ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกับป้าน้อย


คนอื่นที่เป็นโรคเบาหวานเหมือนป้า กินของแสลงให้เห็นอยู่กับตา มาตรวจที่โรงพยาบาลทีไร น้ำตาลก็ไม่เคยสูง หมอก็ชม เดินยิ้มกลับบ้านทุกครั้ง ป้าทำดีแทบตาย.... อดแทบตาย ก็ไม่มีอะไรดี ....เดี๋ยวขึ้น... เดี๋ยวลง.....หามเข้าๆออกๆ ร.พ จนอายคนเขาไปหมด ทั้งบ้าน

ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกับป้าน้อย

             

              ช่วงนี้อ้อมีเรื่องเล่าของคุณลุง-คุณป้าที่มีประสบการณ์ การอยู่กับเบาหวานแบบหลากหลายรสชาติ มาเล่าสู่กันฟังนะคะ คลินิกเบาหวานของเรามีคนไข้ ทั้งหมด 2,150 ราย ก็ และ กว่า 100 ราย อยู่ในกลุ่มที่คุมไม่ได้แบบเป็นเอามากๆ ที่เราต้องใช้หลากหลายวิธีการในการดูแลคนไข้กลุ่มนี้  คลินิกเบาหวานของเราเน้นเป็นอย่างมากที่ดูแลผู้ป่วยเบาหวานอย่างเป็นองค์รวม  ความรู้สึกทุกข์ของคนไข้ จากเรื่องราวใดๆก็ตาม เราทุกคน ไม่เคยมองข้าม  จากจุดเล็กๆที่เราไม่มองข้าม นำมาพูดคุย หาทางแก้ไข โดยการประชุม แต่เป็นประชุมในวงข้าวกลางวัน ประชุมกันระหว่างขับรถลงพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการประชุมปรึกษาหารือแบบไหน ก็นำมาซึ่งการพัฒนาของคลินิกเบาหวานที่เป็นรูปธรรม     วัดผลจากคนไข้ที่ไม่หนีหายไปจากระบบ  ความเป็นกันเอง  ความผิดพลาดที่ต้องถูกร้องเรียนระหว่างเราและคนไข้ไม่มี เพราะอยู่กันด้วยความรู้สึกแบบเครือญาติ เราก็เห็นคนไข้เหมือนลุง ป้า น้า อา ของเรา คนไข้ก็เห็นเราเป็นแบบลูกหลาน   ความสุขจากการทำงานเกิดขึ้นทุกวัน     

ป้าน้อย เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 มานานกว่า 10 ปี ใช้ยาเม็ดร่วมกับยาฉีดอินซูลิน

เป็นเบาหวาน poor control  น้ำตาล 300-400 mg%  พอระดับน้ำตาล ลดลงมาในระดับประมาณ 140 mg% จะมีอาการที่เข้ากันได้กับน้ำตาลในเลือดต่ำ  จนสร้างความทุกข์ให้กับป้าน้อยเป็นอยางมาก ป้าน้อยมา ร.พ ที่ไรเห็นรอยยิ้มก็รู้ว่าฝืนยิ้ม หน้าอมทุกข์ นั่งรอ เอามือท้าวคาง คอตก รอตรวจ  เป็นท่าประจำตัวที่เราเห็นอยู่ประจำ   เราเข้าใจว่าต้องใช้เวลา แต่ความทุกข์ของป้ารอไม่ได้ แล้วเราจะทำอย่างไร การรับฟังอย่างเข้าใจคงดีที่สุด เมื่อได้พูดคุยกับป้าน้อย ความรู้สึกต่างๆก็พรั่งพรู ออกมา  เป็นมุมมองที่แตกต่าง เป็นแง่มุมที่สอนให้เราเข้าใจความรู้สึก และเพียงแค่เราหยุดพูดในบางครั้ง และเปลี่ยนเป็นผู้ฟังที่ดี ความทุกข์ที่อัดอั้นกลับคลี่คลายลงไป  เรายังไม่ได้แก้ไขอะไร เพียงแค่เรารับฟังและเข้าใจ เป็นสิ่งสะท้อนที่ทำให้ป้าน้อย หาทางแก้ปัญหาด้วยตนเอง  ผ่านไปเพียง 6 เดือน วันนี้ของป้าน้อย ดีกว่าวันที่ผ่านมา ดูหน้าตาแตกต่างจากวันแรกที่เราพบกัน นี่เป็นคำพูดที่ป้าน้อย พูดออกมาในวันนั้น 

 ป้าพยายามทำดีที่สุดแล้ว ถ้ามันจะตายก็ให้มันตายไปเถอะ

 “หมอป้ารู้หมดแล้ว หยุดพูดเถอะ แล้วมาช่วยป้าให้หายจากการเป็นลมที่มันเป็นอยู่ทุกวัน ” 

ทำไม มีแต่คนว่าป้า

ในการป่วยเป็นเบาหวาน อะไรที่ทำให้ป้าทุกข์ที่สุด

-        ป้าเบื่อ นึกอยากตาย เบื่อตอนเป็นลม  คนที่เป็นเบาหวานคนอื่นก็ไม่เป็นกัน แต่ป้าเป็นคนเดียว ไม่เหมือนใคร  มีอาการที่ไรต้องกินข้าวคลุกน้ำตาล ก็ทำให้ดีขึ้น  เวลาเป็นจะมีอาการ ไม่มีแรง แต่ก็ต้อง ฮึดสู้ คลาน ๆๆ   ไปควานหาของกิน  .สภาพเหมือนหมา  จนรู้สึกสมเพชเวทนาชีวิตตนเอง    ใครไม่เป็นไม่มีทางรู้สึกเหมือนป้า    ทุกข์ทรมาน ไม่กล้าไปไหนไกล  ไปไหนก็ไปได้แต่ที่ใกล้ๆ บ้าน ....กลัวเป็นลม (ร้องไห้ ) ชีวิตป้าเปลี่ยนไปหมดทุกอย่าง   ความจำก็ไม่ดี

เวลาน้ำตาลต่ำป้ามีอาการอย่างไรลองเล่าให้ฟังบ้างซิคะ

-          เวลาน้ำตาลต่ำจะร้อน   ในตัว ...ลุงเค้ารู้ เค้าจะหา พัดลม...มาพัดให้ทุกครั้ง จนป้าอาการดีขึ้น  เวลาอากาศร้อน มันเหมือนจะตาย..... วันนั้นไฟฟ้าหมู่บ้านดับ...ร้อนจนต้องบอกลุงให้เอาน้ำมาราด   ลุงเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ด มันไม่หาย   มันเหมือนจะตาย...ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไร....มันถึงยากเย็น หายยาก....น้ำตาลขึ้นไม่เคยกลัว อยากตายเพราะอาการน้ำตาลต่ำ

-      ท้อแท้ เบื่ออยากตาย ท้อเป็นลม เหมือนจะตาย ตายก็ไม่เสียดาย...เหมือนตายอยู่ทุกวัน บอกสั่งเสียกับทุกคน ทุกคนก็ให้กำลังใจ    ....ที่ไม่ทำเพราะ ยังมีห่วง คือ ลูกคนสุดท้องที่พิการ จึงต้องพยายามทำใจ

