๒๑ พ.ค.๒๕๖๖
จิตตภาวนา บ่ายนี้เก็บได้ ๑ ชม. คือ ๑๐.๔๐-๑๔.๑๕ น. มีอาการโยกโคลง แต่ความคิดผุดขึ้นว่า ไม่ใช่สาระสำคัญ มีความคิดเกิดขึ้น และเริ่มรับรู้ว่า ความคิดเกิดขึ้นตามเหตุปัจจัย และไม่ใช่ความจริง กำหนดได้ที่ช่องจมูกและการพองขึ้น-ยุบลงของท้อง มีความคิดอยากหยุดภาวนา แต่ความคิดหนึ่งก็เกิดขึ้นว่า "อย่าเชื่อจอมมาร" ก่อนออกจากภาวนาได้แผ่เมตตาและเชิญชวนสิ่งศักดิ์ทั้งภุมมเทวดา อากาศเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำบ้าน ขอให้ได้รับส่วนแห่งภาวนาด้วยการอนุโมทนาด้วยตน ได้ยินเสียงรบกวนที่ภายนอกประตูแกรกๆๆๆๆ เหมือนมีคนแต่ไม่ได้รู้สึกว่ามีคน แผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรขอให้อนุโมทนาด้วยตน หากมีทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์และขอให้ไปเกิดในภพภูมิที่จะทำให้หมดกิเลสเร็วพลัน เปิดตาขึ้นดูนาฬิกาเป็นเวลา ๑๔.๐๕ น. ขาเป็นตะคริวจึงยืดตัวนอนและหลับตาภาวนา ได้ยินเสียงโทรศัพท์จึงลืมตาเวลา ๑๔.๑๕ น. รับโทรศัพท์เป็นเสียงบอกว่ามาส่งพัสดุ จึงลงไปรับพัสดุมาบันทึกการเก็บภาวนา เวลานี้ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยแม้แต่เสียงก๊อกแก๊กข้างนอก
๒๕๖๖๐๕๑๘
๑๔.๔๔ น.
นอนหลับตาบนเก้าอี้ยิ้มคนเดียว "กองกระดูก มันคือกองกระดูก กองกระดูก มันคือกองกระดูก" ผุดขึ้นในใจ เหมือนท่อง
เมิ่อนึกถึงใครก็เห็นร่างกระดูก นึกถึงแม่ยาย ก็เห็นร่างกระดูก นึกถึงน้องชายก็เห็นร่างกระดูก นึกถึงสาวน้อยก็เห็นร่างกระดูก นึกถึงผอ.ก็เห็นร่างกระดูก นึกถึง อ.ปาร์มีก็เห็นร่างกระดูก นึกถึงเหมียวก็เห็นร่างกระดูก .... มุมปากยิ้มเองโดยบอกไม่ถูก...จึงรีบหยิบโทรศัพท์มาพิมพ์เก็บไว้
๑๙.๕๖ น.
-----------------------------------
ไม่มีความเห็น