สวัสดีครับ ศ.ดร.จีระ / นักศึกษา MPA 3 สวนสุนันทาฯ
ผมขอแสดงความเสียใจ และอาลัยกับการจากไปของ จ.อ.สราวุฒิ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่น MPA 3 และเป็นศิษย์คนหนึ่งของผม
เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงจ.อ.สราวุฒิ ผมได้นำบทความที่ จ.อ.สราวุฒิ เขียนไว้เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ดังปรากฎอยู่ในตอนท้ายนี้
ส่วนสมาชิก MPA 3 ที่เขียนมาขอให้ผมช่วย comment การเขียนให้ ขอเวลาศึกษาอีกนิด แล้วจะส่งตามมา
ผมเชิญชวนพวกเรา ร่วมแสดงความไว้อาลัยแก่ จ.อ.สราวุฒิ ด้วยการตั้งใจอ่านบทความของเขา และมองให้เห็นส่วนดี และร่วมจิตส่งความปราถนาดีไปให้เขาร่วมกันหลังจากอ่าน ข้อความจบแล้ว
*************************************
จ่าเอกสราวุฒิ นวมน้อย รหัสนักศึกษา49038010029 ม.สวนสุนันทา เมื่อ พฤ. 18 ม.ค. 2550 @ 22:14 (140532) |
- ความรู้ด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในภาพรวมของระบบราชการและเอกชน
- ความแตกต่างและเปลี่ยนแปลงใน ด้านโครงสร้างระบบและวัฒนธรรมขององค์การในศตวรรษที่ 20 และ 21 ซึ่งในศตวรรษที่ 21 นี้เน้นเรื่องภาวะผู้นำ( leadership) ของผู้บริหาร การกระจายข้อมูลข่าวสาร การกระจายอำนาจ (Empowerment) การลดขั้นตอนการทำงาน เพื่อสะดวกรวดเร็วและเพิ่มให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
- แนวทางการบริหารองค์การในศตวรรษที่ 21 มีการดำเนินงานอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนด้วยการใช้เครื่องมือการบริหารทรัพยากรมนุษย์ที่ทันสมัยต่างๆ เช่น
- การกำหนดสมรรถนะหรือคุณสมบัติเชิงพฤติกรรม (Competency) ของบุคลากรที่องค์การต้องการ โดยมีสมรรถนะหลัก (Core Competency) เป็นคุณสมบัติหลัก ทุกคนในองค์การต้องมีเพื่อให้การดำเนินงานขององค์การประสบความสำเร็จ
- การบริหารผลการทำงาน (Performance Management) โดยใช้เครื่องมือสมัยใหม่ เช่น Balanced Scorecard และการกำหนดตัวชี้วัดความสำเร็จ KPI เพื่อให้ทุกคนในองค์การทำงานในทิศทางเดียวกัน มีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจนและเชื่อมโยงต่อกลยุทธ์ขององค์การ
- การใช้หลักการ 7 Habits เพื่อพัฒนาตนเอง
- การยึดหลักระบบคุณธรรม
- การใช้หลักความโปร่งใส ทำอะไรต้องตรวจสอบได้ ก
- ารยึดหลักมุ่งผลสัมฤทธิ์
- การยึดหลักสมรรถนะ หลักความรับผิดชอบ ต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน
- การยึดหลักสรรหาระบบเปิด
- การยึดหลักการบริหารจัดการแนวใหม่
ปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบต่อการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 4 ด้าน คือ
- การเมือง (Political)
- เศรษฐกิจ (Economy)
- สังคม วัฒนธรรม (Social)
- เทคโนโลยี (Technology)
ทั้งในระดับประเทศและระดับโลกเนื่องจากในภาวะนี้มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ย่อมส่งผลกระทบต่อเราไม่ทางตรงก็ทางอ้อม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะส่งผลให้การดำเนินนโยบายของรัฐบาล และกระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน ชุมชน องค์กร
ดังนั้นหากเรารู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ย่อมทำให้เราปรับตัว และเตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืนในยุคแห่งโลกาภิวัตน์ เรื่องวิธีการสร้างอำนาจ 5 ประการ คือ
- อำนาจสร้างได้ด้วยการให้
- อำนาจสร้างได้ด้วยการติ
- อำนาจสร้างได้ด้วยการเป็นผู้รู้มากกว่า
- อำนาจสร้างได้ด้วยการอ้างอิง
- อำนาจสร้างทางนิติกรรม ( อำนาจต้องสร้าง ต้องรักษา ต้องใช้ อย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ )
สำหรับปัญหาการบริหารทรัพยากรมนุษย์ของภาครัฐ ตามความเห็นของข้าพเจ้า คือ
- ปัญหาระบบอุปถัมภ์ (Patronage System) การบริหารที่ไม่ได้ยึดหลักผู้มีความรู้ความสามารถของบุคลากรเป็นหลัก แต่มุ่งเน้นการให้ประโยชน์แก่พรรคพวกเพื่อนพ้อง ทำให้ผู้มีความรู้ความสามารถไม่ประสงค์ประกอบเลือกอาชีพรับราชการ และผู้ที่เป็นข้าราชการขาดขวัญและกำลังใจในการทำงาน
- ปัญหาการคอรัปชั่น ระบบอุปถัมภ์ทำให้ข้าราชการขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่มุ่งแต่หวังผลประโยชน์หรือสิ่งตอบแทนที่ตนจะได้รับ การปฏิบัติงานขาดความซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีผลงานที่ดี ทำให้ประเทศไม่เจริญก้าวหน้าช้า
- ปัญหาระบบการฝึกอบรมและพัฒนาข้าราชการ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในภาครัฐให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าภาครัฐยังใช้ระบบการบริหารราชการแผ่นดินรูปแบบเดิมๆ โดยมีขั้นตอนมากเกินจำเป็น และมีกฎระเบียบและกฎเกณฑ์มากมาย การแก้ไขปัญหาล่าช้า ทำให้มาตรฐานการบริการของภาครัฐที่มีต่อประชาชนขาดมาตรฐานที่ดี ใช้การฝึกอบรมแบบให้ความรู้ทั่วไปไม่พอเพียง และไม่สอดคล้องต่อเป้าหมายและพันธกิจขององค์การ
ประเด็นที่ 3 ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาในภาครัฐ
- ผู้บริหารประเทศควรเร่งพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้า ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วต้องมีการเตรียมพร้อมให้ประชาชนได้เรียนรู้วัฒนธรรมสากล มีความรู้ความเข้าใจทางการเมืองการปกครอง ส่งเสริมให้ประชาชนมีความคิดเชิงสร้างสรรค์ คิดเชิงระบบ และคิดเชิงรุก สร้างความตระหนักให้ประชาชนเห็นว่าทรัพยากรมนุษย์เป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญ
- ผู้บริหารประเทศจะต้องเป็นผู้นำที่มีความรู้ความสามารถจริงๆ มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ไม่ควรมาจากระบบอุปถัมภ์และควรจะมีความรับผิดและชอบต่อสิ่งที่ได้กระทำ โดยยึดหลักธรรมมาภิบาล และให้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นสำคัญ
- กำหนดและปรับเปลี่ยนระบบนโยบายด้านการศึกษาทั้งระบบการเรียนการสอนและผลตอบแทนของครูให้เหมาะสมกับสภาวะเป็นจริงทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อต้องการให้ผู้สอนได้ใช้ความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในความเป็นครูที่ดี เพราะครูซึ่งเป็นบุคลากรที่มีหน้าที่สร้างและพัฒนาคน ให้มีความรู้ มีคุณธรรมจริยธรรม การกระทำของครูส่งผลให้ผู้เรียนมีความประพฤติและการปฏิบัติตนเป็นคนดี ทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมและประเทศชาติ
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อหวังที่จะให้ประชาชนและประเทศชาติในอนาคตสามารถดำรงอยู่ได้ การสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นทั้งคนเก่ง ทั้งคนดีและมีความสุขมีมุมมองเชิงรุกสู่อนาคต สามารถแข่งขัน และร่วมมือ อีกทั้งสามารถบำเพ็ญประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป
จ่าเอกสราวุฒิ นวมน้อย http://[email protected]
ผมชื่นชมการเขียนของ จ.อ.สราวุฒิ เป็นการเขียนที่ดี ครอบคลุมประเด็นการนำเสนอ การดำเนินเรื่อง และการปิดประเด็น
เนื้อหาดำเนินเรื่อง จับประเด็นได้มาก แสดงให้เห็นถึงการศึกษา ทบทวนสิ่งที่ได้สอน แนะนำไปเป็นอย่างดี
จ.อ.สราวุฒิ เป็นครูผู้สละตัวเอง เป็นบทเรียนให้พวกเราทุกคน ได้ตระหนักถึงการเรียนรู้ เรื่องการวางแผนชีวิตให้รัดกุมยิ่งขึ้น และไม่ประมาท มีสติอยู่เสมอ
คุณความดีที่ผมและเพื่อน ๆ นักศึกษาเคยทำมา ขออุทิศให้แก่ จ.อ.สราวุฒิ ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลาย อำนวยพรให้ จ.อ. สราวุฒิ นวมน้อย จงไปสู่ความสงบสุข ด้วยเทอญ
ให้ทุกศิษย์ที่อ่านทุกคนสงบนิ่ง 1 นาที และส่งจิต ปราถนาดี ไปถึง จ.อ.สราวุฒิ