GotoKnow

ความสำคัญของการใคร่ครวญสะท้อนคิดในปฏิบัติการวิชาชีพ

Prof. Vicharn Panich
เขียนเมื่อ 18 เมษายน 2565 16:59 น. ()

 

    วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๕ ผมเช้าฟังการประชุมเตรียมการจัดการประชุมวิชาการ GIPEC 2022 (9-11 พฤศจิกายน 2565) ของการศึกษาวิชาชีพสุขภาพ  ที่มี ศ. นพ. พงษ์ศักดิ์ วรรณไกรโรจน์ เป็นประธาน   ในการประชุมมีการพูดถึง reflective account practice (RAP) เป็นคำที่ผมไม่เคยได้เห็นหรือได้ยินมาก่อน   จึงค้นดู พบว่ามี Guidance Sheet Reflective Practiceของ Nursing & Midwifery Council แห่งสหราชอาณาจักร   ที่บ่งชี้ว่าการสะท้อนคิด (reflection) ต้องเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการวิชาชีพ 

    กล่าวใหม่ว่านักศึกษาระดับอุดมศึกษาต้องทำกิจกรรมสะท้อนคิดเป็น   หรือจริงๆ แล้วต้องฝึกจนทำเป็นนิสัย  เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน  และผมขอเพิ่มเติมว่าเป็นส่วนหนึ่งของการดำรงชีวิตด้วย 

     ในเว็บไซต์ดังกล่าว ระบุว่าในกระบวนการต่ออายุ (revalidation) ใบประกอบวิชาชีพ ต้องมีหลักฐานการเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน และหลักฐานอย่างหนึ่งคือเอกสารการสะท้อนคิด (reflective account) 

     สภาการพยาบาลของสหราชอาณาจักร กำหนดให้พยาบาลจับคู่กับผู้เชี่ยวชาญในรายชื่อของสภาการพยาบาล ทำ reflective discussion แล้วบันทึกข้อเรียนรู้ที่เรียกว่า reflective account   โดยเขาบอกว่า เป็นการส่งเสริมวัฒนธรรม แลกเปลี่ยน (sharing)  สะท้อนคิด (reflection)  และปรับปรุง (improvement)   โดยระบุเป้าหมายของกระบวนการ ๔ ข้อ คือ (๑) พยาบาลได้อภิปรายการพัฒนาตนเองเชิงวิชาชีพกับผู้เชี่ยวชาญ  (๒) คำนึงถึงมาตรฐานและข้อกำหนดของสภาฯ ต่อปฏิบัติการวิชาชีพและการพัฒนาตนเอง  (๓) ช่วยให้ไม่ทำงานวิชาชีพอย่างโดดเดี่ยว  (๔) เปิดโอกาสให้ได้ฝึกตอบสนองเชิงบวกต่อคำแนะนำป้อนกลับ ประสบการณ์ และการเรียนรู้ 

    เท่ากับสภาการพยาบาลของสหราชอาณาจักรใช้ RAP เป็นเครื่องมือของกระบวนการ CPD (continuing professional development)  คือช่วยให้คนในวิชาชีพพยาบาลมีการเรียนรู้ต่อเนื่อง   

    เรื่องนี้มองได้สองมุม คือมุมบังคับ กับมุมส่งเสริม

    มุมบังคับ กลไกนี้บังคับโดยข้อบังคับให้พยาบาลต้องต่อใบประกอบวิชาชีพ  ตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อคุ้มครองประชาชนทั่วไปว่าจะไม่ได้รับอันตรายจากพยาบาลที่มีสมรรถนะล้าหลัง 

     มุมส่งเสริม กลไกนี้ช่วยเอื้อและสนับสนุนให้พยาบาลมีวิธีเรียนรู้จากการปฏิบัติงาน ผ่านกระบวนการใคร่ครวญสะท้อนคิด  แถมยังมีรายชื่อคู่สะท้อนคิดให้เลือก ช่วยให้บริการคู่สะท้อนคิดฟรี   ไม่คิดค่าตอบแทน 

     ในมุมมองของผม กลไกนี้อยู่ภายใต้ความเชื่อหรือสมมติฐาน ๒ ข้อ 

        1. คนในวิชาชีพเห็นคุณค่าหรือประโยชน์ของกระบวนการนี้ต่อตนเอง   และต่อสังคมที่ตนทำงานรับใช้  และเชื่อในพลังการเรียนรู้ผ่านการใคร่ครวญสะท้อนคิดจากการปฏิบัติ มากกว่าการเข้ารับการอบรม 

        2. ผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการ RAP มีความซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา    ไม่ฮั้วกัน เพียงเพื่อให้มีเอกสารหลักฐานไปต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ   

     มองจากมุมประเทศไทย  นี่เป็นตัวอย่างของวิธีการธำรงคุณภาพสูงของวิชาชีพ ธำรงศักดิ์ศรีของวิชาชีพ  และเป็นตัวอย่างของวิธีส่งเสริมให้นักวิชาชีพมุ่งเรียนรู้ต่อเนื่องจากการทำงาน โดยมี การใคร่ครวญสะท้อนคิด (reflection) เป็นเครื่องมือ   แถมยังมีกลไกคู่ร่วมสะท้อนคิดให้     ทุกวิชาชีเอาแนวทางนี้ปใช้ด้ท้งิ้น วมท้งวิชาชีคู

วิจารณ์ พานิช

๕ มี.ค. ๖๕

 

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ


ความเห็น

ในประเทศไทย พยาบาลต้องมีการอบรมต่อเนื่องค่ะเพื่อจะได้ต่อใบประกอบวิชาชีพทุก 5 ปีค่ะ


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย