07/28/2018 by admin
เชื่อว่าทุกวันนี้ หลายคนคงติดตามเรื่องราวชีวิตของเพื่อนๆและคนรู้จักผ่านทางรูปถ่ายที่พวกเขาลงไว้ในอินสตราแกรม หรือเฟสบุคส่วนตัว พวกเขามักซื้อของใหม่ๆ ทานอาหารในร้านหรู นั่งรถราคาแพง ท่องเที่ยวไปในโลกกว้าง และทำสิ่งแปลกใหม่เสมอ ชีวิตของพวกเขาช่างดูสวยงาม และมีความสุข จนทำให้เรารู้สึกอิจฉาและอยากที่จะมีชีวิตแบบนั้นบ้าง และเมื่อเราพยายามไขว่คว้าหาสิ่งที่ต้องการมาได้ หรือสามารถตอบสนองความต้องการของตนเองได้ เราก็จะรู้สึกมีความสุข
หลายคนให้นิยามความสุขไว้เช่นนี้ ความสุข คือ การทำสิ่งที่ตนเองต้องการได้สำเร็จ
“เมื่อฉันเห็นคนอื่นมี… คนอื่นได้… คนอื่นเป็น… ฉันก็เกิดความรู้สึกอยากมี…อยากได้…และอยากเป็น…เช่นกัน และเมื่อฉันมี…ฉันได้…และฉันเป็น…ตามที่ฉันต้องการ ฉันก็จะมีความสุข”
แต่แท้จริงแล้ว ความสุขที่เกิดจากการครอบครองเป็นเพียงความสุขระยะสั้น อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นของวงจรแห่งความทุกข์ที่ไม่รู้จบ เพราะเมื่อคุณอยากได้ อยากมี คุณจะเปรียบเทียบชีวิตของตนเองกับคนอื่นตลอดเวลา คุณจะพยายามไขว่คว้า และทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้ในสิ่งที่คุณต้องการ เนื่องจากคุณรู้สึกว่าตนเองมีบางสิ่งที่ขาดหายไป และหากคุณสามารถทำได้สำเร็จ คุณก็จะมีความสุข แต่นั่นเป็นต้นตอที่ทำให้คุณวิ่งไล่ตามหาความสุขอื่นๆอย่างไม่จบสิ้น
บทความนี้จะทำให้คุณสามารถแยกแยะความสุข 2 ประเภท คือ ความสุขจอมปลอม และความสุขสงบที่แท้จริง แล้วหลังจากนั้น ก็อยู่ที่คุณเอง ว่าจะเลือกใช้ชีวิตแบบไหน
หากคุณมีพฤติกรรมเช่นเดียวกับตัวอย่างในข้างต้น คุณกำลังอยู่กับความสุขที่จอมปลอม คุณหลงใหลในรูปลักษณ์ภายนอกจนลืมสิ่งที่เป็นแก่นแท้ของชีวิต และนั่นจะทำให้คุณเป็นทุกข์ ดังนั้น จงปรับเปลี่ยนความคิดและการกระทำของคุณตามขั้นตอนต่อไปนี้ เพื่อนำชีวิตไปสู่หนทางแห่งความสุขสงบที่แท้จริง
ความสุขที่แท้จริงนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณมี สิ่งที่คุณเป็น สถานที่ที่คุณไป หรือสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่ แต่ความสุขสามารถเกิดขึ้นได้จากใจหรือความคิดของตัวคุณเอง โลกวัตถุนิยมนั้นสร้างภาพลวงตาให้เราเข้าใจว่าความสุขสามารถหาได้จากการครอบครอง หรือการเป็นเจ้าของ ซึ่งสิ่งเหล่านั้นเป็นความสุขระดับหนึ่งเท่านั้น
เพราะแม้ว่าเราจะมี… เราจะได้… หรือเราจะเป็น….อย่างที่ใจเราต้องการแล้ว เราก็ยังไม่มีความสุขที่สมบูรณ์หรือแท้จริง เพราะใจเรายังไม่หยุดนิ่ง เรายังต้องวิ่งตามหาความสุขที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ในทางกลับกัน หากว่าเราขาดแคลนวัตถุในการปรนเปรอความสุขให้กับเรา แต่เรามีใจที่สงบ พอเพียง และพอใจกับสิ่งที่เรามี เพียงเท่านี้ เราก็จะมีความสุขในจิตใจ
การฝึกสมาธิ สามารถช่วยให้คุณพบกับความสุขที่แท้จริงของชีวิตได้ สมาธิ คือ สภาวะของจิตที่ตั้งมั่น ไม่หวั่นไหว คือนิ่งอยู่กับตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งอื่น คุณสามารถทำสมาธิได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือไม่ว่าคุณจะทำอะไร หรืออยู่กับใคร โดยเริ่มจากการทำจิตใจของคุณให้สงบ ตัดความฟุ้งซ่านออกไป กำหนดความคิดและจิตให้นิ่ง จดจ่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
คุณจะรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของร่างกาย ลมหายใจ และประสาทสัมผัสของคุณ ซึ่งปราศจากปัจจัยภายนอกรบกวน และหากคุณแน่วแน่และมีสมาธิมากพอ คุณจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่นิ่งและสงบ และคุณจะอิ่มเอมไปกับช่วงเวลาแห่งการรับรู้ตัวตนที่แท้จริง ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่พิเศษและมีความสุข
โปรดประเมินความพึงพอใจในการอ่านเรื่องนี้ โดยให้คลิก URL ข้างล่างนี้ ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
ไม่มีความเห็น