระนิพพาน

แต่พระพุทธองค์ท่านให้โอวาทปาฏิโมกข์มาข้อนึงว่า

อนูปวาโท เราจะไม่เผยแผ่ศาสนาด้วยวิธีการว่าร้าย

ผมก็ไม่แม่นในประวัติศาสตร์นัก แต่ผมแม่นในปัจจุบันศาสตร์

ผมขอสรรเสริญวัดพระธรรมกายในปัจจุบันสักหน่อย

ให้คุณได้ทราบไว้เป็นข้อมูลนะครับ

วัดพระธรรมกาย เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก จริง...

ผ่านจานดาวธรรม และวัดสาขา มีคนต่างประเทศหันมาศึกษามากขึ้นจริง

คนทั่วไป หัวมาทำความดีมากขึ้น ชั่วมาก ก็กลายเป็นชั่วน้อย

ไม่คิดจะทำความดี ก็หันมาทำความดี อันนี้เป็นเรื่อง จริง...

วัดพระธรรมกาย มีลุกศิษย์ลูกหามาก ระดมคน ระดมทุนได้มาก จริง..

หลวงพ่อสดท่านเคยปรารภอยากให้วิชชาธรรมกาย เผยแผ่มายังญี่ปุ่น

วัดพระธรรมกาย และวัดปากน้ำ ก็สืบสานปณิธานตามนั้น

แล้วก็ทำได้จริง....

โอ้.... อะไรๆก็จริง อดีตไม่รู้หรอก ผมเกิดไม่ทัน ไม่กล้าไปยืนยัน

แต่ปัจจุบัน เราก็เห็นกันอยู่

ผมขอแนะนำอะไรคุณสักนิดนึงว่า อย่าสร้างศัตรูให้ตัวเองจะดีกว่า

ผมไปอ่านหนังสือตำราฝรั่ง คนฉลาดจะใช้วิธี Win-Win

คือชนะไปทั้งคู่

ส่วนวิธี Win-Lose, Lose-Win, Lose-Lose มันเป็นวิธีของพญามารเขา ซึ่งคุณกำลังใช้อยู่โดยไม่รู้ตัว

อีกนิสนึง เรื่องคนจน

ทุกอย่างมีสาเหตุคับ อยากรวยก็ต้องทำบุญ

หลักการมีแค่นี้ แต่วิธีการคือ

ต้องทำให้ถูกเนื้อนาบุญ ผู้รับ ผู้ให้ ต้องมีศีล

เงินนั้นต้องเกิดประโยชน์ใหญ่ เหมือนการลงทุน

ผลที่ได้จะได้งอกงาม และต้องทำเสมอต้น เสมอปลาย

มันถึงจะรวยต่อเนื่อง

ถ้าคุณมองคนรวย แล้วรู้สึกไม่ดี หรือมองว่าทำไมมันรวยเอาๆ

(แล้วฉันล่ะ...)

ถ้าเริ่มรู้สึกแบบนี้ ระวังให้ดี.... ความอิจฉามันอาจกำลังมาสิงอยู่ก็ได้

ผมเองยอมรับว่าหงุดหงิดทีเดียวล่ะ มาอ่านข้อความของคุณเข้า

เพราะคุณยาย หลวงพ่อ หลวงปู่ เป็นครูบาอาจารย์ของผม

แต่มองในทางกลับกัน คุณเองก็นะ.. สร้างศัตรูแท้ๆเลย

คุณอาจไม่รู้ตัว และปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา

แต่ผมจะบอกตรงๆ ว่าคุณมีศัตรูเพิ่มมาอีกคน คือผมแล้วล่ะ

คุณได้สร้างศัตรูให้ตัวเอง และอาจารย์ของคุณอีกด้วย

เลิกเสียเถอะคับพี่น้อง ภาพมันก็คือภาพ

ข้างในมันก็อีกเรื่อง จะใส่สูท ถ่ายร้านสวยๆ เพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ

เอาใครไปทำก็ได้ แต่จะใส่จีวร ให้คนกราบไว้

บวชได้นานสามสิบกว่าปี สร้างวัดได้ใหญ่โต สืบสานปณิธาน

พูดแต่วิชชาธรรมกาย นั่งให้คุณด่าเอาๆ เพื่อหวังอะไรสักอย่าง

มันยากกว่านะคับ ลองคิดดู ลองคิดในทางกลับกันบ้าง

ลองทำใจให้มันขยายๆบ้าง ถ้าเห็นจริงล่ะก็ ลองมาดูที่วัดหน่อย

ว่าเอาเงินไปทำอะไร เงินบริจาคทั้งหลาย เอาไปทำอะไร

ผมยอมรับ ว่าผมไม่เหนอะไรเลยนอกจากความมืด

แต่ผมเข้าวัดนี้ เพราะผมไปสืบมาหมด ว่าวัดเอาเงินไปทำอะไร

ผมรุ้ทันที เงินผม ก่อประโยชน์ใหญ่แน่นอน ผมถึงได้เข้าวัดนี้

คุณเอง ถ้ามีวิชชาดี รู้เห็นอะไรได้ ลองไปดูสักนิด แล้วเขียนมาเล่าบ้างนะคับ

ครับขอบคุณนะครับุณโตที่ให้คำแนะนำ

เรื่องวิชาเป็นเรื่องของวิชาปิดบังกันไม่ได้ ถูกก็เป็นถูก ผิดก็เป็นผิด

วิสัยบัณฑิต ต้องใช้โยนิโสมนสิการนำ คงไม่ชี้แจงอะไรมาก เพราะผมไม่ใช่คนจนทั้งทรัพย์และปัญญา จะอิจฉาไปทำไม

ถึงผมจะเล่าข้างในเป็นอย่างไร คุณก็ไม่ฟังหรอก แบบนี้จะเล่าไปทำไม เขียนเพื่อให้ไปศึกษาหาความรู้ ไม่ศึกษาต่อ ผมก็ไม่เกี่ยวข้องอะไร จะทุกข์ร้อนไปไย

ของดีในวิชาธรรมกาย ไปดูได้ที่ www.wisdominside.org

วิชชาก็เขียนไม่ถูก(มาจากภาษาบาลี)

แล้วรู้ได้อย่างไรว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อสด วัดปากน้ำท่านคิดอย่างนั้น

ท่านก็มรณะภาพไปแล้ว

พยานทางวัตถุก็ไม่มี ถึงมีก็ไม่รู้ว่าจะเชื่อถือได้รึเปล่า

พยานทางบุคคลถึงมีก็เชื่อถือไม่ได้

ถ้าอยากรู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรก็นั้งสมาธิไปถามพระธรรมกายในตัวดีกว่า

เพราะว่าพระธรรมกายในตัวเป็นของจริงคนใจหยาบไม่มีทางเห็น

ดีกว่ามานั่งคิด วิเคราะห์ วิจารณ์

* วิชชาก็เขียนไม่ถูก(มาจากภาษาบาลี)

เหรอครับ อธิบายโดยละเอียดได้ไหมว่าไม่ถูกอย่างไร ตามความรู้ของท่าน

ข้อวิจารณ์ข้างบน ดูเหมือนลักษณะของผู้ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร เพราะไม่ชวนให้คนแสวงหาความรู้ ไม่มีหลักฐานจะกล้าเขียนเหรอครับ เห็นธรรมกาย บางคนก็คุยกับธรรมกายไม่ได้ก็มี และเห็นด้วยคนจิตใจหยาบ จะเห็นธรรมกายในตนได้อย่างไร อันนี้เห็นด้วย...

นอกนั้น... ถ้าเราจะเชื่ออะไร ต้องทำอย่างไรครับ แนะนำคนปัญญาน้อยแบบผมหน่อย.. เพราะบางครั้งเราคุยกับธรรมกายที่สุดละเอียดของเรา ถ้าไม่ทำวิชาตรวจสอบ ส่วนใหญ่เราก็แค่ฟังหูไว้หู.....

แล้วถ้าได้ยินจากคน ไม่ว่าจะเพศใด... เราคงไม่เชื่อทั้งหมดหรอก...

โยนิโสมนสิกานะครับพี่น้อง... ธรรมนี้ช่วยเราพ้นจากความเขลาได้...

เจริญในธรรมนะครับ....

อยากถามว่า

วิชชามรรคผลพิสดาร

เล่ม 3 (สูญหาย)

แล้ว มีธรรมกายทำไมไม่ไปตามหา

อยากรู้ตอบด้วย

อยากตามเหมือนกัน คนที่มีธรรมกายแก่กล้ากว่า ยังหาไม่เจอ หากันมาหลาย 10 ปี มีธรรมกายแล้วใช่ว่าจะรู้ทุกสิ่ง

พระอริยะเจ้ายังมีหลายระดับ ธรรมกายก็มีหลายระดับเช่นกัน โปรดเข้าใจตามนี้...

พระอรหันต์เหมือนกัน ยังมีตั้ง 4 ประเภท.... ง่ายแบบนี้แหละ

แล้วคนที่มีธรรมกายแก่กล้าระดับไหนละจะหาเจอ ละ แล้วจะรู้ได้ไงว่าได้ระดับไหน หรือว่าไม่มีอะไร เลยครับ แล้วทำไม ปราบมารได้ แต่หาของไม่เจอ คุณว่าแปลกมั้ย

ผมว่าคุณนะ

เชื่อหนังสือทั้งนั้น ปัญญาอ่อนกันไปหมดแล้ว ผมก็เห็นแต่เอาจากหนังสือมาตอบ

ไม่เข้าใจ ทำไม่ไมใช้

กาลามาสูตร

อย่าเชื่อเพราะฟังกันต่อๆมา

อย่าเชื่อเพราะทำกันมานาน

อย่าเชื่อเพราะคำเล่าลือ

อย่าเชื่อเพราะมีอยู่ในตำรา

อย่าเชื่อเพราะเข้ากันได้

อย่าเชื่อเพราะตรงกับใจ

อย่าเชื่อเพราะมีเหตุผล

อย่าเชื่อเพราะตรงแนวคิดของคุณ

อย่าเชื่อเพราะดูกิริยาน่าเชื่อถือ

อย่าเชื่อเพราะท่านเป็นครูของเรา

ต่อเมื่อใดพิจารณาด้วยปัญญาว่า เป็นกุศลควรทำให้เจริญ เป็นอกุศลควรละให้สิ้น

ผมว่านะหลวงพ่อวัดปากน้ำนะอยู่ใน ภพสามนี้ละ และต้องอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิตแน่ เพราะว่าอะไรรู้ไหม

1เพราะว่าท่านยังไม่หมดกิเลส

2แล้วทำไมหลวงพ่สดต้องมรณะภาพด้วย แสดงว่ายังอยู่ในกฎแห่งกรรมเหมือนกับทุกคนนั้นแหละ

3แต่หลวงพ่อปราถนาเป็นผู้ปราบมารที่เป็นต้นตอเท่านั้น

ผมว่านะหนังสือ

มรรคผลพิสดาร ภาค 1

มรรคผลพิสดาร ภาค 2

มรรคผลพิสดาร ภาค ๓

นั้นนะไม่ได้เป็นหนังสือที่หลวงพ่อดำริให้ทำขึ้นเองนะ อาจะมีเสริมตอบแต่งก็ได้อาจจะไม่ได้เป็นจริงทั้งหมดนะ

ส่วนหนังสือปราบมารนะ ผมว่า

ลอกจากมรรคผลพิสดารนะและเพิ่มเติมมั่วไปหมด ผมอ่านแล้วละ

ผมไม่เข้าใจนะทำไมไม่ปฎิบัติให้เข้าถึงธรรมให้ได้คุณวิเศษอะไรสักอย่างเลย ผมว่าพวกคุณให้ได้ ปฐมฌาน เสียก่อนดีไหม

ส่วนเห็นโนน เห็นกาย อะไรก็ไม่รู้ อาจจะไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นก็ได้ ผมว่ามั่วไปเองนะ ผมคิดว่า เราควรจะทำให้ได้ ก่อนนะ คือ

1.รักษาศิลให้ครบเสียก่อนนะ

2.แล้วหยุดเรื่องกามคุณ (เซ็กซ์)ให้ได้ก่อนไหม

ผมขอท้านะครับว่า ถ้าผมคุณได้กาย 18 กายแล้ว หรือได้ธรรมกายและ สามารถ ปราบมารได้ ขอให้พวกคุณโทรหาผม แต่ไปหาเบอร์โทรของผมเองนะ ผมว่าง่ายกว่าปราบมารเสียอะไรหาให้เจอนะจะรอ

ถ้าแน่จริงๆๆ

ผมขอให้ศรัทธานะ โดยใช้ปัญญา อย่างมงายเพราะศรัทธามากไป

อย่าลืมกลางสายกลางละขอร้อง

จาก

เมธิโก

เอาอย่างนี้คุณเมธิโก

ถ้าเกรียนมาก (ผมเป็นฆราวาสยุคใหม่ทันสมัย ขอใช้คำนี้นะ) ก็มาอบรมวิชา 18 กายซะ... ที่คุณเขียนมา ไม่เห็นว่าคุณจะรู้เรื่องหลักการอะไรในพระศาสนามากมายเลย...

แล้วที่คุณเดาว่าหลวงพ่อวัดปากน้ำอยู่นั่น อยู่นี่ แหมเข้าหลักการที่คุณยกมาให้ผมดูเลย กล่าวตู่หลวงพ่อแบบนั้น ก็ตัวใครตัวมันนะครับ...

แล้วชีวิตคุณอธิษฐานอะไรไว้.... อยากทำอะไรเป็นประโยชน์แก่โลก...

คุณนี่จริงจริงเลย... พระโสดาบันยังมีลูกมีเมียได้... แยกระดับคุณธรรมไม่เป็น อยากเขียนอะไรให้มันมีหลักการหน่อยนะ

อ้างกาลามสูตร ก็ต้องอ้างให้เป็นมวยหน่อย....

ขอฝากคำคนรุ่นก่อนไว้หน่อย....

"รู้น้อยว่ามากรู้...เริงใจ

กลกบอยู่ใน....สระจ้อย

ไป่เห็นชเลไกล.....กลางสมุทร

ชมว่าน้ำบ่อน้อย....ช่างลึกล้ำเหลือ"

พิจารณาเอานะครับ....

อืมผมขอถามกลับบ้าง...

1.คุณมีครูบาอาจารย์ทางธรรมไหม

2.คุณฝึกกรรมฐานแบบใด ทั้งสมถะและวิปัสสนา

3.คุณเจริญจิตใจ จนได้อัปนาสมาธิไหม..

4.คุณธรรมข้อใดที่เด่นที่สุดในตัวคุณ

5.คุณหวังผลใดที่เกิดมาในชาตินี้

6.คุณต้องการสิ่งใดในพระพุทธศาสนา

7.คุณอยากฝึกอภิญญาไหม

8.ครูบาอาจารย์รูปไหนที่คุณศรัทธาสุดในชีวิต และศรัทธาทำไม มีอะไรให้ศรัทธา และคุณทำไมต้องศรัทธาในสิ่งที่คุณศรัทธา และคุณรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งที่คุณศรัทธาถูกต้องร่องรอยของสัมมาทิฏฐิ

9.เรื่องพระเถระใบลานเปล่า เคยอ่านไหม เข้าใจอย่างไร อธิบายให้ฟังหน่อยสิ

ถามสั้นๆ แค่นี้แหละ

ผมมก็ฝีกมาทั้งหมดแล้วนะ

ผมเคยฝึกทั้งหมดนะครับก็ดีทั้งหมดและครับและมีข้อไม่ดีบ้างแต่ จิตใจสงบดี

ผมตอบแค่ว่า

ผมว่าเชีื่อตัวผมเองมากว่านะครับ เป็นคนพุทธฺจริตสูงมากๆๆ

ขนานพระพุทธเจ้ายังเชื่อครึ่งไม่เชื่อเลยคุณ

แต่ผมยึดหลักสายกลางเสมอ แล้วกาลามาสูตรด้วย เอาแต่สิ่งดีๆๆ

ผมไม่มีครูบาอาจารย์ที่ไหนหรอกคุณ ผมนับถือทุกสิ่งที่เป็นความดี และคนที่คิดว่าดีจริงๆ

ผมรับเอาแต่สิ่งดีๆๆนะครับ

ผมเป็นคนรู้น้อยนะครับแต่ใช้ปัญญาเสมอ

ส่วนเรื่องพระเถระใบลานเปล่า ผมคิดว่าก็เหมือนคุณนะครับเชื่อหนังสือมากว่าจนงมงาย

คิดว่าเป็นอย่างที่หนังสือว่าเพราะผมเห็นลอกจากหนังสือมาตอบนะ ลองถามใจตัวเองนะครับว่าจริงหรือไม่จริง ถ้าได้อภิญญาเห้นกายธรรม 18 กายแล้วทำไมไม่เข้านิพานละคุณ

ส่วนผมปราถนาคิดว่าชาตินี้เป็นชาติแรกที่คิดจะเป็นเหมือนพระพุทธเจ้า

ขอผมถามบ้างนะขอให้ตอบสั้นๆๆตรง

ว่า

ทำไมคิดว่าหลวงพ่อสดอยู่ระหว่างภพ 3 ไม่อยู่ในกฎแห่งกรรมหรอ ขนาดพระพุทธเจ้ายังต้องได้รับโทษตามกฏแห่งกรรมเลยแล้วหลวงพ่อสดท่านเป็นใครทำไมท่านต้องอยู่ระหว่างภพ 3 ด้วย และขอถาม(พวก)คุณที่ได้อภิญญาแล้วไปถามหลวงพ่อด้วยว่าผมเป็นใครจะตายเมื่อไร

ทำไมหลวงพ่อสดต้องมรณะภาพด้วย ทำไมไม่อยู่สร้างบารมีนานๆๆ หลวงพ่อปราบมารได้ไม่ใช่หรอ แล้วทำไมไม่ปราบ มรณะมาร แสดงว่าหลวงพ่อต้องอยู่ใต้กฎแห่งกรรมด้วยใช่ไหม

แล้วทำไมปราบมารได้แต่หาหนังสือไม่ได้ เพราะถ้าปราบมารได้แสดงต้องเก่งมากสิ

แล้วทำไมต้องหาหนังสือด้วยไม่ไปถามพระธรรมกายที่พวกคุณมีอยู่ละ

แล้วคุณได้อภิญญาหรือยัง ถ้าได้แล้วค่อยมาสอนผมนะครับ ส่วนอัปนาสมาธิผมเคยสัมผัสแล้วนะ และโทรหาผมด้วยแต่เบอร์คนที่มีอภิญญาเท่านั้นที่จะหาได้

ผมนะครับศึกษาทั้งวัดป่าและวัดบ้าน การศึกษาของผมไม่สูงมากแต่ผม

รู้แค่ว่า ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน แค่นั้นก็พอแล้ว

แล้วผมถามหน่อยนะว่าเห็นกายธรรมทั้ง 18 กายแล้วจะได้อะไรผมอ่านแล้วเห็นเพื่อนผมหลายคนเห็นโน่นเห็นนี้แต่ไม่เห็นมีใคร เข้าถึงสักคน

เหมือนสักว่าแต่เห็น

แต่ใช้ประโยชน์ไม่ได้ เหมือนยังไม่เห็นภัยในภพ 3 อีกหรือ

ปล.

อยากจะบอกว่าคุณ ก็ยังตกอยู่ใต้กฎแห่งกรรมเหมือนกันกับผมยังไม่ได้ไปไหน ยังข้ามไม่ได้ ได้แค่เห็นฝั่ง

๑.พระไตรปิฎก เล่ม ๒๕ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ ข้อ ๕-๖

พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสให้ทราบว่า มงคลมีอยู่ ๓๘ มงคล ด้วยพระคาถา ๑๐ คาถาใน มงคลสูตร

ตามลำดับดังนี้

คาถาที่ ๑. มี ๓ มงคลคือ

๑. อเสวนา จ พาลานํ การไม่คบคนพาล

๒. ปณฺฑิตานญฺจ เสวนา การคบบัณฑิต (คือ ท่านผู้รู้ทั้งหลาย)

๓. ปูชา จ ปูชนียานํ การบูชาบุคคลที่ควรบูชา

สาธุ

ตอบคำถามผมด้วยนะท่าน ไม่ต้องอ้างโน่นอ้างนี้นะ มงคล 38 รู้อยู่แล้วนะ

ขอร้อง

คนเรามีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ ใครทำกรรมไดใว้ ดี หรือชั่ว จักได้รับผลกรรมนั้น

พุทธจริต ก็น่าจะคิดออกนะว่าผมหมายถึงอะไร....

ตอบไม่ได้นะสินะท่าน ตอบด้วย

ไหนว่าคุย คุยกันฉันเพื่อน 24 ชั่วโมง

พุทธจริตของผมนะ ต้องพิสูจน์ด้วยแล้วว่าเราสิ่งที่ปฏิบัติยังไม่ได้ ไม่ผมก็จะยังไม่เชื่อ

เหมือนพระสาีรีบุตรท่าน ขนานพระพุทธท่านสอน ท่านยังไม่เชื่อเลยต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองก่อนท่านถึงจะเชื่อ

ผมทำตามมงคลชีวิตหมดแหละ ผมเชื่อด้วย

ตอบให้ผมด้วย

ท่าน

เจ้าของเวบฯ ระวังนะครับ มันบาปนะน่ะ ถ้าเป็นลูกหลานพระเดชพระคุณหลวงปู่จริงก็อย่าทำเลยครับ มหาปูชนียจารย์ท่านไม่สอนให้กล่าวว่าร้ายใครนะครับ เจริญพร๐๐

ตอบผู้ใช้นามว่า Beck

ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด สำนวนของท่านน่าจะเป็นพระภิกษุ ถ้าเช่นนั้นผมจึงขอถวายความรู้ให้ท่านทราบ

การเขียนที่เป็นลักษณะการเปิดเผย ต่อสาธารณะชน พร้อมด้วยการยืนยันตัวตนของคนเขียนและพร้อมรับผิดชอบในข้อเขียน และเขียนโดยใช้เอกสารขั้นทุติยภูมิ เป็นเอกสารหนังสือ ของท่านผู้รู้จริงในยุคสมัยนั้น ว่าเกิดอะไรขึ้นในยุคนั้น ลักษณะเช่นนี้ ไม่ใช่การว่าร้ายใคร ไม่ได้เสียดสีใคร ธรรมะของจริง เมื่อเกิดความคลาดเคลื่อน ต้องมีผู้ชี้แจง ถ้ากลัวบาป ต้องไปเตือนคนที่เอาเรื่อง หนึ่งไม่มีสอง มาสร้างเรื่องราวมาหลายสิบปี จนไม่มีผู้ใดกล้าแสวงหาความจริงมากกว่า

ท่านอยากพิสูจน์เอกสารจริงๆ เรียนเชิญ เข้ารับการอบรมกับพวกเราได้ ดูรายละเอียดที่ www.wisdominside.org

จึงขอถวายความรู้เพื่อสร้างโยนิโสมนสิการ พอสมควรแก่เหตุเท่านี้

แล้วทำไมท่านไม่มาบวชซะล่ะ ทางโลกมันคับแคบนะ๐๐

ทางโลกคับแคบ เพราะคนเราไม่ศึกษาธรรม ตอนนี้ฆราวาสสอนธรรมะเยอะแยะ ผมชอบแบบนี้มากกว่า และไม่ติดเรื่องศีล 227 ข้อ อีกทั้งอาบัติ ต่างๆ อีกมาก ทำให้ไม่สะดวกในการสร้างสมอบรมบารมีธรรม

ว่างๆ ผมก็กำลังจะออกธุดงค์เหมือนกัน ผมไม่ได้บวช ก็ทำได้คล้ายคนบวชพระเหมือนกัน ครูบาอาจารย์ผมสอนไว้ว่า พระภิกษุในพระพุทธศาสนา ถ้าอาบัติแล้วไม่ปลงอาบัติภายใน 3 วันหลังจากอาบัติ ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม จะถูกคนอื่นทวงบารมีไป เพราะถือว่าท่านไม่ปฏิบัติตามธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ที่ทรงบัญญัติไว้ นี่เป็นความรู้นอกพระไตรปิฎก ก็ฟังหูไว้หู ไม่ต้องเชื่อก็ได้ครับ

อีกอย่าง หลวงพ่อสอนไว้ว่า ถ้าเราได้ธรรมกายแล้ว ถือว่าเป็นพระ เป็นการบวชภายใน ผุ้หญิง ผู้ชายก็เลยเท่าเทียมกัน สามารถสร้างบารมีที่ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน ยุคสมัยแห่ง กิน กาม เกียรติ ในปัจจุบัน ยุคเทคโนโลยีสื่อสารที่รวดเร็ว ยุคนุ่งน้อย ห่มน้อย พระภิกษุผู้บวชกาย แต่ไม่บวชใจ ไฉนเลยจะพ้นอาบัติไปได้ แล้วถ้าไม่แสวงหาโมกขธรรมอีก ปลายทางจะเป็นเช่นใด คาดการณ์ไม่ยาก

ไม่ว่าเป็นเพศใด โลกก็คับแคบได้ถ้าใจเราไม่แสวงหาวิมุติธรรม ที่บริสุทธิ์ ผ่องใส

ไม่หลงไหล กิน กาม เกียรติ จนเกินพอ โลกก็กว้าง ทางก็สะดวก

ขอถวายวิสัจฉนา พอสมควรแก่เหตุเพียงเท่านี้

นับถือ นับถือ

ในความมั่วนิ่มของคุณเจด

จับผิดได้หลายประเด็นมาก

ทำไมไม่โต้กรณี คุณยายฉลวย เชียงใหม่ ยืนยันว่า

คุณยายฯ จันทร์ เป็นหัวหน้าเวรจริง

โต้ไม่ได้ เพราะความจริงเป็นเช่นนั้น

ต้องรอให้คุณยายฉลวยละสังขารก่อนจึงโต้

เพราะไม่มีพยานบุคคลแล้ว

เป็นต้น

ทำผิดทำใหม่ แต่ทำใหม่อย่าทำผิด

คำที่พุทธองค์สอน

อนูปวาโท ไม่ว่าร้าย

แล้วทำไมๆๆๆ ไปว่าวัดใหญ่เมืองปทุมหละ

กลัวไม่ดังเรอะ!!!!!

พวกคุณแพ้

เพราะวัดใหญ่เมืองปทุมเขาไม่เคยพูดถึงพวกคุณเลย

ตั้งแต่เจ้าอาวาส รองเจ้าอาวาส ฯลฯ

ต่างฝ่ายต่างก้มหน้าก้มตาทำความดีของตนเองไปสิ

ฝากไปคิดด้วย

แก่จะลงโลงกันอยู่แล้ว

เรียนคุณเจษฎา

ผมขอ check 18 กาย ท่าน ก็แล้ว กัน

ผม บวช กี่ครั้ง ถ้าตอบไม่ได้ อย่าบังอาจมาลบหลู่ครูบาอาจารย์ผม

จริงๆแล้วไม่ถึง18 กาย ก็อาจจะตอบไม่ได้

ผมอยากรู้ว่าท่านมีญาณสัสน หรือเปล่า

ที่บังอาจลบหลู่ครูบาอาจารย์ผม

เพราะผู้ประพฤติธรรม เขาจะไม่กล่าว อนูปวาโท ใคร

ขอแถมอีกนิด แล้วทำไมท่านไม่บวชเป็นพระหล่ะครับ ทำไมยังเป็นฆราวาสอยู่

ปกติ ฆราวาสที่ได้ 18 กาย เขาไม่กล่าวลบหลู่พระแบบนี้ และเป็นปกติที่จะต้องออกบวช

เพราะจะได้สร้างบารมีได้สมบูรณ์กว่า เพราะมีศีล 227

อย่าลืมนะครับพระอนาคามี ยังต้อง ยกมือไหว้ สามเณร แม้บวชเพียงวันเดียว

ผมเป้นศิษย์หลวงพ่อสดวัดปากน้ำมาตั้งแต่สมัยเรียน ม.เกตษร ปี 2528 ได้ศึกษาการปฎิบัติธรรมที่วัดปากน้ำ วัดพระธรรมกาย และวัดหลวงพ่อสดธรรมกายราม (หลวงป๋า) ผมไม่เห็นมีลูกศิษย์ที่ไหนเขาโจมตีกัน ส่วนใหญ่มีแต่สนับสนุนกัน ส่งเสริมกันโดยเฉพาะการเผยแพร่วิชชาธรรมกาย

ดังนั้นผมว่ามันผิดปกตินะ ถ้าลูกศิษย์หลวงพ่อสดต้องมาโจมตีกัน ...ผมตั้งข้อสังเกตุว่า มันผิตปกติครับ เพราะคนใจใส เขาไม่มีอารมย์ว่าใคร

ผมว่าเป็นการแลกเปลี่ยนมุมมองกันมากกว่า ใครจะมีอารมณ์บ้าง ก็สนุกไปอีกแบบ ใจใสมันมีตั้งหลายระดับนะครับ

ถือว่าแลกเปลี่ยนกัน ยิ่งเขียนออกมา คนอ่านก็รู้ว่าภูมิคนเขียนเป็นอย่างไร ดีออกนะครับ

ในเรื่องที่คุณลุง การุณย์ อ้างว่าสามารถรักษาโรคให้คนอื่นได้นั้น ทำไมไม่ใช้วิชานั้นรักษาอาการโรคมะเร็งกล่องเสียงของตัวเองให้หายได้ละครับ หรือว่าสามารถรักษาโรคให้ได้เฉพาะคนอื่น แต่ไม่สามารถรักษาให้ตัวเองได้หรือว่าอย่างไร ขอให้คุณ เจษ.อธิบายได้ไหมครับ..........

แต่ละคนมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ความจริงเป็นเช่นไรต้องพิสูจน์คะ

การอธิบายให้คนที่ไม่เชื่อ ไม่ศรัทธา ...หรือมีอคติฟัง ไม่มีประโยชน์หรอกคะ

หยุดเถอะคะ ทำใจให้ใสๆพอ และวันนี้คุณทำทาน...ถือศีล...และเจริญสติปัญญา(นั่งสมาธิ)แล้วหรือยัง

ถ้าทุกคนตั้งมั่นอยู่ในศีลตลอด สิ่งไม่ดีก็คงไม่มีหรอกคะ

ยิ่งอ่าน ยิ่งหดหู่ ยิ่งอ่านยิ่งผิดหวัง ประเทศชาติเจอคนแบบนี้อยู่มากทีเดียว อาศัยความรู้ไม่จริง มุมมองคับแคบ วิจารณ์ ใส่ร้าย บุคคลหรือองค์กรณ์ ที่เค้าทำเพื่อส่วนรวมมากกว่าส่วนตน ยิ่งหดหู่เข้าไปอีก เมื่อรู้ว่าบุคคลที่วิจารณ์นั้น ได้แต่ ฟัง เค้าบอก!!! เน้นนะครับ ฟังเค้าว่ามา แถมเชื่อเป็นตุเป็นตะ โดยขาด "โยนิโสมนสิการ" ชึ่งเป็นคำที่คุณเจษ ชอบใช้ ผมจะแปลให้ฟังนะ "โยนิโสมนสิการ แปลว่า การกระทำในใจโดยแยบคาย หมายถึง การใช้ความคิดถูกวิธีสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างแจ่มแจ้งตามสภาวะแห่งเหตุปัจจัย " ถามว่าคุณเจษ ได้ใช้คำๆนี้ถูกต้องหรือไม่ โดยรวมแล้ว แปลสั้นๆ ว่า ความเห็นถูก นั้นเอง ดูแล้วคุณเห็นผิดมาโดยตลอดที เดียว แล้วคิดอะไร กับวัดพระธรรมกาย หรือ คุณยาย จันทร์ หละครับ ทำไมต้องมองท่านแค่ตรงจุดนั้น ทำไมไม่มองเพื่อพระพุทธศาสนา และประเทศชาติ เค้าขยายวิชาไปทั่วโลกแล้ว มีคนได้ดวงธรรมก็มาก เข้าธรรมกายได้ก็ไม่ใช่น้อย คนนับถือ ศาสนาอื่น หันมานับถือพุทธ และมาบวช ก็มีหลายต่อหลายท่าน ในขณะที่ หลวงพ่อธัมมชโย และบรรดาศิษย์ทั้งหลาย ตั้งหน้าตั้งตาสร้างบารมี ขยายวิชาธรรมกาย ของหลวงปู่ สด แท้ๆ แต่คุณเจษ กลับคอยว่าร้าย ให้ร้าย ติดใจกับคำว่า "หัวหน้าเวร" จนต้องเอาขึ้นหน้าเว็บ ประกาศให้คนทั้งโลกรู้ แค่นี้หรือครับที่คุณเจษ ต้องการ หากเป็นจริง มันเกิดผลอะไรตามมาครับ มีประโยชน์ต่อศาสนา หรือ บ้านเมืองไหม ?หรือว่าแค่สะใจคุณเจษ? ผมจะตอบเป็นข้อๆ นะครับ ที่คุณเจษ ได้ก็อบบทความให้ความเห็นเกี่ยวกับวัดพระธรรมกายไว้ ดังนี้

1) หลวงพ่อสดไม่เน้นการสร้างถาวรวัตถุ เน้นการสร้างพระในใจคน แต่วัดธรรมกายเน้นการสร้างวัตถุเป็นส่วนใหญ่ เพื่อหาเงินเข้าวัด เงินส่วนหนึ่ง (มากน้อยเท่าใดไม่ทราบได้ แต่น่าจะเกินครึ่ง) ก็เข้ากระเป๋าเจ้าอาวาส

ข้อแก้ต่าง1. การจะขยายพระศาสนา ขยายวัดสาขา ไปทั่วโลก คุณคิดว่า ฟรีหรอ แค่คนมีศรัทธา แต่ไม่ถวายปัจจัย(ที่คุณเรียกว่าบริจาค) งานพระศาสนา จะขยายได้ไหม วัดต้องทำควบคู่ทั้ง 2สิ่ง คือ สร้างพระในใจคน และขยายถาวรวัตถุ เพื่อแสดงถึงความเจริญของศาสนา(แนะนำให้ไปอ่าน เรื่องพระเจ้าอโศก มหาราชดูนะ) และประโยคที่ว่า"เข้ากระเป๋าเจ้าอาวาส" เอามาจากไหนครับ น่าหดหู่ อีกแล้ว ฟังเค้ามาแล้วไม่ใช้ "โยนิโสมนสิการ" ตัดสิ้นอีกแล้ว บาปจริงๆ ว่างๆ ลองนั่งรถเมล์ที่วัดจัดให้ฟรีนะ มีทั่วประเทศ(หากให้เสียเงินค่ารถไปวัดเองคงไม่ยอม) ไปดูถาวรวัตถุ ที่คุณว่านะ ว่าเนื้อที่วัด 2500 ไร่ ใช้เงินเท่าไหร่ สิ่งปลูกสร้าง ใช้เงินเท่าไหร่ ศาลา 192 ไร่ กว่ากว่าสนามหลวง 6สนาม จุคนได้มากกว่า 3แสน แถมทุกวันนี้ คนล้นศาลาเวลามีงานบุญใหญ่ ใช้เงินเท่าไหร่

ลองตรองด้วย วิสัยบัณฑิต ของคุณ เจษดูเถิด ผมโคตรดีเลยที่ตอนนั้นผมได้มีส่วนถวายปัจจัยไป ไม่ถึงพัน(เพราะว่ายังอ่อนศรัทธา)

ในการสร้างศาลา และมีคนมาใช้ศาลาที่ผมมีส่วนได้ร่วมบุญจำนวนมหาศาล....

2) พระธัมชโยไม่เคยสอนใครให้ได้ดวงธรรม จึงสร้างภาพว่า การสอนคนให้เห็นดวงธรรม กายธรรม 18 กายต้องเป็นพระเท่านั้น อันนี้ไม่จริง เพราะพวกผมสอนได้รวมๆ กันเกือบ 1 ล้านคนแล้ว (การนับมีการนับซ้ำ หมายความว่า สอนครั้งหนึ่ง นับ 1 คน)

พิสูจน์ได้จากเว็บนี้ หรือตามไปดูการสอนก็ได้ หรือถ้าจะเอาให้แน่ๆ เลย หาเด็กนักเรียนมาให้เราสอนเลย เราจะไปสอนให้ดู หานอกกรุงเทพฯ ก็แล้วกัน เพราะในกรุงเทพฯ สอนมาเกือบทุกโรงเรียนแล้ว และเด็กจะเอาเป็นไทย จีน ฝรั่ง ฯลฯ ได้ทั้งสิ้น ถ้าเด็กไม่ใช้ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษ หาล่ามมาแปลให้ด้วยก็แล้วกัน ขอเวลาแค่ 1 ชั่วโมงจะพิสูจน์ให้ดูอย่างเป็นวิทยาศาสตร์

เมื่อตัวเองสอนไม่ได้ เลยมีการใช้เทคนิคสร้างภาพบอกว่า ชาตินี้เรี่ยไรก่อน ชาติหน้าค่อยมาทำกายธรรม การทำแบบนี้ คนเชื่อก็ไม่ค่อยฉลาดนัก ชาติหน้ามันกะเกณฑ์กันได้ง่ายๆ เมื่อไหร่ ถ้าทำได้ชาตินี้ทำไมไม่ทำเลย

และการบอกว่า การทำบุญโดยการทำทานได้บุญมาก ผิดหลักพระไตรปิฎก ธรรมทานได้มากสุด ถ้าให้ธรรมทานไม่ได้ ปฏิบัติธรรมเองก็ได้มากกว่า การเรี่ยไรบ้าเลือดแบบวัดพระธรรมกายไม่ได้บุญบารมีอะไรนัก

แก้ต่างข้อ2 ข้อนี้ไปฟังใครมาอีกครับ ว่าไม่สอน คนไม่เคยเข้าวัดได้แต่ฟังๆ เค้าว่า และก็มาเขียนหนังสือ มาเปิดเว็บ ก็เป็นเช่นนี้หละ วิสัยบัณฑิต งง จริงๆ เค้าสอนอยู่ทุกวันๆ สอนทุกคน ที่เข้าวัด สอนไปนรกสอนไปสวรรค์ สอนหมดหละครับ แต่คุณลองคิดตามผมดูนะ ในทุกๆวันงานบุญ จะมีคนหน้าใหม่ๆ เข้าวัด คนที่เข้าครั้งแรก เค้ามาถึง คุณจะสอนเค้าเลยไหม ว่า ข้างในตัวเรามี 18 กาย นะ ท่องเที่ยวได้ทั่วจักรวาล นรกสวรรค์ไปได้หมด ระลึกชาติ เรื่องเด็กๆ เป็นคุณ คุณจะคิดยังไง....? คุณคงงง วัดนี้อะไรของเค้า บ้ากันทั้งวัด มาถึงจะให้คนบ้านั่งสมาธิไปนรกสวรรค์เลย ใจคนหนะครับ คุณเจษ ธรรมกาย แปลว่าธรรมชาติ คือดวงไปเกิดมาเกิด มีลักษณะ กลมใส แต่โดนกิเลส ห่อหุ้มใจ มายาวนาน บางคนมาก บางคนน้อย แถมบางคน มาวัดแบบไม่เต็มใจอีกต่างหาก คุณจะเลือสอน คนเหล่านี้ ด้วยวิธีไหนครับ 1. ยัดเยียด วิชาความรู้ เรื่อง 18 กาย เรื่องนิพพาน ระลึกชาติให้เค้าฟังเลย หรือ2. คุณจะเลือกให้เค้าค่อยๆนั่งหลับ ตาเบาๆ ทำใจสบายๆ เพื่อค่อยๆ Burn กิเลสค่อยๆ นึกดวงแก้ว ไปเรื่อยๆ เน้น เข้ากลาง บารมีการสั่งสมของแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน บางคนหลับตานึกปุ๊บ ทะลุ 18 กาย บางคน นั้งทั้งชีวิต แม้แต่ ดวงปฐมมรรค ก็ยังเข้าไม่ถึงเลย คุณจะเลือกสอนแบบไหน? ส่วนคนที่นั่งดีแล้ว เค้าก็มีพระอาจาร์ยค่อยสอนต่อวิชชาให้เรื่อยๆ ผมจะบอกให้ว่า ผมสอนลูกสาวผม ก็นั่งได้ หลานผมก็ไปดูนรกสวรรค์ มาแล้ว(ไม่ได้โม้) คุณเจษ ฉลาดนะ ท้าให้เอาเด็กมาสอน เพราะเด็กๆ ยังไร้เดียงสา นัก กิเลสยังน้อยอยู่ เหมาะแก้การสอน ทำไมไม่ลองเอาคนวัยทำงานมานั้งดูหละ วัยกำลังเครียด อยากรู้ว่า เวลา 1 ชม ที่คุณว่า กว่าใจเค้าจะปรับได้ 1 ชมจะพอไหม รู้อยู่แก่ใจ ใครบอกชาติหน้ากะเกณฑ์ไม่ได้ครับ แสดงว่าคุณไม่เชื่อธรรมมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยสินะ ว่าบาป มีจริง บุญมีจริง ชาติหน้ามีจริง ใครทำกรรมใดไว้ ตนย้อมเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น เคยถามตัวเองไหม ทำไมชาตินี้ต้องเกิดมาเจอเรื่องอะไรแบบนี้(หมายถึงเรื่องแย่) หรือว่าทำไมเค้ารวย แต่เราจน ทำไมบางคนเกิดมาปัญญาอ่อน ตาบอด หูหนวก ถ้าคุณเชื่อในพระธรรม คุณจะไม่พูดแบบนี้ออกมาเลยอยากรวย ก็ต้องทำทาน สิ อยากฉลาด ก็ต้องวิปัสสนา อยากสวย หล่อ ผิวขาวใส ก็ต้องเป็นคนมีศีล ทาน ศีล ภาวนา เชื่อแค่3 อย่าง ชาติหน้าไม่ต้องกลัวลำบาก คอนเฟริ์ม!!! ที่คุณบอกว่าเรี่ยไร่หนะ ผิดแล้ว วัดสอนให้คนละความตระหนี่ให้มากที่สุด บางคน ทำเป็น100 ล้าน ผมก็เห็นมาแล้ว ถามว่าคุณรวยเท่าเค้า เงินซัก ล้านเดียว คุณจะสละได้ไหม เรียกว่า ยิ่งหามายาก ก็ยิ่งหวง ยิ่งยึดติด ทั้งๆที่รู้ว่า ตายไปเอาไปไม่ได้ซักบาท คนยิ่งให้ ก็ยิ่งได้รับ เคยได้ยินไหม ผมเห็นแต่คนที่เค้าทำบุญเท่าไหร่ ก็ก็ไม่หมด มีแต่เจริญก้าวหน้า แปลกไหม บางคนว่าแปลก แต่ผมเห็นว่าเรื่องปกติ

ต่อตอน2

3) การสอนต้องให้ผู้รับการสอนเดินฐานของใจ ตั้งแต่ 1-7 ไม่ใช่ไปตั้งที่ฐานที่ 7 เลย การสอนให้ตั้งใจที่ฐานที่ 7 เลย ทำให้ผู้ปฏิบัติเห็นดวงธรรมกายธรรมด้ยาก เพราะนิวรณ์ 5 เกิดได้ง่าย ผู้ปฏิบัติจะเอาใจซัดส่ายไปเรื่อยๆ บางคนเผลอสติไปเป็นชั่วโมงก็มี

การสอนแบบวิทยากรของคุณลุง จะบอกให้ผู้ปฏิบัติทำตามตั้งแต่ฐาน 1-7 ทำให้ผู้ปฏิบัติต้องเอาใจจดจ่อตามวิทยากร นิวรณ์ 5 เลยไม่เกิด จึงเห็นดวงธรรม กายธรรมได้ง่าย

แก้ต่างข้อที่3. เรื่องนี้ผมอาจเห็นด้วยกลับคุณ เจษ แต่มุมมองผมไม่แคบเท่าคุณ ตัวผมเอง การจะตรึกที่ฐานที่ 7เลยนั้น ยากมาก ต้องเริ่มจาก ภาบนอกและเข้าสู่ภายใน แต่ลูกผม ผมสอนให้เค้ามองลูกแล้ว และนึกไปไว้ที่ท้อง เหนือสะดือ 2 นิ้ว ไม่ถึง 5นาที เค้าเข้าได้เลย ข้อนี้น่าคิดตามไหม ว่าทำไม ผมจะบอกให้ ว่าพระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่าการเข้าถึง ธรรมกายนั้น มีด้วยกัน 40 วิธี สุดท้ายจะได้ผลลัพย์เดียวกันหมด จะเคลื่อนจากนี้ไปไม่ได้ เค้าเรียกว่า กุลโลบาย และวิธีสอน ไม่เหมือนกัน ไม่ได้ให้มาจับผิดกัน ควรจะจับถูก !!! และนำข้อดีของเค้ามาวิเคราะห์ ตามวิสัย บัณฑิต จะมามั่วกล่าวโทษกันให้ได้อะไรหละจ๊ะ

4) พระธัมชโยเอาวิชชาธรรมกายของจริง มาล่อลวงให้คนบริจาค เป็นการสร้างกรรมหนักมาก พูดอย่างเข้าข้างตัวเอง บารมีของพระธัมชโยไม่เท่าปลายเล็บบารมีของผมหรอกครับ พระธัมชโยสร้างภาพทั้งนั้น

แก้ต่างข้อ4. ข้อนี้ ไม่อยากจะพูดเลยว่า บาปแค่ไหน ธรรมกายมีจริง เกิดจริงแด่ผู้ที่เข้าถึง เท่านั้น จะเข้าถึงได้ยังไง ก็ต้องทำจริงๆ สิ แล้วจริงแค่ไหนหละ จริงเท่าชีวิต สิ นี้เป็นคำที่หลวงปู่ สดให้โอวาสแก่ลูกศิษย์ไว้ วิชชาธรรมกาย คนที่เข้าถึงแล้ว จะไม่คอยพูดจาว่าร้ายกัน บางคนมุ่งเพื่อ นิพพานของตน ส่วน บางคนต้องการนำหมู่คณะเข้านิพพานด้วย ดังเช่นวัดธรรมกาย คุณ คิดว่าชาตินี้คุณทะลุ 18 กายได้ แล้วคุณจะเข้านิพพานได้เลยไหม หรือจะต้องเวียนวายในวัฏสงสาร อยู่ ถ้ารู้เช่นนี้ทำไม ไมทำ ทาน ศีล ภาวนาหละ ชาติหน้าจะได้เกิด มา รวย สวย ฉลาด หรือไม่ทำทาน ศีล แต่ทำภาวนาอย่างเดียว ชาติหน้า คุณก็คงเกิด มาขี้เหล่ เพราะผิดศีล แถมจนโคตรๆ บ้านอดๆอยากๆ เพราะไม่ได้ทำทานมา แต่ดันฉลาดไอคิว 180 ซะงั้น เอางั้นดีไหม หลวงพ่อท่านสอนให้คนสร้างบารมี ชาติหน้าจะได้เกิดมา รวย สวย ฉลาด และตอกย้ำ คำอธิฐาน เพื่อให้ได้เกิดมาสร้างบารีกับหมู่คณะ เพื่อกันพลัดพลาดไปเกิดในศาสนาอื่นๆ ครั้นละโลกไป แล้ว ก็ไปแวะพักกลางทางที่ ดุสิต บุรี พอหมดบุญ ก็เกิดมามีลักษณะ มหาบุรุษ ร่ำรวย อำนาจ วาสนา ที่สำคัญเป็น สัมมาทิฐฐิ เกิดในตระกูลที่นับถือพุทธศาสนา แล้วก็สร้าง บางมี ต่อจนบารมีเต็ม ถึงจะเข้านิพพานได้ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ คนที่อ่านพระธรรม น่าจะคิดได้นะ หรือคุณจะไม่ลงมาเกิดแล้ว??? หลวงพ่อธัมมชโย ชอบสร้างภาพ แปลตรงไหนจ๊ะ คุณมีลูกยัง?? คุณจะให้ลูกคุณเห็นสิ่งแย่ๆ หรือสิ่งที่ไม่ดีในตัวคุณไหม หรืออยากทำให้ลูกเกิดศรัทธาในตัวคุณดีหละ พูดอย่างนี้ไม่ใช่หลวงพ่อมีด้านมืดนะ หลวงพ่อท่านทำเพื่อศาสนา ภาพทุกๆ ภาพที่ออกตามสื่อ ต้องดูดีมีระเบียบ พระลูกวัดต้องมีวินัย เหมาะสมกับการครองเพศบรรพชิต คุณเคยเห็นพระวัดธรรมกาย ยืนเลือก CD หนัง ตามคลองถมไหม คุณมองแล้วคุณรู้สึกยังไง นี่หรือ คนที่คุณกราบไหว้ สละเงินน้ำพักน้ำแรงมาถวายท่าน แต่วัดนี้ ทุกๆ อย่างมีกฏ ระเบียบ แบบแผน และเป้าหมายที่ชัดเจน ไม่เคยเดินนอกกรอบ คนถึงยิ่งศรัทธา และเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีๆ คนที่ได้เห็นภาพ ตามสื่อต่างๆ ก็จะแห่กันมาดูซิ ว่าวัดนี้ทำได้ ถึงมีคนเป็นแสนคน มานั่งสมาธิ และเสียงเงียบมากๆๆ แม้หลายๆ คนส่วนใหญ่ ก็นั่งหลับตาเฉยๆ ไม่รู้ว่านั่งทำไม แต่ก็นั่ง เพราะความเชื่อมั่น ในบุญ เชื่อมั่นในสิ่งที่หลวงพ่อทำ เชื่อมั่นว่าเงินที่ถวายไปนั้น จะเอาไปใช้ในงานศาสนาจริงๆ หลายๆ คนฟังด้านลบมา พอมาวัดก็เปลี่ยน เพราะเข้าใจเป้าหมายของวัด ลองมองภาพรวมๆ สิครับ หากวัดธรรมกาย เป็นศูนย์พุทธจักรที่ใหญ่ที่สุดในโลก เช่นเมกกะ ของอิสลาม คนเดินทางไปเมกกะ ปีละ หลายล้านคน นำเงินเข้าประเทศ ดูไบ ปีละกี่ล้าน U$ ถ้าเป็นประเทศไทยหละ ขอแค่ ปีละ 10 ล้าน นำเงินมาใช้จ่ายคนละ 1000 คุณว่า 10,000,000X1000 เท่ากับเท่าไหร่ ประเทศชาติได้อะไร พ่อค้าแม่ขายบ้านเราได้อะไร นี่ขนาดมองแค่ด้านเศรษกิฐ นะ ยังไม่รวมเรื่องสังคม ที่วัด นำเด็กมาสอนเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา อีกเป็น แสนๆ คนต่อปี ปลายปีนี้มี 5แสนคน เด็กประถมปลายถึงเด็กมัธยม เด็กๆ พวกนี้เป็นอนาคต ของชาติใช่ไหม แล้วพอเค้าโตไปเป็นคนมีศีล บ้านเมือง จะสงบไหม ทุกวันนี้ รัฐแก้ที่ปลาย เหตุ แต่วัดแก้ ที่ต้นเหตุ ปลูกฝังตั้งแต่เล็ก วัดธรรมกายไม่ดีตรงไหนจ๊ะ???

สุดท้ายนี้ อยากจะขอสอนบัณฑิตซักทีเหอะ กรุณาทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำว่า "โยนิโสมนสิการ" ให้ลึกซึ้ง ก่อนจะนำมาใช้ จะได้เป็นคนที่ คิดถูก เห็นถูก และ พูดถูก มองอะไรมองให้รอบๆด้าน อย่าอาศัยแค่ เค้าว่ามา! ก็ฟังเค้ามา! ฟังอย่างมีสติ ฟังแล้วตรองด้วยเหตุ และผม โดยอาศัย การ จับถูก คนอื่น แต่จับผิด ตนเองให้มากๆ แนะนำให้ไปศึกษาคำสอน เป้าหมาย แนวทาง เจตนารมณ์ ของวัดให้ลึกซึ้งก่อน ก่อนจะฟันธง ว่าดีไม่ดีอย่างไร เห็นต่าง ไม่ผิดครับ เราไม่ใช่พวกเสื้อเหลือง เสื้อแดง ที่เห็นต่างแล้วต้องห้ำหั่นกัน เราทั้งหลายได้เข้ามาศึกษาคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เราได้ชื่อว่า เป็น บัณฑิต ผู้ เจริญแล้ว ด้วยกันทั้งนั้น

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับวัด ซักถามได้ทุกอย่าง หากตอบไม่เก็ต อย่านับว่าผมเป็นชาวพุทธเลย เพราะเพราะแก้ต่างเพื่อศาสนา ไม่ใช่แก้ต่างให้วัดอย่างเดียว สิ่งที่คุณ นาย เจษฎา สุนันท์ชัย ได้ทำนั้น ผมขอชมเชยด้วยใจจริงแท้ ว่าเป็นผู้มีคุณต่อศาสนาอย่างใหญ่หลวงนัก คือได้เผยแผ่วิชชาธรรมกาย ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประกาศว่า คำสอนของทั้งนั้น ดีจริง เข้าถึงได้จริง ขออนุโมทนาบุญ ด้วย ไม่จำเป็นเลยว่า คุณจะนั่งได้ 18 กาย หรือแม้แต่ดวงปฐมมรรค หรือไม่ แค่คุณทำให้คนได้เข้าถึงก็ได้บุญมหาศาลแล้ว

มากกว่าสร้างโบสถ์ สร้างวิหารเสียอีก คือให้ ธรรมทาน อย่างที่คุณบอก (จริงๆ แล้วจะทดสอบคนได้ธรรมกายหรือไม่นั้น ง่ายนิดเดียว ให้คนนึงเปิดหนังสือ และคนนั่งธรรมกาย ใช้ตาธรรม ดูว่าเปิดหน้าอะไร อันนี้เป็นแค่ความสามารถพื้นฐานเท่านั้นเอง ทดสอบต่อหน้าหลายๆ คนก็ได้ ) หวังว่าการที่ผมได้สละเวลา แก้ต่างข้อต่างๆ นี้ จะทำให้คุณ เจษ คิดได้ และเห็นแก่ ครูบาอาจาร์ย และ พระศาสนา และ ลบ ข้อความด้านบน ที่เกี่ยวกับคุณยายจันทร์ หรือแม่ชีท่าน อื่นๆ ออกซะ เพราะมันไม่มีผลดีใดๆ เกิดขึ้นเลย มีแต่ทำให้เกิดความขัดแย้งก็เท่านั้นเอง

อนุโมทนาบุญกับ ท่านที่อ่านจนจบ และเกิด ดวงปัญญา สาธุ

ธรรมทายาท รู่น 7000 ตำบล

พอดีพิมพ์ที่บ้านลูกค้าไม่ได้ตรวจทานตัวหนังสือ ต้องขออภัย แบบว่าอ่านแล้วสะดุดใจ จึงอดทนรอกลับไปพิมพ์ที่บ้านไม่ไหว

ไว้ว่างๆ ผมจะมาเล่าถึงเป้าหมายของวัดธรรมกายให้อ่านนะครับ หวังว่าคุณ เจษคงไม่ใจจืดใจดำ ถึงขนาดลบกระทู้ผมทิ้ง

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและให้ความเห็น

โยนิโสมนสิการ ก็ควรกลับเข้าไปที่ท่านด้วย

ข้อความที่ Copy มา ก็เป็นบทความของคนอื่น ที่คุณธรรมทายาท 7000 ตำบล เขียนมา ก็ต้องคัดเอาว่าคุณเขียนตอบใคร

บทความนี้ผมเน้นที่ข้อมูล ระดับทุติยภูมิ ที่สามารถอ้างอิงได้

ส่วนเรื่ององค์การ คือวัดนั้น ท่านจะสร้างอย่างไร เป็นทางของท่าน เมื่อเกี่ยวเนื่องด้วยหลักวิชาธรรมกาย ศิษย์ผู้เกี่ยวข้องในวิชาธรรมกาย ก็จำเป็นต้องแสดงตน "ออกมาปกป้องวิชาธรรมกาย" ซึ่งผมก็ได้แสดงให้เห็นอย่างโปร่งใส ไม่ต้องแอบ ใดๆ ทั้งสิ้น และก็เขียนไปแล้วว่าพร้อมรับผิดชอบ ชัดเจน ตรงประเด็น

อย่าไปคิดว่า ผมจะใจคับแคบเลย จะมานั่งลบข้อความคนนั้น คนนี้ จะมาตีข้างๆ คูๆ ก็ไม่ทำให้ผมรู้สึกใดๆ เลย

โปรดเข้าใจหลักวิชา หาหลักวิชาธรรมกาย มาอ่าน เยอะๆๆ เรื่ององค์การ วัด คณะบุคคล ใดๆ ก็ให้ยึดเป็นความสำคัญอันดับรอง ส่วนจะเลือกเดินทางใด สร้างบารมีแนวไหน ขึ้นกับวาสนาบารมีของบุคคลนั้นๆ

สั่งผมไม่ได้หรอกครับ ว่าจะให้ลบเรื่องนั้น เรื่องนี้

อ่านดีๆ ก็แล้วกัน เอาตามนี้ก่อน

จริงๆ คนทั้งโลก ก็ไม่ได้มาอ่านข้อความของผมหรอกครับ

มีแค่ไม่กี่คนเอง ที่มาอ่าน

ลองไปหาหลักวิชา มาแก้กันดีกว่า

ใจจะได้ไม่ "จี๊ด" แบบนี้

บางท่านพิมพ์ไป มือสั่นไป เพราะอารมณ์ขึ้น ใจเย็นๆ ค่อยๆ พิมพ์ก็ได้

เรื่องของคุณลุงที่หลายท่านเขียนมาไว้ในกระทู้ ที่ผมไม่ตอบ เพราะในหนังสือที่คุณลุงท่านเขียน ก็อธิบายไว้แล้ว ลองไปหาอ่านเอง ผมเขียนตอบ เดี๋ยวรายละเอียดตกหล่น จะส่งผลเป็นโทษ ก็ผมได้ ลองหาอ่านดูแล้วกันนะครับ

ผมก็แค่ก้อนกรวด ไม่มีค่าอะไรมากนัก อย่างน้อยก็ทำให้ใครหลายคน รู้จักครูบาอาจารย์ ในวิชาธรรมกายมากขึ้น ผมก็พอใจแล้วครับ เน้นอีกครั้ง อยากรู้จักวิชาธรรมกาย ต้องศึกษาวิชาธรรมกาย ด้วยหลักวิชาจริงๆ ถามว่าไปหาอ่านที่ไหน ก็ลองหาได้ที่ www.kayadham.org เป็นที่แรกก็ได้ แล้วสืบค้นไปเรื่อยๆ ให้ท่านแจ่มแจ้งดู

แล้วท่านจะเข้าใจเอง

ก้อนกรวดในรองเท้า

ธรรมทายาท รู่น 7000 ตำบล

เคยอ่านหมดแล้ว ตั้งแต่เล่มต้นฉบับ สมัยบวชวัดปากน้ำ โดนเข้าไปที่ห้องสมุดของวัดเองเลย ซึ่งมีสภาพทรุดโทรม ฝุ่นเกาะมากมาย โรงงานทำวิชชาก็เช่นกัน ปัจจุบัน เป็นที่ให้ ชีนั่งคุยไปซะแล้ว จะเอาหลักวิชชามา โต้แย้งกันทำไมไม่ทราบ ครูบาอาจารย์ ก็หลวงปู่ สด เหมือนกัน ในการปฏิบัติผมก็อยู่ในระดับ พอใช้ เห็นแจ้งแล้วว่ามีจริง และดีจริง เข้าใจว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร ทำไมเราถึงต้องเกิด ยิ่งอ่านยิ่งหดหู่ แต่ก็ไม่ท้อเรื่องการสร้างบารมี อนุโมทนาบุญกับ ท่านทั้งหลายไม่ว่าใครก็ตามที่ทุ่มเท เพื่อปราบมาร และแผ่ขยายวิชชาธรรมกาย และผู้ที่ทำงานเพื่อศาสนา สังคมสงบสุขได้ด้วย ทาน ศีล และ ภาวนา สรุป คือ คนมีปัญญา ก็แค่นั้นเอง ถามว่าความรู้ระดับ"ทุติยภูมิ ที่สามารถอ้างอิงได้" นั้น คุณเจษ ได้อ้างอิงจากบุคคลได้บ้างอยากทราบ หรือฟังแค่เค้าเล่า มาอีกแล้ว เกิดก็ไม่ทันหลวงปู่ ฟังเค้าว่ามาแล้วก็เกิด จริต ขึ้นในใจต่างๆนานา คุณยาย จันทร์ ท่านไม่ดีตรงไหนครับ ท่านนำวิชชา ของหลวงปู่ ไปสร้างศรัทธาให้คน สร้างถาวร วัตถุ ให้ชาวพุทธทั่วโลก กราบไหว้ ท่านนำ วิชชา ของหลวงปู่ ไปเผื่ยแผ่ ให้ทั่วทุกมุมโลก ต่อให้ คำสั่งสอนจะคลาดเคลื่อนไปบ้าง แต่คนก็รู้เรื่อง ธรรมกายกันมากขึ้น คุณยายผิดตรงไหน ตรงแค่ลูกศิษย์ ท่านพิมพ์ว่า ได้รับความไว้วางใจให้เป็นหัวหน้าเวร เท่านี้หรือ??? คุณเจษ ติดใจแค่นี้จริงๆ หรือ ผมเข้าใจ ความหมายของคำว่า อ่านแล้ว "จี๊ด" ที่คุณเจษบอกทีเดียว ว่ามันมีอาการเยี้ยงนี้ นี่เอง คุณเจษ คงอ่าน แล้วไฟลนก้น ต้องรีบมาทำเว็ฐ ทำบล็อก ประกาศให้โลกรู้ทีเดียว เคยผ่านประสบการณ์ พิมพ์ไปมือสั่นไป มาแล้วสิ อ้อ.... Get ทีเดียว อธิบายได้เห็นภาพเลย ผมเข้าใจคนลักษณะคุณนะ ผมเรียกว่า คนบ้าข้อมูล หากมีข้อมูลใดๆ ก็ตาม ที่หนาแน่น พอให้เชื่อ แม้จะไม่ถูกต้องเลยก็ตาม คุณ ก็จะเชื่อจนโงหัวไม่ขึ้น โดยไม่ตรองรอบด้าน

และวัดธรรมกาย ให้คนทำบุญเยอะๆ แล้วผิดตรงไหนหละ ผมยิ่งทำยิ่งรวย แปลกไหม คนที่วัดก็เป็นแบบเดียวกันทั้งนั้น ไม่มีใครคิดทำเอาหน้า แต่เค้าเชื่อว่า เค้ายิ่งให้กลับยิ่งได้ เออ มันแปลก จริงๆ คนขายถั่วงอก เก็บเงินมา 30 ปี ได้ 1ล้าน เอามาถวายวัดหมด คุณว่าเค้าโง่ไหม แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ อีก6 เดือน ต่อมา เค้ามาถวาย อีก1ล้าน และทุกวันนี้ เค้าก็ถวาย เงินล้านเป็นว่าเล่นเลย เออ ไอนี้ก็แปลก แต่คนวัดเค้าเห็นเป็นเรื่องปกตินะ คนที่ไม่ยึดติดกับ วัตถุ สิ่งของ ให้ด้วยใจ บริสุทธิ์ ได้กลับมานับทับทวีไม่ถ้วน คนเราของยิ่งหายาก ก็ยิ่งยึดติด วัดผิดตรงไหน??? งานล่าสุด จัดให้มีงานบวชพระ 7000 รูป แต่คนมาบวชหมื่นกว่า คนเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ของอนัตจักรวาล แม้แต่ในสมัยพุทธกาล ก็ไม่เคยปรากฏ มีใครทำได้ครับ นอกงานวัดนี้ (บวชฟรี นะจ๊ะ)แล้วคนบวช เค้าจะได้อะไรครับไปให้ ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ บ้าง อย่างหนึ่งที่ได้แน่ๆ คือ การเป็นผู้รู้ประมาณในตนเอง ละชั่ว(อย่างน้อยก็ชั่วเวลาหนึ่ง บางคนอาจตลอดไป) ตั้งใจสร้างบารมี คนกลุ่มนี้ไปอยู่สังคมไหน สังคมนั้นเกิดสันติสุข ไม่ดีหรือ ปลายปี มีโครงกาลเอาเด็ก 5 แสนคน มาอบรมเรื่อง ศีล และการสร้างบารมี เด็กกลุ่มนี้ก็อนาคตของชาติ ภาครัฐ เคยสนใจไหม ตอบไม่เคย ถึงสนใจก็ไม่จริงจังและต่อเนื่อง วัดทำให้เด็กที่เคยเกเร เป็นเด็กดีได้ วัดแบบนี้ไม่ดีอีกหรือ???

ธรรมทายาท รู่น 7000 ตำบล

ต่อตอน2

ต้นปีหน้า มีโครงการ บวช 1แสนรูป ทั่วไทย และจะขยายไปเป็น 1ล้านรูป ทั่วโลก ในอนาคต (บวชฟรีตลอดงาน) คิดดูว่าวิชชาธรรมกายของหลวงปู่ สด จะขยายไปถึงไหน วัดนี้ไม่เคยอ้างว่าเป็นผู้คิดค้น ไม่เคยอ้างว่า คุณยายเป็นผู้ค้นพบ แต่สอนให้คน สรรเสริญ คุณของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำ สด จันทสโร ตลอด ชื่อเสียงหลวงปู่ก็เกรียงไกร ไปทุกทิศ คุณเป็นศิษย์หลวงปู่หรือไม่ ถ้าใช่ แล้ว วัดไม่ดีตรงไหนอีกหละ คุณสอนแนวของคุณ คุณก็สอนไป ผมถามหน่อยว่า คุณได้ทำอะไรให้พระศาสนาแล้วบ้าง ได้เริ่มสร้างวัด หรือศาลาบ้างรึยัง คุณอาจมองไม่เห็นความจำเป็น เพราะมุ่งเน้นแค่สร้างพระในใจคนมากกว่า แต่คุณอย่าลืมสิ สันดาร คน โดนกิเลสห่อหุ้มใจ หยาบช้ามามากมายเท่าไหร่ กายทำละเอียดนั้น ก็ทำยาก แถมโดนมารแทรก ตลอดเวลา คุณว่าคุณจะเอาอะไรมาให้คนยึดเหนี่ยวดี พระภายใน หรือ วัด เวลาคุณมีคนสนใจปฏิบัติ ธรรมกันมากๆ คุณจะใช้สถานที่ได้ ที่มันเป็นกิจลักษณะ จะเช่าห้องโสต ตามโรงเรียนไปตลอดหรือครับ หรือจะชวนคนมาสร้างวัดกันดี ทุกอย่างสัปปายะ คนก็เข้าถึงธรรมได้ง่ายขึ้น หรือว่าไม่จริง ??? เรา(วัดธรรมกาย)สร้างวัด สร้างชาวพุทธ ขยายงานพระศาสนา และพระธรรมคำสั่งสอน ปลูกฝั่งศีลธรรมในใจคน และที่สำคัญสุด เผยแผ่วิชชาธรรมกาย ขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และประกาศก้องไปทั่ว ว่าผู้คนพบคือ หลวงพ่อวัดปากน้ำ เราบกพร่องประการใดหรือ??? คุณเจษ ถึงมองเราเช่นนี้ วัดธรรมกาย เคยแก้ข่าว หรือโจมตีใครไหม ตอบคือ ไม่เคย แนวทางของวัดคือ ตั้งเป้าหมายให้ไกล(ไกลกว่าใจคนธรรมดาจะหยั่งถึง) แล้วไปให้ถึง ทำใจหยุดใจใส ไม่โต้งกับใครทั้งนั้น เพราะเชื่อมั่นในวิชชาธรรมกาย ว่าสิ่งที่ได้ทำ เส้นทางที่ได้เดินมานี้ถูกต้อง และจะสำเร็จ นี่หละ คือวิชชา ปราบมาร ของเรา ปราบมาร ภาคหยาบ คือมิจฉาทิฏฐิ ในใจคน

ธรรมทายาท รู่น 7000 ตำบล

ต่อตอน 3

งานต่อไปของวัดคือ กฐิน คุณยาย สร้างอาคาร 100ปี เป็นศูนย์รวมตำรับ ตำรา ทางพุทธศาสนา

วัดพระธรรมกาย มีคนสอบได้ ปธ. 9มากที่สุด มีคนบวชอุทิศ ชีวิต มากที่สุด มีวัยรุ่นและเด็กให้ความสนใจ เข้าวัดเยอะที่สุด มีคนตั้งแต่รวยที่สุด จนถึง จนที่สุด เข้าวัด มากมาย ระดับการศึกษาหละ ระดับ ดร. นายแพทย์ วิศวะกร ทหารตำรวจ จนถึงคนไม่รู้หนังสือ คนระดับ ดร. คุณว่าเค้าโดนหลอกง่ายไหม?? หลวงพ่อธัมมชโย ลงเทศนาผ่านจานดาวเทียม จัน-เสา ทำติดต่อกันมาเป็นปีๆ ไม่เคยขาด เพื่อสอนให้ลูกหลานเป็นนักสร้างบารมี หลวงพ่อรวยขนาดแสนล้าน ท่านจะเอาเวลาที่ได้ไปใช้เงินหละจ๊ะ ต่างประเทศ ก็แทบไม่เดินทางไปเลย วัดขยายได้ด้วยผู้ศรัทธาในวิชชาธรรมกาย ทั้งนั้น เป็นคุณเจษ สอนเด็กนั่งสมาธิ จัน-เสา ทำติดต่อกันหลายๆ ปีไม่เคยหยุดได้ไหม ??? การที่วัดเน้นการตลาด(อย่างที่พวกคุณเรียกนั้น) ก็เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ทั้งที่ไม่ศรัทธา เลย เช่นเด็กรุ่นใหม่ จนถึง ชาวต่างชาติที่ไม่รู้จักศาสนาพุทธเลย ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เราเรียกว่า เชิง รุก!!! พอดีเพิ่งดูเรื่องจริงผ่านจะจบ เดี๋ยวนี้ชอบเอาเรื่อง พระสงฆ์ ทำเรื่องให้เสื่อม มาลงบ่อย ผมถามหน่อยว่า ทำเช่นนี้ คนที่ดู จะรู้สึกดีใจไหมที่จับมารศาสนาได้ หรือว่า จะเริ่มเสื่อมศรัทธา ลงไปเรื่อยๆ ตอบคือ ทั้งสองอย่าง คนเดี๋ยวนี้นับถือพุทธ แค่ใบเอกสารราชการ ศีล 5 มีอะไรบ้างยังไม่รู้เลย ถ้าวัดไม่ทำเช่นนี้ คุณจะรอให้ศาสนา เสื่อมไปถึงจุดที่จะเกินเยียวยาแล้วหรือไม่ เรื่องทางโลก เราต้องวาง อุเบกขา เรื่องพระศาสนา เราต้องเอา อุเบกขาวาง จำไว้ ถ้ายังเป็นชาวพุทธนะ

แถมท้ายอีกเรื่องนะ วัดนี้ไม่เคยเรียกศรัทธา คนด้วย การให้หวย คนที่มา มาเอาบุญสร้างบารมีกันจริงๆ จังๆ ไม่ใช่มาเพื่อขูดเลข ขอหวย ถูกแล้วก็มาทำบุญ ไม่ถูกก็หายหัว เหมือนวัดดังต่างๆที่ นสพ. ชอบเอามาลงกันจัง

ธรรมทายาท รู่น 7000 ตำบล

สุดท้ายนี้ สิ่งที่คุณและผม(ตัวแทนจำเป็น วัดพระธรรมกาย) ต่างก็ได้ทำเพื่อพระศาสนา กันทุกฝ่าย งานใครงานท่านจุดหมายเดียวกันคือ สร้างพระให้เกิดในใจคน......เพื่อสันติสุข ของสรรพสัตว์โลกทั้งหลาย

หวังว่าท่านแล้วแล้วคงจะเข้าใจ

"ฝ่าเท้าพระพุทธองค์"

ไม่เอาหลักวิชามาพูด แค่นี้ก็เลิกอ่านแล้ว

โชคดีนะครับ

ความลับไม่มีในโลก ทำความดีกันต่อไปเรื่อย พุทธศาสนาวิชาธรรมกายพิสูจน์ได้ เถียงกันจนตายก็ไม่เกิดประโยชน์ คนจนนี้เข้าวัดแล้วครอบครัวมีความสุขมากทั้งทีจน

ถ้าปฏิบัติกันให้ถึงที่แล้วไม่ต้องเคืองกันเลย นรกสวรรค์มีจริง ไม่ต้องคิดไกลแค่ใจเราก็รู้แล้ว แค่เคืองกันใจร้อนลนปล่าวๆ ทุกวันนี้วัดก็พิสูจน์ให้เห็นตั้งมากมาย ชีวิตครอบครัวที่เขาทุกข์ยากลำบากแล้วดีขึ้นทุกคนใจใสใจสบาย เอาแค่นี้น่ะ ปฏิบัติตามหลวงปู่สด(ทางสายกลาง บาลีว่าไม่เป็นแต่ทำใจว่างๆได้)แล้วเราจะพบความสุขที่ไม่สามารถแลกด้วยทรัพย์สินเงินทองมากมาย

สาธุ

ตัวแทนจำเป็นอีกแล้ว

อืมห์.....

นับว่าเสี่ยงต่อนรกอย่างยิ่ง

ยิ่งว่าคนที่บริสุทธิ์มาก ทั้งที่ยังไม่ได้เห็นแจ้งด้วยตัวเองอย่างแท้จริง นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง

คนที่มีมานะทิฏฐิ จะเข้าถึงธรรมนั้นก็ยาก

แม้เข้าถึงได้ ก็เป็นญาณทัสนะอันเจือด้วยสายดำ

สายดำเข้าแทรกได้ตลอดแม้ที่กลางกาย

แม้พระพุทธเจ้า พระเดชพระคุณหลวงปู่(สด) สร้างบารมีมายิ่งกว่า 5 พันอสงไขยชาติ ยังโดนพญามารจับถอดขันธ์ ถอดกาย

แล้วเราเป็นใคร เราจะได้ริอ่านบอกว่าเรานั้นเป็นผู้ที่รู้จริงในเรื่องนั้นเรื่องนี้ ตั้งตนเป็นอาจารย์

ในสมัยพุืทธกาลมีเหล่าปริพาชกมากมาย ที่ยึดมั่นว่าสิ่งที่ตนเองคิดและปฏิบัตินั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องอย่างที่สุด

ทั้งที่ไม่อาจเถียงหรือแก้พระสัทธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ยังถูกมานะทิฏฐิห่อหุ้มใจ ถูกพญามารสอดไส้ สอดแทรก ซึม ซับ อยู่ที่ศูนย์กลางกาย เขาร้ายอย่างนี้ หากผู้ใดที่ยึดมั่นถือมั่น เอาโยนิโสมณสิการอันเป็น จินตมยปัญญา และ สุตตมยปัญญา มาตัดสิน นับว่าเป็นภัยของเขาอย่างแท้จริง

แม้พระเทวทัต ผู้มีบุญญาธิการมาก ได้อธิษฐานขอเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า แต่เพราะความผูกโกรธที่มีต่อพระโพธิสัตว์ ซึ่งคือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสมณโคดม ของพวกเรา ทำให้ต้องมากระทำกรรมหนัก

พระเดชพระคุณหลวงพ่อผู้ได้รับคำสั่งจาก ธาตุธรรมฝ่ายปราบ ให้ทำหน้าที่สลับกับทีมงานของพระเดชพระคุณหลวงปู่้มานับไม่ถ้วนภพชาติ ท่านทั้งสองเป็นพระโพธิสัตว์ที่มีภาระกิจพิเศษ ที่ไม่เหมือนภาคโปรดอันมีที่สุดคือ พระนิพพาน นะคะ

แต่ที่จุดมุ่งหมายของท่านทั้งสอง คือ "ที่สุดแห่งธรรม" ซึ่งไกลกว่าพระนิพพานมากนัก ต้องสร้างสมบุญบาีรมีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ที่สุดแห่งธรรมพระเดชพระคุณหลวงพ่อได้กล่าวสอนให้นักเรียนอนุบาลฝันในฝัน(วันหลังเจ้าของกระทู้ลองเข้าไปดูออกอากาศผ่าน internet ก็ได้ค่ะ ที่ dmc.tv ช่วง 19.30-22.00 น. จันทร์-เสาร์) เอาไว้ว่า พญามาร สร้างโลภะโทสะ โมหะให้พวกเรา

ให้มนุษย์รบราฆ่าฟันกันเอง มนุษย์เป็นเพียงหุ่นเชิดให้เขา พระและมารสู้กันตลอดเวลา ชิงช่วงช่วงชิงกันส่งผลให้มนุษย์ คิดพูดทำตลอดเวลา หากเรายึกศูนย์กลางกายไว้ได้ตลอดเวลา เราก็ได้แหล่งแห่งบุญกันบริสุทธิ์ อย่างไรก็ดี หากความบริสุทธิ์ของเรายังไม่ถึงที่สุด (แม้หลวงปู่ ท่านก็ได้เทศน์เอาไว้ว่า ตัวท่านเองก็ทำไม่หยุดมา 23 ปี ยังไปไม่สุด ซึ่งคิดว่าเจ้าของกระทู้คงได้เคยฟัง) เราก็ยังไม่มีทางชนะเขา

ฉะนั้น....ความไม่ยุติธรรมนี้ มันมีเพราะฝ่ายดำ

หากเราต้องการความยุติธรรม เราต้องไปให้ถึงที่สุด คือ ที่สุดแห่งธรรม

นี่คือ สิ่งที่ พระราชภาวนาวิสุทธิ์(หลวงพ่อธัมมชโย = ผู้ชนะด้วยธรรม) ผู้ได้รับการถ่ายทอดวิชชาธรรมกายมาจาก คุณยาย ได้สอนพวกเราค่ะ

คุณยายอาจารย์นั้น ที่ผ่านมาท่านเป็นชายและเป็นพระมาตลอด จนกระทั่งในชาตินี้ที่ถูกฝ่ายดำเคลื่อนผังและแทรกผัง ทำให้ต้องมาเกิดเป็นหญิง มีโอกาสในการสร้างบารมีไม่เท่าเทียมชายที่สามารถบวชเป็นพระได้ ที่ผ่านมานับชาติไม่ถ้วน คุณยายได้ทำหน้าที่เชื่อมวิชชาระหว่าง พระเดชพระคุณหลวงปู่ และ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ

ทั้งนี้ เพราะนับภพนับชาติไม่ถ้วนอีกเช่นกัน ที่ฝ่ายดำ เขากันไม่ได้ท่านทั้งสองได้เจอกัน

เพราะไม่เช่นนั้น การทำวิชชาธรรมกาย จะแรงและเร็วมาก เช่นนั้น จึงต้องมีผู้ทำหน้าที่เชื่อมวิชชาให้แก่ท่านทั้งสองดังกล่าว

ทั้งที่เรื่องเหล่านี้ ปกติไม่ได้นำมาถ่ายทอดในที่สาธารณะ แต่เป็นความเข้าใจส่วนตัวของดิฉันเองที่คิดว่า คนที่ฝึกวิชชาธรรมกาย หากเขาไม่ได้ถูกมารครอบงำมากนัก เขาก็ืคือ เพื่อนทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย และ เป็นวงศ์บุญเดียวกันกับพวกเรา คือ

"วงศ์บุญพิเศษ เขตบรมโพธิสัตว์ ผู้มุ่งไปสู่ที่สุดแห่งธรรม" ที่ได้พลัดหลงไปตามกำลังของฝ่ายดำ ที่เขาต้องการเคลื่อนผัง และ ธาตุธรรม ให้เรากระทำการปราบเขาให้สำเร็จได้ยากนั่นเอง.....

จาก

อาจารย์มหาวิทยาลัย วิทยากรหลายแห่ง ความรู้ระดับ ปริญญาเอก

คนเดียวกับที่หลวงพ่อเคยสอนและเตือนสติเอาไว้ว่า "อย่าดื้อ"

"อย่าถือดี อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง"

ธรรมทายาท รุ่น 7000 ตำบล

อนุโมทนาบุญกับคุณ ตัวแทนจำเป็นอีกแล้ว ครับ สาธุ

วิชชานั้นดี แต่คนใช้ ไม่ดี ก็จบ

คนที่เข้ามาอ่าน ถ้าพิจารณาดีๆ ก็จะรู้เองว่า "เจษฎา สุนันท์ชัย กับพวก มันเหมือน แท็คน้ำไม่เต็ม ที่ตีแล้วดัง"

นี่คุณ เจษฎา สุนันท์ชัย ผมขอเตือนไว้ก่อน...ช่วงนี้ผมไม่อยากสร้างกรรมหนักนะ แต่ถ้าพวกคุณ ยังไม่เลิกต้มชาวบ้านกะเด็กๆนะ

คุณลองไปถามเจ้านายที่ทำงานของคุณสิ ว่ารู้จัก พี่สิงห์ รึเปล่า?( สิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ )

ถ้าผมลาสิกขามาแล้ว ยังมาเจอพฤติกรรมต้มชาวบ้านกะเด็กๆของพวกคุณอยู่นะ

เตรียมหางานใหม่ทำได้เลยนะ นาย เจษฎา สุนันท์ชัย

หาผู้รู้วิชาธรรมกายจริงๆๆ มาแสดงความเห็นยากจริงๆๆ

คุณใช้ชื่อ jack ผมเป็นแท็คน้ำไม่เต็ม ที่ตีแล้วดัง จริงๆ ครับ เพราะความรู้ผมยังไม่เต็ม หาไปเรื่อยๆๆ

สึกมาแล้ว มาช่วยดูพวกผมนะ ว่าต้มตุ๋นชาวบ้านมากขนาดไหน แล้วเอาไปฟ้องศาลไหน ก็ได้

ยินดีจริงๆๆ

ว่างเปล่า ว่างเปล่า.......

คุณเจษฏา ได้ให้ความเห็นไว้ว่า

"เรื่องวัดพระธรรมกายนั้น ขอแสดงความเห็นดังนี้

วัดเป็นวัตถุ เป็นที่รวมของหมู่ชน เป็นองค์กร ไม่มีความรู้สึกนึกคิด ที่มีความรู้สึกนึกคิดนั้น เกิดจากมนุษย์ที่เข้าวัด อาศัย ไปใช้ประโยชน์จากวัด ไม่ว่าจะเข้าไปในฐานะอะไร เช่นเป็นพระ แม่ชี อุบาสก อุบาสิกา นักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้นวัดพระธรรมกายจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกลุ่มชนที่เข้าวัดนั้น"

ผมได้ข่าวว่า คุณ อนันต์ อัศวโภคิน ได้ทำบุญถวายสมุดเช็คแก่เจ้าอาวาส นับร้อยใบ แล้ว เติม 000,000 บาท ไว้ที่เช็คทุกใบไว้ ให้เติม ตัวเลข ข้างหน้าเอาเอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายภายในวัดพระธรรมกาย

ล่าสุดก็มี นายกรัฐมนตรี ของประเทศศรีลังกา มาสนับสนุนด้วย

ทำบุญกันขนาดนี้ก็แสดงว่า

บริษัท ในเครือ land&house , DTac และ อีกหลายบริษัท รวมถึง ด.ร. และศาสตารจารย์ของประเทศและของโลกหลายๆคน ผู้นำของนิกายอื่น ล่าสุด ประเทศศรีลังการ โดยนายกรัฐมนตรีของ ศรีลังกา ที่มาสนับสนุนวัดนี้

สรุปเป็นอย่างที่ เจษฎา สุนันท์ชัย จึงได้กล่าวรวมๆว่า

บริษัท land&house........... "เป็นองค์กร ไม่มีความรู้สึกนึกคิด"

บริษัท DTac ................... "เป็นองค์กร ไม่มีความรู้สึกนึกคิด" ก็เช่นกัน

ประเทศ ศรีลังกา............... "เป็นองค์กร ไม่มีความรู้สึกนึกคิด" นั้นก็อีกเช่นกัน...................เป็นต้น

แต่ เจษฎา สุนันท์ชัย "เป็นผู้รู้ ผู้เดินวิชา 18 เป็นพนักงานบริษัท,เป็น วิทยากร, เป็นวิปัสสนาจารย์ "

ที่เก่งกว่า ที่ยิ่งใหญ่ กว่า ที่ติหนิติเตียนผู้อื่นที่ด้อยกว่า แล้วโอ้อวดอย่างยิ่งใหญ่กว่า...เก่งกว่าวัดพระธรรมกาย

บริษัท ในเครือ land&house , DTac และ อีกหลายบริษัท รวมถึง ด.ร. ศาสตารจารย์ของประเทศและของโลก ผู้นำของนิกายอื่น และ ประเทศศรีลังการ โดยนายกรัฐมนตรีของ ศรีลังกา ที่ยังมาสนับสนุนวัดธรรมกายนี้

.............((((ถ้าต้องการให้ !!!!เป็นองค์กร ที่มีความรู้สึกนึกคิด!!!!))))................

ได้โปรดลองมาพิจารณา

.....เจษฎา สุนันท์ชัย "เป็นผู้รู้ ผู้เดินวิชา 18 เป็นพนักงานบริษัท,เป็น วิทยากร, เป็นวิปัสสนาจารย์ "

ที่เก่งกว่า ที่ยิ่งใหญ่ กว่า ที่ติหนิติเตียนผู้อื่นที่ด้อยกว่า แล้วโอ้อวดอย่างยิ่งใหญ่กว่า...เก่งกว่าวัดพระธรรมกาย

ผู้ที่ได้เข้ามาอ่าน โปรดพิจารณา ข้อเท็จจริงด้วยเทอญ........................

สำหรับคนเข้าวัดพระธรรมกายถ้าเข้ามาดู เวปนี้ คงอยากจะรู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของ นาย เจษฎา สุนันท์ชัย กับพวก เป็นยังไง

ให้เข้าไปดูเว็ปนี้เลยครับ

http://www.dmc.tv/pages/casestudy/2549-08-28.html

มีทั้ง ภาพ และ vdo ชัดเจนเลยครับ

มาหาข้อมูลในเน็ต บังเอิญเจอ ข้อมูลของ นายเจษฏา นี้ก่อน อ่านแล้ว ก็ตรงแบบที่ครูไม่ใหญ่ ท่านว่าไว้จริงๆครับ

ผมเคยเกือบซื้อหนังสือของพวกมัน และเกือบไปอบรมกับพวกมัน แล้วครับ แต่มาเจอกระทู้ของมันก่อน

ก็เลยไปถามอุบาสก อุบาสิการุ่นสร้างวัด หรือ พระมหาเถระ ผู้ใหญ่ ทั้งวัดปากน้ำ และ วัดพระธรรมกายดูครับ จึงพอจะเดาได้ว่า

"นรกและโลกันต์ไม่สามารถ รองรับ พวกนี้ได้จริงๆ"

เชิญอัดตามสบายนะครับ วิชาไม่เคยพูด ก็ตามสบายนะครับ ผมก็ยืนตามตำราไป ไม่กลัวอะไร นรก สวรรค์ไปมาหมดแล้ว ตามฐานะของบารมีของผมเอง............

อืมขอโทษนะครับ

ตอนนี้ผมไม่ได้เกี่ยวอะไรกับ TSI แล้วนะครับ

ผมเอาฐานะนักสร้างบารมีมาเผยแพร่ อยากจะอัดอะไรก็อัดส่วนตัว... แน่จริงก็พูดเรื่องวิชาสิครับ

อย่าเถียงกันเลย ขอให้ทุกท่านพิจารณาทุกอย่างด้วยสติ และเหตุผลที่แท้จริง เราไม่สามารถเปลี่ยนความคิดใครได้ง่ายๆ เช่นกัน คนอื่นก้อเปลี่ยนความคิดเราไม่ได้ง่ายๆ ขอให้ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ในความพอดี อย่าให้เราเดือดร้อน อย่าให้คนรอบข้างเดือดร้อน ก้อพอแล้ว ทะเลาะกันไป มีแต่ทุกข์ใจเปล่าๆ ให้เราทั้งสองกลุ่ม อยู่ร่วมกันไปด้วยความสงบสุขดีไหม อย่างไร เราก้อพุทธเหมือนกัน

ตัวเราเอง ชอบการปฏิบัติแบบพุทธที่เรียบง่าย สมถะ มากกว่า แต่คนรอบข้างเรา ชอบที่จะไปปฏิบัติกับวัดพระธรรมกาย มีบ้าง ที่เค้าจะชวนเราเข้าไป แต่เราได้อธิบายให้เค้าเข้าใจแล้ว เชื่อว่า ถ้าไม่ถึงขั้นบังคับ ก้อไม่มีการทะเลาะกันหรอก

ขอให้พระพุทธศาสนางอกงามอยู่ในสังคมไทยด้วยความสันติเถิด

เท่าที่ทราบมันเป็นเรื่องนิยายที่แต่งมาหลอกเด็ก ถ้ายายจันทร์อยู่ในศิลจริงทำไมไม่ปัดลูกระเบิดลงทะเล ปัดไปลงตรงทีมีคนอยู่ทำไม ไม่บาปหรือไง  อย่าหลงงมงายกันเลย

 
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท