รีวิว สารคดี คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes (2022)


รีวิว สารคดี คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes (2022)

#เกริ่นนำ
หลังจากที่เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์หนึ่งในฆาตกรที่โด่งดังที่สุดในอเมริกาก่อคดีสังหารผู้คนไป 17 คนในช่วงระหว่างปลายปีทศวรรษที่ 1970 ถึงต้นทศวรรษที่ 1990 ถูกจับกุมในปี 1991 ทำให้เกิดคำถามและเป็นที่ถกเถียงกัน เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายและความยุติธรรม และผลกระทบจากการก่อเหตุฆาตกรรมของเขา ยังส่งผลเป็นแรงกระเพื่อมให้กับใครหลายคนและสังคมในปัจจุบันนี้ นี่คือสุดยอดสารคดีการสนทนาระหว่างผู้คนที่เกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์เพื่อให้ลงลึกเข้าไปในจิตใจของเขา เพื่อไม่ให้เกิดเรื่องราวเช่นนี้ต่อไปอีกในอนาคต

ดูคลิปที่นี่

#ภูมิหลังเจฟฟรีย์ดาห์เมอร์
ก่อนอื่นก็ต้องขอเล่าสรุปเรื่องราวของเจฟฟรีย์  ดาห์เมอร์ก่อนเพื่อแนะนำและเป็นการปูพื้นภูมิหลังก่อนที่จะเข้าสู่เนื้อหานะครับ

เจฟฟรีย์  ดาห์เมอร์คือชายที่มีภูมิหลังอันเลวร้าย อยู่ในบ้านที่พ่อแม่ทะเลาะกันตลอดเวลา เข้ากับคนอื่นไม่ได้ทั้งชีวิตอยู่ภายใต้การถูกสั้งถูกบังคับ อยู่กับตัวเองความเหงาและความโดดเดี่ยว ตั้งแต่เด็กถูกสอนให้ชำแหละศพสัตว์ เขามีความสุขมากที่ได้เห็นเครื่องในอันมันวาวของสัตว์ เขามีอารมณ์ทางเพศเมื่อเห็นเลือด และการสังหารเหยื่อ การชำแหละ การจัดการกับร่างกายเหยือคือสิ่งเดียวที่เขาสามารถบังคับได้ ระหว่างปี 1978 และ 1991 เขาสังหารชายหนุ่มไป 17 คน โดยที่ระหว่างทางตำรวจไม่เคยจับเขาได้เลย อาจจะจับได้เพียงข้อหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นการกระทำอนาจารหรือการล่วงละเมิดทางเพศเท่านั้น

เหยื่อรายแรกและรายที่สองถูกฆาตกรรมที่บ้านพ่อแม่ของเขาในโอไฮโอ และรายที่สามที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ใน Milwaukee ตามลำดับ

เหยื่อรายแรกถูกสังหารโดยการใช้กระบองตีศรีษะและการบีบรัดคอ เหยื่อรายที่สองทิ้งช่วงยาวไปจนถึง 9 เป็นชายถูกทุบตีจนตาย เหยื่อรายบางรายเสียชีวิตด้วยอาการช็อกจากการสูญเสียเลือดเนื่องจากหลอดเลือดถูกตัด เหยื่อสี่รายที่ถูกสังหารในปี 1991 มีรูเจาะในกะโหลกศีรษะ โดยดาห์เมอร์ฉีดกรดไฮโดรคลอริกหรือน้ำต้มร้อน ๆ เทเข้าไปในกลีบหน้าผาก เพื่อพยายามกระตุ้นให้เกิดสภาวะแน่นิ่ง ยอมจำนน และไม่มีแรงต้านทานเขา

เครื่องมือในการชำแหละเช่น สว่าน เลื่อย น้ำยาสลายเนื้อเยื้อเป็นเครื่องมือ แล้วถ่ายภาพขณะชำแหละไว้เป็นที่ระลึก และเขามีอารมณ์ทางเพศทุกครั้งในขณะชำแหละเหยื่อ

เหยื่อสิบสองรายถูกสังหารในอพาร์ตเมนต์ North 25th Street ที่ชื่อว่า Oxford ของเขาเอง และมีเหยื่อสามรายถูกฆ่าตายและแยกชิ้นส่วนที่ห้องใต้ดินบ้านของเวสต์ อัลลิส คุณย่าแท้ ๆ ของเขา ซึ่งย่าไม่รู้อะไรเลย

เหยื่อของดาห์เมอร์สิบสี่รายมีภูมิหลังมาจากคนต่างถิ่น คนพื้นเมืองอเมริกัน เหยื่อเก้ารายเป็นคนผิวดำ หนึ่งในนั้นคือเด็กชายอายุเพียงแค่ 14 ปี

เหยื่อของดาห์เมอร์มักโดยมากจะถูกลวงจากคลับบาร์เฉพาะกลุ่มชายรักชาย โดยบอกจะเลี้ยงเครื่องดื่ม จ้างให้เป็นแบบในการภ่ายภาพนู้ด โดยอ้างว่าจะให้ค่าจ้าง 50-100 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อมาถึงบ้านคุณย่าหรืออพาร์ทเม้นท์ตนเอง จะให้กินเบียร์ผสมยาระงับประสาท จากนั้นก็สังหารเหยื่อ ส่วนใหญ่จะเป็นการรัดคอ ถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก เก็บร่างเอาไว้เพื่อบำเรอความใคร่ หรือไม่ก็ชำแระเก็บชิ้นส่วนบางส่วนเอาไว้เป็นที่ระลึก หรือหัวใจและเครื่องในเก็บเอาไว้กิน เขามักใช้สว่าน เลื่อย มีด แล้วแต่จะมีในการชำแหละ ร่างกายส่วนใหญ่จะถูกแช่น้ำยาสลายเนื้อเยื่อก่อนถูกนำไปทิ้ง

เจฟฟรี่ย์คือฆาตกรต่อเนื่องที่มีอารมณ์ทางเพศทุกครั้งกับการชำแหละศพ เก็บขิ้นส่วนของเหยื่อยไว้เป็นที่ระลึก ส่วนชายที่เกือบจะเป็นรายที่ 18 สามารถหนีออกจากอพาร์ทเม้นท์ของเขาไปได้ ในลักษณะที่เปลือยเปล่ามือทั้งสองข้างถูกพันธนาการด้วยกุญแจมือ เขาวิ่งไปหาตำรวจ แล้วตำรวจก็พาชายคนนี้กลับมาที่ห้องของดาห์เมอร์ เพื่อขอกุญแจไขกุญแจมือออก แต่ตำรวจก็สงสัยจึงขอเข้าไปค้นในห้อง แล้วก็พบหลักฐานมากมายเกี่ยวกับการก่อเหตุฆาตกรรม ซึ่งนั่นก็ตรงกับปี 1991 และเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในสารคดี คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes (2022)

#เรื่องราวในสารคดี
สารคดี คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes เล่าเรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ที่นำเสนอโดย netflix เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเหตุการณ์การฆาตกรรมชาย 17 คน ในรอบระยะเวลาเกือบ 20 ปี และหลังจากการที่เขาถูกจับกุมได้ในปี 1991 ทำให้มีผู้คนและเจ้าหน้าที่มากมายเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี

เราจะได้ยินและได้ฟัง เรื่องเล่า เรื่องราว ความรู้สึกและผลกระทบจากบุคคลเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นทนายฝ่ายจำเลย ที่ต้องทำทุกอย่างให้เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์รับโทษน้อยที่สุด หรือทำให้ผู้พิพากษาเห็นว่าเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์คือบุคคลที่มีปัญหาทางจิต เล่าเรื่องราวของเพื่อนข้างห้อง กับความรู้สึกและประสบการณ์ที่อยู่ห้องติดกับเจฟฟรีย์ ดาเมอร์ เพื่อนหรือบุคคลใกล้ชิดที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อหลายคนที่เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์สังหาร ความรู้สึกความคิดเห็นของนักข่าวที่ทำข่าวการฆาตกรรมหรือการตรวจสอบตรวจค้นที่เกิดเหตุในช่วงเวลานั้น จึงทำให้เราได้เห็นมิติของผู้คนหลากหลายอาชีพแสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ที่เกดขึ้น

ทั้งหมดนั้นจะพูดในมุมมมองของตนเองถึงเรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ฆาตกรต่อเนื่อง ที่มีฉายาว่า "มือสว่างนักเจาะกะโหลก" หรือ "ปีศาจแห่งมิลวอกี"

ดูเหมือนว่าเป็นหัวใจของเรื่องก็คือ การนำเทปสัมภาษณ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระหว่างทนายกับเขา หรือคำพูดที่อยู่ในห้องตัดสินคดีความ ซึ่งเป็นเสียงจริงจากการบันทึกเทปทั้งหมด โดยทีมสร้างนั้นนำมาร้อยเรียงเรื่องราว ดังนั้นเราจะได้ยินได้ฟังคำพูดของดาเมอร์จริง ๆ จะทำให้เรารับรู้ว่าระหว่างที่เขาก่อเหตุฆาตกรรมนั้นเขาคิดอะไรอยู่

และเนื่องจากนี่คือสารคดี เราจึงได้เห็นภาพถ่ายเหตุการณ์จริง ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนร่างกายมนุษย์ที่เจฟฟรีย์ ดาเมอร์ทำการชำแหละ หัวกระโหลก หรือชิ้นส่วนต่าง ๆ อีกทั้งยังรวมถึงอุปกรณ์ในการชำแหละ สภาพแวดล้อม อพาร์ทเม้นท์ บ้านเก่าของพ่อแม่ บ้านเก่าของคุณย่า หรือแม้แต่ภาพฟุตเทจวีดีโอส่วนตัวของจริงสมัยที่เขายังเป็นเด็ก ในจุดนี้ก็ต้องขอชื่นชมทีมงานที่เขาสามารถนำสิ่งเหล่านี้ออกมารวบรวมเรียบเรียงกับเรื่องราวทั้งหมดได้ แต่เขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ทำให้เราได้เห็นในแบบสยดสยองเกินไป

ในด้านกลวิธีในการเล่าเรื่อง สารคดีก็จะเน่าสลับไปมาโดยตั้งต้นที่ปี 1991 ปีที่เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ถูกจับ โดยการสัมภาษณ์ใครสักคนที่เกี่ยวข้อง แล้วก็ย้อนกลับไปในหลาย ๆ ปีที่เขาก่อเหตุฆาตกรรม แล้วก็เอาพยานแวดล้อมทั้งหมดที่เกี่ยวข้องแต่ละเรื่องราวนั้นไปสอดแทรกอยู่ในการเล่าเรื่องด้วย มันก็เป็นหนึ่งในวิธีการที่ทำให้เราดูสารคดีเชิงข่าวในแบบที่ไม่น่าเบื่อ

สารคดีได้แบ่งช่วงของการเล่าเป็น 3 ตอนก็คือ

ตอนที่ 1 Sympathy for the Devil ทนายความ ผู้เชี่ยวชาญและนักข่าว ให้สัมภาษณ์และเล่าถึงการจับกุมเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ในปี 1991 และเล่าย้อนกลับไปถึงจุดเริ่มต้นของการก่อเหตุฆาตกรรมครั้งในปี 1978 รวมถึงการก่อเหตุฆาตกรรมทั้งหมดที่เขาทำการสารภาพ

ตอนที่ 2 Can I take you Picture เล่าถึงเรื่องราวในปลายทศวรรษ 1980 เป็นช่วงที่เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ทำการออกล่าเหยื่อบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวสถานบันเทิงและโรงอาบน้ำของกลุ่มชายรักชายในเมืองมิลวอกี้ โดยเปิดเผยการกระทำและความรู้สึก รวมถึงแรงกระตุ้นที่ทำให้เขาก่อเหตุการณ์ฆาตกรรม

ตอนที่ 3 Evil or Insane เล่าเรื่องราวการพิจารณาคดีของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ ที่ทำให้เกิดคำถามจนกลายเป็นข้อถกเถียง เกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และการกระทำที่เขาก่อขึ้นจนเกิดแรงกระเพื่อมไปสู่สังคมจนส่งผลมาถึงในปัจจุบัน

#การเปรียบเทียบระหว่างสารคดีและซีรีส์ของNetflix

สารคดี คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes ถูกปล่อยฉายทาง Netflix ในประเทศไทยวันที่ 7 ตุลาคม 2022 ซึ่งตามหลังจากการฉายซีรีส์ Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story ที่ฉายใน 22 กันยายน 2022 ซึ่งระยะเวลาห่างกันเพียงแค่ไม่ถึง 1 เดือนเท่านั้น

ถ้าจะให้แนะนำว่าควรรู้อะไรก่อน ส่วนตัวแล้วขอแนะนำให้ดู ซีรีส์ Dahmer – Monster: The Jeffrey Dahmer Story ก่อนจะดีกว่า เพราะบรรยากาศของการเล่าเรื่องนั้นทำให้เราเห็นในรูปแบบของ ซีรีส์หรือภาพยนตร์ขนาดยาว จะทำให้เรารู้เรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ เหตุการณ์คดีที่สำคัญ และทุกอย่างที่อยู่แวดล้อมได้ทั้งหมด ซึ่งเขาถ่ายทอดตามความเป็นจริงด้วย จากนั้นค่อยไปดูสารคดี จะเป็นการเสริมให้เราเข้าใจเรื่องราวที่แต่ละบุคคลเล่าเรื่องได้ดีขึ้น

แต่ละตอนของซีรีส์จะแสดงความระทึกมาก เล่าเรื่องการจัดการเหยื่อทีละคนแบบไม่เรียงลำดับ สลับกับการสัมภาษณ์ของตำรวจเพื่อโยงเข้าสู่เรื่อง ทำให้เราไม่เบื่อเลย

ซีรีส์สะท้อนให้เห็นว่ามีความเหลื่อมล้ำในสังคมอเมริกัน เหยื่อของดาห์เมอร์เป็นชนกลุ่มน้อยและเป็นคนผิวดำ ตำรวจให้ความสนใจกับคนกลุมนี้น้อยมาก คดีแทบไม่คืบหน้า มีคนแจ้งเบาะแสแต่ดูเหมือนตำรวจไม่ติดตามหรือให้ความสนใจเลยด้วยซ้ำ และนี่จึงทำให้ดาห์เมอร์ไม่เคยถูกจับ

นำเสนอเรื่องราวหลังจากที่ดาเมอร์ถูกจับกุมแล้ว ไม่ว่าจะเป็นชีวิตที่อยู่ในเรือนจำ ปฏิกิริยาของผู้คนที่อยู่รายล้อมตัวเขา มองจากมุมของบุคคลอื่นเข้ามา และไล่ยาวไปจนถึงหลังจากที่เขาเสียชีวิตในห้องขังด้วย ซึ่งมิตินี้ผมมองว่าดีมาก มันทำให้เราเห็นว่าคนรอบข้างหรือคนที่เกี่ยวข้องนั้นมีความรู้สึกและมีผลกระทบอย่างไรบ้างจากสิ่งที่เกิดขึ้นไปทั้งหมด

ทั้งยังแสดงให้เห็นฝีมือการแสดงของ Evan  Peters ที่รับบทเป็นดาห์เมอร์ เขาเล่นนิ่ง ๆ เรียบ ๆ แต่ทรงพลัง ดีงามราวกับเข้าทรงหนือถูกสิง ทำให้ลืมภาพ Quick Silverจาก X-Men ไปได้เลย  

แถมยังมีเพลงประกอบก็ค่อนข้างทรงพลังมีผลต่ออารมณ์ของซีรีส์มาก ๆ

ดังนั้นในแง่ของศิลปะภาพยนตร์ ซีรีส์เขาทำออกมาได้ดีมาก แม้จะเป็นเรื่องจริงแต่เราก็ดูแล้วเหมือนกับว่าเราดูภาพยนตร์หรือซีรีส์เรื่องหนึ่ง แม้จะมีขนาดยาวถึง 10 ตอนแต่เราก็ไม่เบื่อเลย

และด้วยการดูซีรีส์เรื่องนี้จะทำให้เรารับรู้เรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์แทบทั้งหมด และรับรู้ในหลายมิติ แต่ภาพต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้นก็คือการจำลองเหตุการณ์ทั้งหมด เราจะไม่ได้เห็นของจริง หรือภาพจริง ๆ เลย

ส่วนใน Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes จะเป็นการเล่าเรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ในสารคดีเชิงข่าวอาชญากรรม จะเป็นการเล่าเรื่องแบบตรงไปตรงมา เล่าออกมาจากปากของผู้เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ ภาพข่าวหรือเหตุการณ์ก็เป็นภาพจากสถานที่จริงภาพถ่ายจริง หรือแม้แต่เสียงการให้สัมภาษณของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ก็เป็นเสียงจริง

ดังนั้นเราจึงได้รับรู้ความรู้สึกจากบุคคลเหล่านี้แบบจริง ๆ ด้วย และมันก็ไม่ได้บันเทิงเหมือนกับที่ซีรีส์ทำเอาไว้ มันก็เหมือนกับเราดูการวิเคราะห์ข่าวนั่นแหละ

แต่ถ้าใครที่เป็นสายดูสารคดีแนวนี้ บอกได้เลยว่า เขาไม่ได้ทำให้ความสนุกนั้นมันลดน้อยลงไปเลย อันเป็นผลจากการเล่าเรื่องโดยตั้งต้นในปี 1991 แล้วย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละปีนั่นแหละ

ดังนั้นจึงขอแนะนำว่า หากใครอยากศึกษาเรื่องราวของเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ หนึ่งในฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ต้องดูทั้งซีรีส์ และสารคดีควบคู่กันไปจึงจะดีที่สุด

#บทสรุป 
คุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์ Conversation with a Killer : The Jeffrey Dahmer Tapes คือสารคดีเชิงข่าวอาชญากรรมที่เล่าเรื่องราวของฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่ง ที่นำเสนอเรื่องราวออกมาได้ดีเยี่ยมและค่อนข้างครบถ้วนครบทุกมุมมอง ทั้งนี้หากเราเสพแบบสารคดีมีขันติธรรมแล้วล่ะก็ คงจะเข้าใจได้ว่าเขาไม่ต้องการสร้าง สารคดีเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อยกย่องพฤติกรรมของฆาตกรแต่อย่างใด เขาสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นการทบทวน เรื่องราวหรือสิ่งเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้น เพื่อเป็นการลงลึกเข้าไปในจิตใจ และเข้าใจความรู้สึกนึกคิดรวมถึงแรงกระตุ้นที่ส่งผลให้เจฟฟรีย์ ดาห์เมอร์กระทำการฆาตกรรม ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกัน ป้องปรามและนำเสนอให้เห็นสัญญาณบางอย่าง ของคนที่จะมีแนวโน้มก่อให้เกิดพฤติกรรมเช่นนี้ และรวมถึงทบทวนเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรม ที่จะนำมาใช้ดำเนินคดี เรื่องราวเช่นนี้ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุดนั่นเอง

เนื่องจากเป็นการรีวิวสารคดี จึงขอสงวนการให้คะแนนในการรับชมครับ

@วาทิน ศานติ์ สันติ

Super Review Channel 
#ConversationWithAKiller 
#TheJeffreyDahmerTapes
#ConversationWithAKillerTheJeffreyDahmerTapes
#สารคดีคุยกับฆาตกรเจฟฟรีย์ดาห์เมอร์
#เจฟฟรีย์ดาห์เมอร์

หมายเลขบันทึก: 708878เขียนเมื่อ 19 ตุลาคม 2022 23:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 ตุลาคม 2022 00:25 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท