หมายเหตุชีวิตตอนที่6 ชิวิตม.1


ที่เน้นเล่าชีวิตตอนม.1 เพราะมีเหตุการณ์ที่อาจเปลี่ยนชีวิตผม แต่คงเป็นชะตาลิขิตที่ผมมีคุณครูดีครับ

หลังจากสอบติด"ม1."ที่โรงเรียนนครสวรรค์ ก่อนเปิดเทอมจะมีการเข้าค่ายร่วมกับเพื่อนที่เข้าใหม่ประมาณ1-2 วัน นอนที่โรงเรียน วิ่งออกกำลังกายตอนเช้า

หลังจากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ ผมเริ่มมีอาการเวียนหัวบ้านหมุน เวลาเปลี่ยนท่าทาง เช่นพลิกซ้ายขวา ลุกนั่ง ยืน ห้นซ้ายขวา ทรมานมากครับ ผมเป็นเด็กร้องให้จนมีอาการภาวะหายใจไว(hyperventilation syndrome) มือจะชา หน้ามืด ต่อมามือจะจีบเกร็ง เท้าเหงิก พ่อผมรีบพามาโรงพยาบาล พ่อและแม่ผมรีบนวดให้ผมใหญ่ ผมจำได้เลยว่าพยาบาลที่โรงพยาบาลไม่ค่อยมาดูผมเลย (แต่พอจบหมอมาก็เข้าใจแล้วครับ) ซักพักอาการก็เบา แต่เวียนหัวบ้านหมุนยังเป็นอยู่  แพทย์มาดูอาการแนะนำให้นอนโรงพยาบาล พ่อผมก็ไม่อยากให้นอน วันหลังมาได้ไหม จนแพทย์ท่านนั้นบ่น ผมก็ได้ยากลับมาทานบ้าน 

ระหว่างนั้นผมก็มีอาการอยู่เช่นเดิม แต่จะมีมากเป็นช่วงๆ จน 3 วันต่อมา ผมเวียนมากและร้องให้ และมีภาวะหายใจไวอีก พ่อและแม่ผมก็พาส่งโรงพยาบาลอีกครั้ง และครั้งนี้ก็ได้นอนครับ

จำไม่ค่อยได้ว่านอนกี่วัน แต่คร่าวๆน่าจะประมาณ 10 วัน ซึ่งโรงเรียนเปิดเทอมไปแล้ว หลังจากออกโรงพยาบาล ผมก็ยังมีอาการเป็นครั้งคราว ไปเรียนได้บ้างไม่ได้บ้าง แพทย์ก็นัดไปตรวจเรื่อยๆ บางครั้งเกิดอาการที่โรงเรียน ผมก็ร้องให้อีก จนมีภาวะหายใจไวที่โรงเรียนอีก เพื่อนผมตกใจกันใหญ่ เรียกคุณครูมาช่วยดูใหญ่เลยครับ เพราะคิดว่าชัก จนผมไปโรงเรียนได้น้อยมาก เคยหยุดนานสุดประมาณ 1 เดือน

จนผมเริ่มรู้สึกเบื่อไม่อยากไปโรงเรียน ตอนเช้าก็งอแงแกล้งบอกเวียนหัว ก็ไม่ได้ไปโรงเรียน พ่อกับแม่ผมพาไปตรวจอยู่หลายครั้ง จนแพทย์ที่รักษาก็คงไม่เข้าใจว่าทำไมไม่หายซักที จึงส่งผมไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาลรามา ระหว่างนี้พ่อผมก็พยายามช่วยรักษาทางอื่น เช่น ทางพระ พาผมไปหาพระรูปหนึ่ง ทำพิธีต่อดวงชะตา เอาผม เอาเลือด เอาเล็บ เศษเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ และก็อีกหลายอย่างจำไม่ได้ครับ ใส่กระทงแล้วไปลอยในแม่น้ำ ให้ปล่อยปลา และให้ตั้งใจว่าจะไม่ทานปลาชนิดนั้นอีก... ผมก็บอกพ่อเลยว่า เอาปลาไหลมานะ เพราะไม่กินแน่นอน แต่ช่วงนั้นเย็นมาก ตลาดวายหมดแล้ว(แม่ค้าเก็บของเกือบหมดแล้ว) พ่อไปปลาดุกมาครับ!  อาหารสุดโปรดของผมอย่างหนึ่งด้วยในสมัยนั้น(ปลาดุกฟู)  ทุกวันนี้ผมเลยไม่ทานปลาดุกอีกเลยครับ (แม่ทำปลาช่อนฟูแทนครับ)

พาไปหาพระ แล้วก็พาไปหาหมอจิตเวช ตอนแรกก็ไม่รู้หรอกครับ บอกพาไปหาหมออีกคน ซักพักก็บอกจะไปซื้อของให้เรารอหมอคนเดียว หมอก็เข้ามาถามว่า ที่บ้านเป็นไง พ่อแม่ดุไหม ทะเลาะกันไหม ไปเรียนเป็นไงบ้าง ผมเข้าใจเลยว่าสงสัยตะล่อมถามเราคิดว่าเราเป็นเด็กมีปัญหาแหงๆ (ทั้งที่ก็เป็นเด็กมีปัญหาอ่ะนะครับ) สุดท้ายได้ยาพ่นปากหลังกินข้าวมา..555

ความเลวของผมมาหยุดเมื่อไหร่ผมก็ไม่รู้ตัว พ่อแม่ผมซื้อของให้ผมเยอะเหมือนกัน เพราะคิดว่าอยากได้ เช่นกีตาร์และอีเล็คโทนเด็ก พ่อแม่ผมหมดเงินหลายหมื่นบาทตอนช่วงที่ไม่สบายและป่วยการเมือง  ทั้งๆที่บ้านผมไม่ค่อยมีเงิน...มาคิดตอนโตแล้ว... ผมมันเลวจริงๆ

ผมหยุดเรียนจนพ่อและแม่ถามผมว่าจะดร็อปการเรียนไหม ผมก็ไม่รู้ แต่มีคุณครูผมท่านหนึ่ง เป็นคุณครูประจำชั้นด้วย ท่านชื่อ "คุณครูบุญเอ็ด กองมาย" สอนคณิตศาสตร์ครับ ท่านให้กำลังใจในการกลับมาเรียนมาก สอบถาม มาเยี่ยมเสมอๆ ให้เกรด 4 วิชาคณิตศาสตร์ผม(เป็นเกรด 4 วิชาเดียวครับ นอกนั้นได้ 2) ทั้งๆที่ผมก็ไม่ค่อยได้เข้าเรียน

ผมจำไม่ค่อยได้ว่าผมเลิกแกล้งทำเมื่อไหร่ แต่ผมคิดว่า พ่อและแม่ และคณครู ทำให้ผมกลับมาเป็นคนเดิมได้ ผมกลับมาเรียนเทอม 1 ได้เต็มๆประมาณ 1 เดือนที่เหลือ ชีวิตค่อยๆเหมือนเด็ก ม.1 ทั่วไป

หมายเลขบันทึก: 98033เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2007 11:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 มีนาคม 2012 19:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท