ผมมีเรื่องคนไข้ 2 คนมาเล่าให้ฟังครับ
คนแรกเป็นผู้ชายครับอายุประมาณ40ต้น เริ่มแรกมาด้วยอาการเจ็บหน้าอก(กลางหน้าอก) มาโรงพยาบาลก็รักษาแบบCostochondritis(กระดูกอ่อนหน้าอกอักเสบ) ทานยาแก้ปวดก็เบาไป แต่มาตรวจบ่อยมาก ปวดจนขอยาฉีด จึงเริ่มตรวจค้นมากขึ้น การตรวจร่างกายทั่วไปปกติหมดครับ X-ray ปอดก็ปกติ รักษาอยู่เดือนกว่าๆ ไม่ทุเลาผมจึงส่งไปตรวจและรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัด
คนไข้ก็กลับมาโรงพยาบาลอีก ดูยาก็น่าจะรักษาเหมือนที่นี่ ต่อมาเริ่มรักษาแบบPsychi'(ทางจิต)ดูก็ไม่ได้ผล ส่งไปโรงพยาบาลจังหวัดอีกครั้ง ถามจากผู้ป่วยก็บอกว่าถูกส่งไปตรวจที่งานจิตเวช รักษาอีกร่วมเดือน ก็ไม่ทุเลา ผมจึงเขียนใบส่งตัวไปใหม่ว่าจากอาการการปวดที่รุนแรง ไม่น่าจะใช่อาการทางPsychi' ก็ไม่ได้ตรวจอะไรเพิ่มเติมให้
คนไข้กลับมาด้วยความท้อแท้ เพราะรักษามาร่วม 2 เดือนกว่าแล้วยังไม่หายเลย ผมเลยตัดสินใจส่งไปทรวงอก
ไปทรวงอกได้ทำCT scan ครับ ผลเป็นสงสัยมะเร็งที่ขั้วปอด และทำbiopsy ต่อ ผลเป็นมะเร็งจริง ส่งกลับมาให้รักษาต่อที่ศุนย์มะเร็งลพบุรี คนไข้ได้ยาเคมีบำบัด ผมเจอคนไข้ครั้งก่อนที่จะเจอล่าสุดอ้วนขึ้นมาก ช่วงก่อนหน้านั้นเหมือนเครียดมากจึงไม่ทานอะไร ไม่ต้องมาฉีดยาแก้ปวดที่โรงพยาบาล ดูมีความสุขครับ บ่นผมร่วงเล็กน้อย (ให้มาแล้ว 2 ครั้ง)
แต่ผมมาเจอล่าสุดห่างจากครั้งก่อนประมาณ 6 เดือนกว่า แกเดินไม่ได้ครับ ทราบจากญาติว่าพอให้ครั้งที่ 4 - 5 คลื่นไส้มาก เพลียมาก จึงไม่ไปต่อคิดว่ากำลังไม่ดี แล้วก็ไม่ไปอีกเลย ผู้ป่วยกลับมาปวดมากใหม่ ต้องมาฉีดยาแก้ปวดเกือบทุกวัน! สมัยก่อนฉีดแค่ diclofenac ก็เบาแล้ว แต่ตอนนี้ต้องได้ pethidine หรือ MO (morphine) คุยกับคนไข้แล้วจึงรู้ว่าคนไข้ค่อนข้างท้อแท้มากครับ ไม่ยอมทานอะไร ไม่มีแรงเลยไม่เดิน ไม่เดินเลยมีกล้ามเนื้อลีบ ตอนนี้เริ่มมีแผลกดทับ กายป่วย แต่ใจยิ่งป่วย กายเลยยิ่งแย่
ญาติเล่าว่าเคยร่วมกันบอกแล้วว่าให้ไปรักษาต่อ มันเป็นผลข้างเคียงอย่างนี้เอง หมอที่ศูนย์มะเร็งก็บอกว่ารักษาหายได้ แต่ต้องมาตามนัด(ผมไม่รู้ระยะของโรคครับ) แต่ผู้ป่วยก็ไม่ไป
ผมรู้สึกสงสารคนไข้รายนี้มาก เพราะอาศัยเวลาในการตรวจค้นกว่าจะเจอโรคนานมาก เสียเงินในการเดินทางมาก ผมคุยกับคนไข้ร่วมชั่วโมงกว่า พูดถึงตอนที่เราพยายามหาสาเหตุของโรคร่วมกัน ลำบากในการเดินทางที่จะไปตรวจไปรักษาตั้งแต่ต้น อย่าทิ้งการรักษาตอนนี้อดทนสู้ๆ ผลX-rayปอดเมื่อ 1 เดือนก่อนก็ปกติ ไม่ต้องไปกลัวคุณหมอที่ศูนย์มะเร็งจะว่า ว่าหายไปไหนมา เดี๋ยวเค้าก็จะบอกทางเลือกการรักษาเอง
คนไข้ยอมไปใหม่ครับ!....ตอนนี้ยังไม่ทราบผลว่าจะเป็นอย่างไร
ผมก็หวังว่าระยะของโรคอยู่ในระยะที่รักษาได้ และเจอคุณหมอที่เข้าใจจิตใจคนไข้(ซึ่งผมเขียนรายละเอียดในใบส่งตัวด้วย)
คนที่ 2 เอาไปเล่าตอนต่อไปดีกว่าครับ