-      เบื่อตัวเอง เป็นลมบ่อย สมองจำไม่ค่อยได้ เดินเซ่อ เดินไม่ตรง เดินเซ แต๊ดๆๆๆ ตอนนี้ลุงต้องมาเป็นเพื่อนที่ ร.พ ทุกครั้ง เสียงาน เสียการ ทำนา ก็ต้องจ้างคนอื่น .... นาอยู่ห่างบ้านประมาณ  1 กิโลเมตร ลุงต้อง เดินมากินข้าวที่บ้านตอนกลางวัน   ครั้งที่แล้ว..หมอบอกให้ป้าฉีดยาให้ตรงเวลา  ป้าบอกลุง   ตอนเย็นลุงเลยต้องรีบกลับมาบ้านเพื่อมาฉีดยาให้ป้าก่อนอาหารเย็น   เดินกลับบ้าน ใครชวนคุย กลางทาง ก็ไม่สนใจ   ต้องรีบ มาดูป้า    ป้ารู้สึกเป็นภาระของคนอื่น ไม่มีค่าอะไร ลุงก็ต้องมาทุกข์ทรมานกับป้า....  (ลุงร้องให้)    ก่อนหน้านี้อยากหายใครว่าที่ไหนดีก็ไปรักษา ใครจะรู้ที่เที่ยวหาหมอเหมารถ เหมารา จ่ายเงินเอง เสียเงินเพราะอยากหาย  รักษาที่คลินิกหมดเงินไปไม่ใช่น้อย  ป้ากับลุงมีอาชีพทำนา ไม่จนก็ต้องจน 

มีอะไรในใจที่ป้าอยากพูด

- อย่าโกรธป้านะ  ที่บอกให้ป้าทำโน่น ทำนี่ ห้ามกินอย่างนั้น อย่างนี้...ป้าก็ทำ  ในเมื่อป้าเชื่อหมอทุกอย่าง แล้วทำไม  หมอรักษาป้าไม่หาย (ร้องไห้)

ป้ารู้สึกอย่างไรบ้าง ลองเล่าให้ฟังหน่อยซิ

-    หลายปีที่ผ่านมารู้ว่า กินไม่ดี คุมไม่ดี แต่ตอนนี้ป้ารู้ตัวแล้ว

-          ป้าไม่รู้ว่า...ป้าทำตัวไม่ถูกตรงไหน...กินน้อยก็เป็นลม.....กินปกติก็กลัวน้ำตาลขึ้น

-          ไม่รู้ว่าจะรักษาหายไหม...ไม่แน่ใจในโรคเบาหวานที่เป็น...คิดว่าถ้าหายก็เป็นบุญ   ถ้าไม่หายก็ถือเป็นกรรม

-          ไปไหนก็ถูกต่อว่า.....เพื่อนบ้าน ญาติพี่น้องก็ว่าหมด  ทุกคนพูดเหมือนกัน... ว่ากินของไม่ระวัง....ป้าบอกไปก็ไม่เชื่อ....ก็มีแต่ป้ากับลุงที่รู้ว่าวันๆหนึ่ง ไม่เคยได้กินอะไร....เหมือนเป็นคนขี้โกหก ที่พูดกับใครก็ไม่มีใครฟัง  เพื่อนเขาก็บอกว่า....ป้าไปกินของแสลง....กินไม่ดี....กินมาก ...เราก็รู้ว่าเขาห่วง....ต่อว่ามาด้วยความห่วงใย .... ป้าก็ได้แต่นึกเสียใจ....นอนน้ำตาตกในทุกวัน   ว่าเป็นโรคนี้มีแต่คนว่า  หาว่าเราทำตัวไม่ดี..... ทั้งที่ป้าพยายามเต็มที่อาหารทุกอย่างที่หมอห้าม..ป้าไม่เคยกิน  เชื่อฟังหมอทุกอย่าง ยิ่งกว่าพ่อ กว่าแม่   กาแฟไม่กิน, น้ำอัดลม, ของหวาน ไม่เคยกิน กินแต่น้ำตาลเวลาเป็นลม

-      คนอื่นที่เป็นโรคเบาหวานเหมือนป้า กินของแสลงให้เห็นอยู่กับตา มาตรวจที่โรงพยาบาลทีไร  น้ำตาลก็ไม่เคยสูง หมอก็ชม เดินยิ้มกลับบ้านทุกครั้ง   ป้าทำดีแทบตาย.... อดแทบตาย ก็ไม่มีอะไรดี ....เดี๋ยวขึ้น... เดี๋ยวลง.....หามเข้าๆออกๆ ร.พ จนอายคนเขาไปหมด ทั้งบ้าน

-      มาโรงพยาบาลหมอก็ว่า... ป้าก็ยิ่งเสียใจมาก ป้ารู้ว่าหมอหวังดี แต่ป้าหมดหนทางจะทำให้น้ำตาลดี..อยู่บ้านก็ท้อแท้ มาโรงพยาบาลก็ท้อแท้    (ร้องไห้)

-      หมอคนเก่าดุป้า   ไม่อยากดูป้าเค้าบอกว่าปวดหัว...ดูไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น  หมอถามทำไมป้าทำไม่ได้  ...กินไม่ดีหล่ะมั่ง ฉีดยาไม่ตรงหล่ะมั่ง ....พอป้าจะพูดก็ไม่ฟัง  พูดไปก็เท่านั้น     ดูซิ..น้ำตาลสูงตลอด    จะมาบอกว่าคุมดี หมอไม่เชื่อ    ป้าก็งง อายคนไข้คนอื่น

 ที่นี่ เป็นอย่างไร บ้าง

-      ตั้งแต่หมอส่งป้ามาที่นี้   มีคนรับฟังป้า   หมอพูดดี ป้าก็ชื่นใจ....ว่ามีคนเข้าใจ ป้ามาตรวจที่นี้ได้ 3 ครั้ง ป้าเริ่มรู้สึกชื่นใจ...มีคนฟังป้า... น้ำตาลป้าก็เหมือนเดิม ครั้งนี้ได้ 105 mg% แต่ไอ้อาการเป็นลมก็ยังเป็นอยู่ทุกวันเหมือนเดิม ยังไม่ดีขึ้น แต่ป้าก็มีความหวัง เพราะหมอฟังป้า    ครั้งแรกป้าก็ไม่แน่ใจ...ว่าหมอจะสนใจจริง ๆ พอมาครั้งที่ 2 และครั้งนี้ ป้าก็เริ่มหวังว่าป้าจะดีขึ้น... นิดนึงก็ยังดี.... ตอนนี้ป้าจะจดอาหารให้ดู ลุงก็เขียนหนังสือไม่เป็น แต่จะพยายามให้หลานสาวช่วยเขียนลายมือสวย ๆ .... จะจดหมดเหมือนบันทึกประจำวัน ซัก 7 วัน ว่าตื่นกี่โมง ใจสั่นกี่โมง  แล้วทำอะไร  เจาะน้ำตาลได้เท่าไร 

        คำพูดมากมายที่หลั่งไหลพรั่งพรู จากป้าสะกิดให้เรามองอะไรได้หลายมุม และพยายามหาทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน  อะไรไม่เท่าเวลาเพียง 30 นาที่ ที่เราได้พูดคุย ลดความทุกข์ของป้าได้ มากกว่า 30 วันที่บ้าน จริงๆนะ ไม่ได้ โม้   ดูหน้าป้าจากรูปซิ หน้าผ่องแบบไม่ต้องใช้ ครีมหน้าเด้งเลยหล่ะ

สรุปบทเรียนของป้าน้อยแบบ Happy ending

1.     ป้าน้อยเข้าใจอาการ relative hypoglycemia 

2.     ป้าน้อยและคุณลุง เจาะเลือดเวลามีอาการ ที่เข้ากันได้กับอาการน้ำตาลต่ำ และนำมาสรุป ว่าใช่หรือไม่ใช่อาการน้ำตาลต่ำ หาสาเหตุ เรียนรู้การป้องกัน และแก้ไขอาการ  เป็นเหตุให้ลดความกลัว  ความหวาดระแวง จากความไม่รู้    ที่ เอะ อะ ก็เหมาว่าเป็นอาการน้ำตาลต่ำ

3.     ข้อจำกัดของเราก็มีนะคะ เครื่องและแผ่นตรวจน้ำตาลเป็นสิ่งที่คนไข้ต้องซื้อเองคะ แต่ของป้าน้อยเรา (แอบ)ให้การสนับสนุนคะ คงได้สักระยะนึง เราลองคำนวณค่าใช้จ่ายค่าแผ่นและเข็ม ตลอด 2 เดือน ใช้ไป 45 ชุด รวมเป็นเงินประมาณ 1000 บาทคะ  แต่...เราคิดว่าคุ้มนะคะ เพราะเมือเดือน ส.ค 49 และเดือน ต.ค 49 ที่ป้าน้อยมานอน Admit ค่าใช้ ทั้ง 2 ครั้งรวมกัน ประมาณ 6,000 กว่าบาทคะ  ในส่วนของป้าน้อย     ค่าใช้จ่ายที่ตีราคาเป็นเงินไม่ได้คือ ความทุกข์และนาที่ไม่มีคนดูแล ส่วนที่ตีราคาเป็นเงินได้ ก็คืนค่าจ้างรถมารพ. ค่าเช่าที่พักชั่วคราวของคุณลุง ค่าอาหาร อื่นๆ  เพียบ  ( เขียนแก้ตัวไว้ซะหน่อย น่า..นะ คุ้มนะ..  เดี๋ยวถูกหักเงินเดือน) 

4.     ป้าน้อยบอก ต่อไปอะไรคงดีขึ้น มีความสุขมากขึ้น คุณลุงทำนาได้ดี ขายข้าวได้และ ป้าคงจัดการซื้อเครื่องตรวจน้ำตาลได้เอง

 ผู้เล่า : รัชดา  พิพัฒน์ศาสตร์

คำสำคัญ (Tags): #ป้าน้อย
หมายเลขบันทึก: 90356เขียนเมื่อ 14 เมษายน 2007 18:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
     อ้อ ทำได้ดีมาก ขอชมเชยด้วยความชื่นชม
  • ความสุขจากการทำงานเกิดขึ้นได้ทุกวันจริงๆแหละอ้อ บางครั้งกลับมาถามตัวเองว่าทำไปทำไม?คำตอบก็คือความสุขใจที่ได้ทำเพราะเป็นงานที่เรารักเราจึงหาความสุขจากงานที่ทำได้จริงมะอ้อ
  • ที่อ้อเล่ามาพี่โต้งได้มองเห็นรูปธรรมการดูแลผู้ป่วยแบบองค์รวมที่ชัดมากเลยค่ะ เยี่ยมจริงๆ
  • แถมด้วยการแสดงให้เห็นถึงการใช้ทักษะการให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดีจนสามารถดึงศักยภาพของป้าน้อยออกมาให้เรียนรู้และเข้าใจปัญหาและร่วมกันแก้ไข จนสามารถอยู่กับเบาหวานที่ป้าเป็นอย่างมีความสุข ขอปรบมือให้จ้ะอ้อ
  • นี่แหละนะรูปธรรมการดูแลคนด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์อย่างที่เค้าว่า

ขอปรบมือให้เลยครับ

ชื่นชมในการให้บริการด้วยใจดุจญาติมิตร

ดารณี เลิศเจริญสวัสดิ์

ขออนุญาตผู้เกี่ยวข้อง เจ้าของเว็บ และเว็บมาสเตอร์คะ

คนเป็นเบาหวาน โรคอ้วน โรคเลือด เราช่วยคุณได้
คุณสามารถพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองระดับน้ำตาลในเลือดจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดภายใน 30 วัน ผลิตภัณฑ์ผ่านอย. ไม่มีอันตราย และไม่มีผลข้างเคียง ไม่ใช่ยา เป็นอาหารระดับเซลล์
สนใจติดต่อ
ดารณี 089-146-7446, 089-337-4011

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท