สรุปสารคดี บ้านสยองขวัญ: House of Terror: Unsolved Mysteries (Netflix) Season 1 EP 3


สรุปสารคดี บ้านสยองขวัญ: House of Terror: Unsolved Mysteries (Netflix) Season 1 EP 3

ในเดือนเมษายนปี 2011เกิดคดีฆาตกรรมสยองขวัญขึ้นในเมืองน็องต์ ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งสร้างความสะเทือนขวัญให้กับผู้คนทั้งเมือง และยังคงเป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้

#เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ

ดูคลิปที่นี่

ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ครอบครัวอาศัยอยู่ในบ้านทาวน์เฮาส์หรู อันเต็มไปด้วยความสงบสุขของพื้นกลางใจเมืองน็องต์ เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัว ดูปองต์ เดอ ลิกอนเนส ชาวฝรั่งเศสประกอบด้วยสมาชิก 6 คน ได้แก่

ซาเวียร์ ดูปองต์ เดอ ลิกอนเนส หัวหน้าครอบครัว ชายวัยกลางคนที่มาจากครอบครัวขุนนางเก่า มีฐานะดี และมีบุคลิกที่สุภาพ

แอกเนส ภรรยาของซาเวียร์ เป็นครูและเป็นที่รักของผู้คนรอบตัว

อาเธอร์ ลูกชายคนโต อายุ 20 ปี นักศึกษาในมหาวิทยาลัยท้องถิ่น

โทมัส ลูกชายคนรอง อายุ 18 ปี นักศึกษาด้านดนตรีที่มหาวิทยาลัย

แอนน์ ลูกสาว อายุ 16 ปี เรียนที่โรงเรียนมัธยมในท้องถิ่น และ

เบอนัวต์ ลูกชายคนเล็ก อายุ 13 ปี ยังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมศึกษา

ทุกคนในครอบครัวก็เป็นคนอัธยาศัยดีไปโบสถ์ด้วยกันเสมอ เมื่อมองเผิน ๆ ดูเหมือนพวกเขาจะมีความสุขดี

แต่ถึงแม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่มีฐานะดี แต่ซาเวียร์ ก็ประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงานของตนเองน้อยมาก แทบไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังประสบปัญหาทางการเงิน ซาเวียร์ พยายามรักษาภาพลักษณ์ที่ร่ำรวยด้วยการกู้ยืมเงินจากครอบครัวและเพื่อน ๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ไม่อยากให้ลูก ๆ อยู่อย่างยากลำบาก

ต่อมาเพื่อนบ้านเริ่มสังเกตถึงความผิดปกติเมื่อครอบครัวนี้หายไปอย่างลึกลับ โดยเริ่มจากการที่ลูก ๆ ของครอบครัวไม่ได้ไปโรงเรียน เพื่อนบ้านเริ่มสังเกตเห็นว่าผ้าม่าน หน้าต่างถูกปิดไว้ตลอดเวลา ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้มันไม่เคยถูกปิดเลยถึงแม้พวกเขาจะไปเที่ยวที่ต่างเมืองก็ไม่เคยปิดส่วนนี้เอาไว้ และจดหมายก็เริ่มกองอยู่ที่ประตูบ้าน พวกเขายังพบว่าจู่ ๆ หมาเลี้ยงของครอบครัวก็หายไป ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เมื่อเวลาผ่านไปเกือบหนึ่งสัปดาห์ โดยที่ไม่มีใครเห็นสมาชิกในครอบครัวออกมาจากบ้าน เพื่อนบ้านและคนใกล้ชิดเริ่มกังวลและติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2011 ตำรวจตัดสินใจเข้าตรวจค้นบ้านหลังนี้ พวกเขาพบว่าบ้านดูเหมือนว่าเป็นปกติ ของทุกอย่างยังถูกวางที่เดิม ไม่มีการรื้อค้นการต่อสู้แต่อย่างใด ตำรวจจึงตัดสินใจไม่ดำเนินการอะไรเพราะคิดว่า ทั้งครอบครัวน่าจะเดินทางไปต่างเมือง

ต่อมา ก็มีจดหมายหลายฉบับส่งมาที่หน้าบ้าน แต่สิ่งที่ผิดสังเกตก็คือที่หน้าประตูบ้านนั้น ก็ได้มีกระดาษเขียนติดเอาไว้ว่าอย่าส่งจดหมายมาที่นี่อีก

วันที่ 14 เมษายนปี 2011 ก็มีจดหมายที่ถูกพิมพ์ขึ้นมาจากคอมพิวเตอร์ส่งหาเพื่อนบ้านหลายคน เนื้อความบ่งบอกว่าซาเวียร์เป็นผู้เขียน อธิบายกับเพื่อนบ้านหลายคนว่าเขานั้นมีความเชื่อมโยงกับสหรัฐอเมริกา มอบหมายให้เขาแทรกซึมเข้าไปในองค์กรค้ายาข้ามชาติ เขาเป็นสายให้กับสำนักงานปราบปรามยาเสพติดสหรัฐ จึงจำเป็นจะต้องย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกาและเพื่อนบ้านทุกคนจะไม่เจอพวกเขาอีกสักพัก

วันที่ 15 เมษายนปี 2011 ตำรวจตัดสินใจกลับมาที่บ้านอีกครั้ง แล้วทำการค้นบ้านอย่างละเอียดก็พบว่ารูปของครอบครัวที่ถูกแขวนไว้ตามบ้านและตั้งไว้ตามตัวนั้นถูกปลดออกไปหมด เป็นการแสดงว่าครอบครัวนี้ได้ย้ายออกไปจากบ้านหลังนี้แล้ว นอกจากนั้นก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด

ตำรวจกลับมาบ้านหลังนี้อีกทุกวันครั้งตั้งแต่วันที่ 18 - 21เมษายนปี 2011 ครั้งนี้ ตำรวจได้พบสิ่งผิดปกติที่อยู่ ข้างใต้ระเบียงของบ้าน ว่ามีรอยการฝังกลบบางอย่างที่เกิดขึ้นมาใหม่ จึงทำการขุดหาสื่งที่อยู่ใต้ดิน

หลังจากขุดพื้นดินในสวน ตำรวจพบร่างของสมาชิกในครอบครัวทั้ง 5 คน ในหลุมแรกพบสมาชิก 4 คน ประกอบด้วย แอกเนสภรรยา ลูกคนที่ 1 3 และ 4 คือ อาเธอร์ แอน และเบอนัวถูกห่อด้วยผ้าห่อและผ้านวมใส่ไส้ในถุงพลาสติกอีกชั้นและฝังอยู่ในหลุมเดียวกัน อีกหนึ่งหลุมเป็นร่างของโทมัส ลูกชายคนที่ 2 ถูกห่อร่างในลักษณะเดียวกัน และอีกหนึ่งหลุมฝังสุนัขสองตัวที่พวกเขาทิ้งไว้ แต่ไม่พบร่างของซาเวียร์ ดูปองต์ เดอ ลิกอนเนส หัวหน้าครอบครัว

สิ่งที่น่าสนใจก็คือ มีการนำสิ่งของทางศาสนาไม่ว่าจะเป็น รูปแกะสลัก พระแม่มารี ไม้กางเขน ลูกประคำศักดิ์สิทธิ์ ใส่เอาไว้ในห่อผ้าด้วย ซึ่งเป็นการแสดงถึงการจำลองการฝังศพตามศาสนา แสดงให้เห็นว่ามีสายใยแห่งความรัก ระหว่างผู้กระทำกับร่างที่ถูกฝังด้วย

จากการชันสูตรศพ พบว่าสมาชิกในครอบครัวถูกสังหารขณะนอนหลับ พบยากล่อมประสาทที่แอบถูกใส่ในอาหารในร่างของลูกทั้งสี่คนก่อนจะลงมือ มีเพียงคนเดียวที่ไม่พบคือแอกเนส แต่ตำรวจพบว่าเครื่องช่วยหายใจในขณะหลับของเธอนั้นถูกปิดไปอยู่ในระหว่างตีสาม ซึ่งตรงกับช่วงกลางคืนของวันที่ 3 และเช้ามืดของวันที่ 4 เมษายน 2011 นั่นทำให้ตำรวจสันนิษฐานได้ว่าเหยื่อคนแรกก็คือแม่ของครอบครัวนั่นเอง จากนั้นก็ตามมาด้วยลูก ๆ แต่ละคนถูกสังหารได้กระสุน 2 นัดรวมถึงหมาด้วยเข้าที่หัวจากปืนไรเฟิล .22 และไม่พบว่ามีเพื่อนบ้านคนไหนตื่นขึ้นมาด้วยเสียงปืน มีการเก็บเสียงปืนที่เป็นอย่างดี และพบว่าทุกคนสวมชุดนอน นั่นหมายความว่ามีการเตรียมตัวที่จะสังหารอย่างรัดกุมล่วงหน้ามาก่อนแล้ว เมื่อตำรวจเข้าไปตรวจสอบคราบเลือดภายในบ้านก็ไม่พบทั้งในห้องนอน ไม่พบในห้องนั่งเล่น ห้องโถง ห้องน้ำ ตามเฟอร์นิเจอร์โต๊ะเครื่องเรือนก็ไม่พกคราบเลือดแต่อย่าง หรือแม้แต่รอยนิ้วมือที่พบบนถุงบรรจุร่างของทุกคนก็ไม่พบ ไม่พบแม้แต่ DNA ของผู้กระทำ

อย่างไรก็ตามลักษณะการก่อเหตุเช่นนี้ฆาตกรโดยมากก็มักจะเป็นผู้นำของครอบครัวเป็นผู้กระทำ ตำรวจต่างมุ่งเป้าไปที่ซาเวียร์ ดูปองต์ เดอ ลิกอนเนส ชายอายุ 50 ปีที่ไม่เคยมีประวัติด่างพร้อย แต่ตอนนี้เขาจะกลายเป็น ผู้ต้องหาวางแผนอาชญากรรมครอบครัวของตัวเอง ตำรวจจึงทำการรวบรวมข้อมูลและส่งเรื่องไปให้ในหลายประเทศผ่านทางระบบตำรวจสากล

ต่อมาก็ได้มีเพื่อนและคนรู้จักของซาเวียร์ มาให้ข้อมูลว่าเขามีปัญหารุมเร้า เริ่มตั้งแต่ปี 2001 ถึงปี 2011 ธุรกิจที่เขาทำนั้นไม่ประสบความสำเร็จ และแม้ว่าจะมีหลายธุรกิจแต่ก็ไม่มีธุรกิจไหนเลยที่สามารถประคองให้อยู่ได้ ทุกธุรกิจนั้นขาดทุนหนัก เขาพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาและครอบครัวเสียหน้าจากความล้มเหลว

ยังมีข้อมูลที่สำคัญคือย้อนกลับไปก่อนการฆาตกรรมในวันที่ 21 มกราคมปี 2011 พ่อของซาเวียร์ผู้เป็นทายาทขุนนางเก่าได้เสียชีวิตลง ซาเวียร์เป็นคนเข้าไปจัดการข้าวของภายในบ้าน สมบัติอันมีค่าสิ่งเดียวก็คือแหวนแห่งท่านเคานต์ประจำตระกูลของพ่อนอกนั้นไม่มีอะไร ไม่มีสิ่งของมีค่าที่จะช่วยพยุงชีวิตและครอบครัวของเขาได้ พ่อแม่ตายไปไม่ทิ้งอะไรให้เขาเลย มีเพียงแต่ปืนไรเฟิล .22 เท่านั้น ซึ่งต่อมาเขาก็นำปืนนี้ไปใช้ซ้อมยิงจนชำนาญและได้รับใบอนุญาตในการพกปืนในเวลาต่อมา ครึ่งทางตำรวจก็เชื่อว่าปืนนั่นแหละที่ถูกนำไปใช้ก่อเหตุ

เมื่อตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว จึงได้ทำสรุปสำนวนคดีและลำดับเหตุการณ์ดังนี้

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน ซาเวียร์ แอกเนส และลูกๆ สามคน อาเธอร์ แอน และเบอนัวไปกินอาหารเย็นและดูหนัง

เวลา 22:37 น. ของคืนวันที่ 3 เมษายน 2011 ซาเวียร์ได้ใส่สารกล่อมประสาทและยานอนหลับไว้ในเครื่องดื่มให้กับทุกคน แล้วเซเวียร์ก็ได้ฝากข้อความไว้ในวอยซ์เมลของคริสติน น้องสาวของเขา โดยบอกว่าเขา "จะกล่อมเด็ก ๆ นอน" ช่วงเวลา 3:00 น เขาไปปิดเครื่องช่วยหายใจขณะนอนหลับของเอกเนส และนยิงเธอ 2 นัด ตามด้วยลูก ๆ อีกสามคน ตามด้วยหมาของเขา แล้วจึงตัดการนำร่างไปฝั่งใต้ระเบียงบ้าน

วันรุ่งขึ้น อาร์เธอร์ แอน และเบอนัวต์ขาดเรียน และแอกเนสก็ไปมาทำงาน เซเวียร์โทรบอกว่าทุกคนป่วยและจะอยู่บ้านสองสามวัน

อีกหนึ่งวันซาเวียร์โทรหาโธมัสที่โรงเรียนประจำเพื่อบอกว่าแม่ของเขาประสบอุบัติเหตุและเขาควรกลับบ้านทันที ซาเวียร์ไปรับโธมัสที่สถานีรถไฟ กลับมาที่บ้าน ให้กินน้ำผมสารกล่อมประสาท จากนั่นถึงกระทำแบบเดียวกับแม่และน้อง จากนั้น ไม่มีใครเห็นโธมัสอีกเลย

14 เมษายนปี 2011 ซาเวียร์ได้ส่งจดหมายให้กับ ครอบครัวใกล้ชิดและเพื่อนสนิท ที่ระบุว่า เขาทำงานให้กับหน่วยงานปราบปรามยาเสพติดแห่งสหรัฐอเมริกา อย่างลับๆ และครอบครัวทั้งหมดได้ย้ายไปอยู่ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการคุ้มครองพยานของรัฐบาลกลาง บอกว่าพวกเขาจะขาดการติดต่อไปอีกสองสามปี

ต่อมาซาเวียร์ ปิดบัญชีธนาคารทั้งหมด ยกเลิกสัญญาเช่าบ้าน และส่งเงินงวดสุดท้ายไปยังโรงเรียนของเด็ก ๆ ทั้งหมด เขาทิ้งคำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการกำจัดข้าวของเครื่องใช้ในบ้านและรถยนต์ที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่ชิ้นเอาไว้ในบ้านด้วย

หลังจากนั้นก็มีการทำพิธีศพให้กับทั้งห้าคนของครอบครัวดูปองต์ เดอ ลิกอนเนส นำสู่ความเศร้าโศกเสียใจของญาติสนิทเพื่อนและทุกคนชาวเมืองน็องต์อย่างยิ่ง ตำรวจออกตามหา ซาเวียร์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนี้ การตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นว่า ซาเวียร์ ได้ออกจากบ้านไปในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น คือระหว่างวันที่ 5 ถึงวันที่ 14 เมษายน ก่อนที่ตำรวจจะมาค้นบ้าน เขาเดินทางไปยังภาคใต้ของฝรั่งเศส

เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเมื่อวันที่ 12 เมษายน ซาเวียร์เข้าพักที่รีสอร์ทระดับ 5 ดาวในเมืองตูลูส เมื่อวันที่ 14 เมษายน เขาถูกกล้องวงจรปิดจับภาพได้ขณะถอนเงินจากตู้ ATM มีการใช้บัตรเครดิตจ่ายค่าอาหาร ซื้อทั้งหมดนั้นมันไม่ได้มีการปิดบังอำพรางตัวเลยแม้แต่น้อย และเมื่อวันที่ 15 เมษายน กล้องวงจรปิดของโรงแรมแห่งหนึ่งพบเห็นเขาครั้งสุดท้ายขณะเดินไปยังภูเขา

จากนั้นไม่มีใครเห็นหรือได้ยินข่าวคราวของ ซาเวียร์ อีกเลย เขาอาจจบชีวิตตัวเองบนภูเขาหรือไม่ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังค้นหาในพื้นที่เป็นเวลาหลายสัปดาห์แต่ไม่พบสัญญาณของซาเวียร์ ไม่พบร่างแถวนั้น หรือว่านี่คือแผนอันแยบยลของซาเวียร์ที่วางเอาไว้ ให้ตำรวจพากันตามหาตัวเขาทั่วบริเวณภาคใต้ของฝรั่งเศสจนวุ่น จนทำให้เกิดช่องว่างให้เขานั้นสามารถหนีไปอยู่ต่างประเทศได้ หรือว่าเขาหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยุโรปหรืออเมริกา เพราะเขามีความสามารถในการสื่อสารทั้งภาษาสเปนและภาษาอังกฤษได้อย่างดี หลายคนเชื่อว่านี่เป็นทฤษฎีที่เป็นไปได้มากที่สุด

แล้วหลายคนเชื่อว่าการเดินทางลงไปยังภาคใต้ของประเทศฝรั่งเศสของซาเวียร์นั้นเกิดจากการที่เขาหวนรำลึกถึงความหลัง ความสุขที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของเขาไม่ว่าจะเป็นการเดินทางท่องเที่ยวร่วมกันลูกของเขาหลายคนก็เกิดตามเมืองต่างๆ ในภาคใต้ นั่นก็หมายความว่าอาจจะเดินทางเพื่อรำลึกถึงความหลัง หลังที่จะตัดสินใจจบชีวิตก่อนหนีต่างประเทศก็เป็นได้

ส่วนทฤษฎีที่หลายคนเชื่อถือก็คือการตัดสินใจการก่อเหตุฆาตกรรมครอบครัวของซาเวียร์นั้นเกิดจากความเครียดด้านปัญหาทางการเงิน และความตกต่ำของชีวิต ประจวบกับการที่เขาเป็นคนที่มาจากตระกูลอันสูงส่งของฝรั่งเศส เขาจึงไม่อาจสู้หน้าผู้คนและทนมีสภาพนี้จึงตัดสินใจก่อเหตุไป

แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าซาเวียร์ เป็นคนวางแผนและก่อเหตุทั้งหมดนั้นจริงหรือไม่ เพราะไม่มีหลักฐานอะไรบ่งบอกไว้อย่างแน่ชัดเลย คงจะทิ้งเอาไว้เป็นคดีปริศนา ที่ยังไม่สามารถปิดลงมาจนถึงปัจจุบัน และรอใครบางคนที่รู้เบาะแส อันจะนำไปสู่การขยายผล และหาความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตทั้งหมดของครอบครัวได้ต่อไปในภายภาคหน้า

#บทสรุป
เหตุการณ์ในสารคดี House of Terror จาก Unsolved Mysteries (Netflix) Season 1 EP 3 เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์ในครอบครัว และความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ที่อาจถูกซ่อนไว้ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ดูปกติ คดีนี้ชี้ให้เห็นว่าเราควรให้ความสำคัญกับการสังเกตและใส่ใจความเปลี่ยนแปลงของคนใกล้ตัว เพราะบางครั้ง ปัญหาลึก ๆ ที่ถูกปิดบังอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่น่าสะพรึงกลัวได้ในที่สุด ความเชื่อใจและการสื่อสารในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมเช่นนี้ขึ้นอีก

@วาทิน ศานต์ สันติ

#SuperReviewChannel
#สรุปสารคดีUnsolvedMysteriesNetflix
#สรุปคดีHouseOfTerrorจากUnsolvedMysteries
#สรุปคดีบ้านสยองขวัญจากUnsolvedMysteries
#คดีครอบครัวปองต์เดอลิกอนเนส
#สปอยล์สารคดีUnsolvedMysteries
#ซาเวียร์ดูปองต์เดอลิกอนเนส

หมายเลขบันทึก: 719283เขียนเมื่อ 1 กันยายน 2024 09:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 1 กันยายน 2024 09:08 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่าน


ความเห็น

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท