ความสวย ความหล่อไม่จีรัง แต่ความดีนั้นยั่งยืน


ธรรมดาคนเราเมื่อเจอกันแรก ๆ ก็ยังไม่ทราบนิสัยใจคอ กัน ก็จะประทับใจตรงกายภาพนี้แหละ คือรูปร่างหน้าตา เพราะ อุปนิสัยใจคอคนเราจะเป็นอย่างนี้ ดังนั้น คนเราจึงต้องใส่ใจดูแลบุคลิกภาพร่างกายภายนอก เอาไว้ก่อน เป็นทุนเบื้องต้น ดังคำที่ว่า “ไก่งาม เพราะขน คนงาม เพราะแต่ง” มีคำกล่าวกันว่า เสื้อผ้าอาภรณ์ ทำให้ผู้หญิงงาม ทักษะความรู้ความสามารถทำให้หญิงเพิ่มเสน่ห์ แต่กิริยาความประพฤติ จะทำให้ผู้หญิงเลอเลิศ อย่างไรก็ตาม ตามหลักธรรม มีการกล่าวกันว่า ความสวย ความหล่อ แค่เพียงทำให้สะดุดตา แต่ความดีจะทำให้สะดุดใจ ความสวย ความหล่อ สามารถเพียงทำให้แค่สะดุดตา แต่ ความงามภายใน คืองามใจ จะทำให้สะดุดใจ งามใจ คือผู้ละชั่ว ทำความดี และทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ ฉลาดทางอารมณ์ และเฉียบคมทางปัญญา ถือว่าเป็นความงามที่ยั่งยืน การจะอยู่ร่วมกันได้จนตลอดรอดฝั่งเพราะงามใจนี้แหละสำคัญดังคำที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า “ความสวยความหล่อไม่จีรัง แต่ความดีนั้นยั่งยืน” นั้นเอง....

ความสวย ความหล่อไม่จีรัง แต่ความดีนั้นยั่งยืน

 

ความสวย ความหล่อไม่จีรัง แต่ความดีนั้นยั่งยืน
ดร. ถวิล  อรัญเวศ
         ความหล่อ ความสวยไม่จีรัง แต่ความดีนั้นยั่งยืน หรือ

อีกนัยหนึ่ง ความสวย ความหล่อ ไม่คงที่ แต่ความดีสิคงทน

ตามที่ได้ยินได้ฟังกันมา

         ธรรมดาคนเราเมื่อเจอกันแรก ๆ ก็ยังไม่ทราบนิสัยใจคอ

กัน ก็จะประทับใจตรงกายภาพนี้แหละ คือรูปร่างหน้าตา เพราะ

อุปนิสัยใจคอคนเราจะเป็นอย่างนี้

        ดังนั้น คนเราจึงต้องใส่ใจดูแลบุคลิกภาพร่างกายภายนอก

เอาไว้ก่อน เป็นทุนเบื้องต้น ดังคำที่ว่า “ไก่งาม เพราะขน คนงาม

เพราะแต่ง”

        ถ้าแต่งนิสัย แต่งจรรยาความประพฤติปฏิบัติให้ดีควบคู่กัน

ไปด้วยยิ่งแสนดี

        ทำไม่จึงเป็นอย่างนั้น  เพราะพระท่านเทศน์เป็นบทกลอน

ไว้ว่า

        คนจะงาม งามน้ำใจ ใช่ (เพียง) ใบหน้า

        คนจะสวย สวยจรรยา ใช่ (เพียง) ตาหวาน

        คนจะแก่ แก่ความรู้ ใช่ (เพียง) อยู่นาน

        คนจะรวย รวยศีลทาน ใช่ (เพียง) บ้านโต

        เราคงได้ยินได้ฟัง ก็เก็บตกนำมาเล่าเพื่อตอกย้ำให้เห็นจริง

 

        ผู้หญิงสวย ผู้หญิงงามทางเรือนกาย ถือว่ามีต้นทุนชีวิตสูงก็ว่า

ได้ เพราะมีคำพูดว่า ผู้หญิงนั้น มีเรือนกายหรือรูปร่างเป็นทรัพย์สิน

ถือว่ามีต้นทุนชีวิตดี มีความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง อีกห้าสิบก็ดิ้นรน

ต่อสู้กันต่อไป

        แต่ใช่ว่า ทุกคน จะโชคดีไปกันหมด เพราะธรรมชาติสร้างมา

หรือลิขิตให้เพียง 30 อีก 70 ต้องฝ่าฟันเอา

        นั้น คือ ผู้หญิงที่จะเกิดมาสวยนั้น อาจไม่ใช่ทุกคน มีประมาณ

ร้อยละ 30 ที่สวยโดดเด่น ร้อยละ 20-30 สวยแบบกลาง ๆ อีก

ร้อยละ 20 ก็สวยพอไปวัดไปวา มีคนพูดกันอย่างนั้น

        สมัยพุทธกาล มีการกล่าวกันว่า ผู้หญิงสวย หรืองามแบบ

เบญจกัลยาณี คือผมงาม ผมยาวตกไหล่อุปมาดังหางนกยูง เมื่อสยายออกทิ้งตัวลงมาถึงชายผ้า 
เนื้องาม คือมีริมฝีปากแดงเหมือนลูกตำลึงสุก ริมฝีปากบางเรียบสนิทดี ฟันงาม คือฟันขาวเหมือนสังข์
และเรียบเสมอเหมือนเพชรเรียง ผิวงาม คือมีผิวขาวเนียนงาม ถ้าผิวดำก็ดำสม่ำเสมอเหมือนดอกอุบล 
ถ้าขาวก็ขาวเหมือนกลีบดอกกรรณิการ์ และมีวัยงาม คือเธอจะสวยงามทุกวัย แม้คลอดบุตรมาแล้ว
หลายครั้งก็ยังดูสาวพริ้งสวยงามอยู่นั้นเอง

        กล่าวกันว่า ความสวยงามของผู้หญิงทางเรือนกายนี้แหละ

เป็นจุดตาย หรือสร้างความสยบให้กับชายทั่วไปต้องหลงใหล

คลั่งไคล้ ใจปรารถนา และพ่ายแพ่ไปในเบื้องต้น จึงมักพูดกันว่า ผู้หญิงมีเรือนกาย
เป็นทรัพย์ตามที่กล่าวแล้ว

 

       แต่ถ้าหญิงใดเพียบพร้อมไปด้วยงามกาย งามใจแล้วยิ่งสุดยอด

ของหญิง ที่เรียกว่า “กุลสตรี”

       นอกจากนี้แล้ว มีคำกล่าวกันว่า

       เสื้อผ้าอาภรณ์ ทำให้ผู้หญิงงาม

       ทักษะความรู้ความสามารถทำให้หญิงเพิ่มเสน่ห์

       แต่กิริยาความประพฤติ จะทำให้ผู้หญิงเลอเลิศ

       อย่างไรก็ตาม ตามหลักธรรม มีการกล่าวกันว่า

        ความสวย ความหล่อ แค่เพียงทำให้สะดุดตา แต่ความดีจะทำให้สะดุดใจ

       ความสวยความงามปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่ามี ๔ ชั้น หรือ ๔ ระดับ คือ

       งามชั้นนอกสุด เรียกว่า “ งามอาภรณ์ ”

       งามชั้นถัดมา เรียกว่า “ งามกาย ”

       งามชั้นถัดมา เรียกว่า “ งามกิริยามารยาท ” และสุดท้าย

       งามชั้นในสุด เรียกว่า “ งามใจ ”

       งามเสื้อผ้า งามกาย เพียงแค่สะดุดตา แต่งามกิริยา มรรยาท

หรือความประพฤติจะทำให้สะดุดใจ

       ท่านจึงกล่าวว่า ความงาม ทั้ง ๔ ชั้น ดังกล่าวนั้น งามอันดับที่ ๔ สำคัญที่สุด 
และเป็นชั้นที่เสแสร้งให้แนบเนียนได้ยากที่สุด เพราะ วัน เวลา จะ เป็นตัวพิสูจน์ว่า เขาคนนั้น 
งามใจหรือไม่ ส่วน

ความงามที่เหลือนั้น สามารถเสแสร้ง แกล้งแต่งได้ เช่น พวกเรา

คงจะได้เห็นได้ยินได้ฟังมาบ้างแล้วว่าคนแต่งตัวสุดโก้หรู แต่เป็นโจร เป็นนักตักต้มตุ๋นก็มี 
บางคน รูปร่างหน้าสวยหล่อ แต่เป็นอาชญากรของสังคมก็มี และบางคน กิริยามารยาท แสน 
จะ เรียบร้อย แต่ว่า ในที่สุดก็เผยโฉมหน้าที่แท้จริงให้ได้เห็นแล้ว่า นั่น คือ เป็นแค่

การเสแสร้ง แกล้งทำ เท่านั้นเองเพื่อผลประโยชน์ อะไรบางอย่างที่ เขาต้องการ ตรงกันข้ามกับ
ความงาม ที่เรียกว่า งามใจ อาจ เสแสร้ง ใจดีในเบื้องต้น แต่ถ้าสันดานแท้จริงเขาเป็นคนไม่ดี สักวันหนึ่ง

ความจริงนั้นก็จะเผยธาตุแท้ออกมาให้เห็น ดังนั้น งามใจ จึงจัดเป็น ความงามที่ทรงคุณค่ามากที่สุด 
แต่ความงามที่เหลืออีกสามชั้น ก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับมนุษย์ธรรมดาอย่างเรา จำเป็นต้องสร้าง 
ต้องทำให้มีขึ้นมาดังคำว่าไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง

          งามเสื้อผ้าอาภรณ์ ต้องใส่ใจตกแต่ง แต่งามกาย ไม่ได้หมายความถึงการมีเพียง
รูปร่างหน้าตาหล่อหรือหน้าตาสะสวยเท่านั้น แต่หมายถึงความสะอาดสวยงามด้วย

         ในบรรดางาม ทั้ง ๔ ชั้นนั้น ความงามชั้นนอกสามประการ ไม่จีรังยั่งยืน อย่างมาก 
ก็เพียงแค่สะดุดตา แต่ความงามทางใจ จะสามารถสร้างเสน่ห์ สร้างความสะดุดใจแก่ผู้ได้พบเห็น
ได้นานแสน เช่น คนที่มอบไมตรีแก่กันและกัน ไมตรี ที่ออกมาจาก ใจ ที่เปี่ยมด้วยคุณธรรม 
น้ำมิตร ย่อมเป็น ไมตรี ที่แท้จริง และ ดำรงอยู่ได้ ยั่งยืนยาวนานมากกว่าไมตรีที่ออกมาจาก
การเพียงหวังผลประโยชน์ เคลือบแฝงอยู่ภายในใจเท่านั้น

          ฉะนั้น พระพุทธศาสนาจึงมีหลักคำสอนธรรมอันทำให้งาม ๒ อย่าง คือ ขันติ 
ความอดทน และโสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม

         ความอดทน จะบ่งบอกให้เรางามไม่วู่วามโกรธง่าย และ

สงบเสงี่ยมเจียมตนอยู่เสมอ

         ความงามทางกาย จะงามเพียงระยะสั้น ๆ เพราะสภาพ

สังขารตกอยู่ในความไม่คงทน มีแก่ เจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดา

แต่ความงามทางจิตใจจะทำให้อยู่กันได้ไปตราบนานแสนนาน

          โดยเฉพาะชีวิตคู่สมรักสมรส จะต้องมีความงามด้านจิตใจ

มีสัจจะ จริงใจซื่อสัตย์ต่อกัน มีทมะ สามารถข่มจิตข่มใจไว้ได้เวลา

อารมณ์ไม่ดี ไม่แสดงอาการโมโหวู่วามโกรธง่ายออกมาให้เห็น ทำตน

ฉลาดทางอารมณ์ และเฉียงคมทางปัญญา ขันติ ความอดทน มีความอึดความทนสูง 
และมีจาคะ คือสามารถเสียสละและให้อภัยแก่กันและกันได้ ชีวิตไม่สุดโต่ง 
ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เท่านั้นจะเป็นอย่างอื่นไม่ได้ การให้อภัยแก่กันและกันคือหัวใจ
ของชีวิตคู่หรือชีวิตสมรส

 

บทสรุป

      ความสวย ความหล่อ สามารถเพียงทำให้แค่สะดุดตา  แต่

ความงามภายใน คืองามใจ จะทำให้สะดุดใจ งามใจ คือผู้ละชั่ว

ทำความดี และทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใสอยู่เสมอ ฉลาดทางอารมณ์

และเฉียบคมทางปัญญา ถือว่าเป็นความงามที่ยั่งยืน การจะอยู่ร่วมกันได้จนตลอดรอดฝั่ง
เพราะงามใจนี้แหละสำคัญดังคำที่กล่าวไว้ข้างต้นว่า “ความสวยความหล่อไม่จีรัง 
แต่ความดีนั้นยั่งยืน” นั้นเอง....

 

 

 

 

 

--------------------

 

 

 

 


 

หมายเลขบันทึก: 702556เขียนเมื่อ 6 พฤษภาคม 2022 02:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 พฤษภาคม 2022 02:26 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท