ศิลปะเพื่อการบำบัดในเด็ก...ให้ใสอีกครั้งในดวงจิต
Text : Ka-Poom
............................................................................................
------------>ในการให้คำปรึกษาใน case เด็กที่ส่งมารับการบำบัด...สิ่งที่แตกต่างจากที่เป็น..คือ เด็กมักจะไม่ถนัดพูดคุย
การที่เราคาดหวังว่าเด็กจะพูด หรือคุย หรือเล่าอะไร...ที่ทำให้เขารู้สึกบาดเจ็บในจิตใจให้เราฟังนั้น...เป็นความคาดหวังที่แน่นอนว่าจะได้พบกับความผิดหวังมากกว่า...
แล้วเราจะบำบัดเด็กอย่างไร?
วิธีการที่ดิฉันทำมักจะเริ่มทักทายเด็ก...ก่อนเพื่อทำความรู้จักกัน
ส่วนใหญ่ก็จะแทนคำตัวเองว่า..."พี่กะปุ๋ม"...แล้วจะเรียกชื่อเล่น case
จากนั้น..ก็จะคุยไปเรื่อยๆ สัพเพเหระ...เรื่องเรียน เรื่องโรงเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องสัตว์ เรื่องของเล่น...
เมื่อเขารู้สึกว่าเริ่มคุ้นกับเราแล้ว...
ดิฉันก็จะชักชวนให้เขาวาดรูป...ตามใจชอบ...อยากวาดอะไรได้หมด
วาดไปเรื่อยๆ ไม่เร่งรีบ ขณะเดียวกัน บางครั้งดิฉันก็อาจจะอ่านหนังสือไปด้วย
หรือไม่ ก็นั่งวาดรูปไปพร้อมกับเขาด้วย
แต่ขณะเดียวกัน..ก็จะแอบสังเกตพฤติกรรม...ท่าทางของเขาไปด้วย หรือไม่บางทีก็พูดคุยเรื่อยเปื่อยไป...แต่ก็ไม่ละที่จะสังเกตพฤติกรรมของเขาไปพร้อมๆ กัน
บางครั้ง...ครั้งเดียวกับการได้พบเด็กอาจไม่พอ...------------>จำเป็นที่จะต้องนัดมาอีก...ก็ต้องนัดแม้บางครั้งการเดินทางมาเพื่อรับการบำบัดอาจไม่สะดวก...แต่เพื่อประโยชน์ต่อเด็ก...ดิฉันก็ต้องอธิบายให้ผู้ปกครองเด็กทราบถึงความจำเป็นของการกลับมารับการรักษาตามนัด...
การบำบัดในเด็กนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายในความรู้สึกของตนเอง..
ที่จะต้องอาศัยความอดทน...อย่างยิ่งยวด...และผลมักจะเกิดช้า...แต่อย่างไรก็ตามเป้าหมายหรือความคาดหวังของผู้บำบัด...อันน้อยนิดก็ คือ...การอยากให้เขาได้สัมผัสห้วงแห่งความสุขแม้จะเป็นช่วงชั่วโมงสั้นๆ กับการได้นั่งอยู่ด้วยกัน ทำงานศิลปะด้วยกัน..และให้เขาเกิดความรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย...ในจิตใจ..แค่นี้ดิฉันก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง...
เรื่องราวภายใน...จิตใจของเขา
เราจะพบว่ามักถูกได้รับการถ่ายทอดเรื่องราวผ่านมาจากการทำงานศิลปะ..การวาดรูป...การเลือกใช้สี การใช้สัญลักษณ์
บางครั้ง...เรามักจะจบด้วยการพูดคุยกันหลังจากที่เขาวาดรูปเสร็จ..
เราก็จะมานั่งคุยกันถึงผลงานของเขา
ว่าเขาวาดอะไร...ทำไมจึงวาดรูปนั้นรูปนี้...
สิ่งนั้นสิ่งนี้หมายถึงอะไร...คุยไปเรื่อยๆ ไม่ให้เขารู้สึกว่าถูดคาดคั้นอยากได้เรื่องราวจากเรา...
การให้การบำบัด case เด็ก จำเป็นต้องใจเย็น
และไม่เร่ง...หรือรีบร้อน
ต้องค่อยเป็นค่อยไป...และให้โอกาสและต้องบอกตัวเราว่า..เราสามารถ "รอ" เขาได้เสมอ
น่าสนใจมากคะ
" ศิลปะบำบัด...เพื่อเด็ก "
ตรงใจกับที่ได้พบ...บางทีการที่เราคาดว่าอยากจะเร่งรัดหรือให้เคสร่วมมือโดยเร็วสิ่งสำคัญที่เราต้องสร้างความคุ้นเคย ความใส่ใจ..ทำเพื่อเขาก่อนแล้วเขาจึงจะช่วยหรือทำเพื่อเราในภายหลัง
ขอบคุณ..คุณแผ่นดิน...ที่แวะมาเป็นประจำ..และมักนำสิ่งดีดีมาแบ่งปันเสมอ...คุณนิสิต มศว. ดีใจที่ได้อะไรไปบ้าง...ขอบคุณคุณดอกแก้วที่แวะมานะคะ...และพี่ขวัญผู้มาเติมเต็มให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นเสมอ...
(^____^)
ขอบคุณค่ะ
กะปุ๋ม
ทุกการเรียนรู้ที่คุณka poom ถ่ายทอด รู้สึกทึ้งมากค่ะ เก่งขนาด