ความขัดแย้งมีได้...แต่เราไม่เก็บเอาไว้นานนะ
Text : kapoom Photo : kapoom
..........................................................................................
บรรยากาศ
วันนี้...บรรยากาศในการทำงานเป็นไปแบบสบายๆ...อากาศกำลังอบอุ่น ความรู้สึกของคนทำงานนั้นก็เตรียมการต้อนรับการหยุดยาว และเทศกาลปีใหม่... -------------> ดิฉันมาถึงที่ทำงานค่อนข้างสาย เพราะแวะเอารถไปจอดล้างที่ร้านคาร์แคร์เจ้าประจำ เพราะพี่เจ้าของร้านบอกว่าจะหยุดยาวในช่วงปีใหม่... สภาพรถก็ไม่ได้มอมแมมมาก..แต่ก็อยากทำความสะอาดให้เขาดูดีหน่อย ... รถที่ใช้อยู่นี้ใช้มานานและรู้สึกรักมาก เพราะเป็นรถที่พ่อซื้อให้..ก่อนพ่อเสีย และมีช่วงหนึ่งก็ใช้รถแจ๊ส..แต่ก็ขับไม่สนุกเท่าคันเดิมนี้ ดร.หนุ่ย (วรวัฒน์) ก็เลยบอกว่าเอารถแจ๊สไปให้พี่สาว(ดร.ไก่)ใช้...ที่ กทม. ดีกว่า
ดิฉันถึงที่ทำงานพร้อมน้ำผลไม้ปั่นที่นำมาแบ่งปันเพื่อนร่วมงาน... บรรยากาศดี ทักทายพี่หน่อยน้อย และน้องหนุ่ย(สุภาพร) จากนั้นก็นั่งเอ่อระเหยที่โต๊ะทำงาน...พี่เขียวมานั่งคุยด้วยสบาย สบาย สักพักพี่หน่อยใหญ่ก็เข้ามาคุยเรื่องงานกับน้องหนุ่ย คุยกันอีท่าไหนก็ไม่ทราบ...เสียงดัง..และดูท่าจะไม่เข้าใจกัน ดิฉันมองหน้ากันกับพี่เขียว ก็เลยย้าย... ไปนั่งในส่วนหน้าของ office และเรารู้สึกว่า..."ลดกระแสความรุนแรง..แห่งความขัดแย้ง"...แต่บรรยากาศก็ค่อนข้างรู้สึกตึงๆ อยู่บ้าง แต่นั่น ... ก็เกิดไม่นานสักพัก ทุกอย่างก็เข้าสู่สภาวะการณ์ปกติ...
---------------> ทุกอย่าง..เป็นเรื่องของการสื่อสาร การสื่อสารบางครั้งจำเป็นต้องระมัดระวัง เพราะอาจนำไปสู่การเกิดความขัดแย้งที่ไม่เข้าใจกันได้...และอาจเพิ่มระดับความรุนแรงกันได้ หากเราประคองใจ และอารมณ์สักนิด สิ่งที่ทำท่าจะขัดแย้งรุนแรงก็อาจจะลดลงได้...ผ่อนหนักเป็นเบา...แต่ที่คนทำงานต่างลดไม่ได้ ก็เพราะเรายึดบางสิ่งบางอย่างมากเกินไป มากจนลืมที่จะมองดูถึงความละมุนละไมในชีวิต และท้ายที่สุดเราก็จะเกิดความขุ่นมัว...ในอารมณ์ ในความคิด และสิ่งที่ตามมา คือ บรรยากาศในการทำงานที่ไม่มีความสุข เพราะเราหมกมุ่นอยู่แต่ความไม่พอใจ ความขุ่นมัวใจ และความรู้สึกที่อยากจะควบคุมกันและกัน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราเกิดความรู้สึกขัดแย้ง...กันได้
........................................
อภัย..และเมตตา
มักช่วยทำให้ทุกอย่าง...เบาลงได้
ความขัดแย้ง...ที่อาจมองดูรุนแรง..ก็ลดน้อยลงได้...และมองเข้าไปในเรื่อง ปราศจากอารมณ์ ความรู้สึกนึดคิดที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ..น้อมใจลงและฟังกันมากขึ้น มองลึกลงไปให้เข้าใจ ในใจของอีกฝ่าย ว่า...เป็นอย่างไร...คิดอย่างไร มองดูอย่างเข้าใจ..และเราก็จะเข้าใจว่า..."อ้อ...คนนี้เป็นเช่นนี้นี่เอง"...และลองถอดใจไม่เอา..สิ่งที่เราอยากควบคุมไปควบคุมเขา...ถึงแม้เขาอยากจะมาควบคุมเราก็ตาม...แต่เรามองให้เห็นถึงความจริง...ใจเราก็จะนิ่งขึ้น เข้าใจในเรื่องมากขึ้น แล้วความไม่พอใจหรือความขัดแย้งก็จะไม่เกิดขึ้น...
แต่โดยส่วนใหญ่...เราไม่พยายามที่จะทำความเข้าใจในเรื่อง...เรามักอยากจะให้เรื่อง หรือคนอื่นมาเข้าใจเรา แต่เราเองนี่สิที่ไม่ยอมเข้าใจในข้างใน...ของเรา...
..........................................................................................
บรรยากาศที่ผ่านไป
อย่างไรก็ตาม...บรรยากาศยามบ่ายก็ละไมไปได้ตามสไตล์คนจิตเวช...
นั่งจิบกาแฟ คุยกันยามว่าง...และรับ case ที่มาบำบัดตามนัด...ตามหน้าที่ไป
และพี่หน่อยใหญ่..ก็มีขนมเค้กจากร้านญาติมาฝาก..เป็นของขวัญปีใหญ่...ให้กับทุกคน
เวลาที่เราขุ่นมัว...เส้นผมบังตา..มองอะไรก็ไม่ละมุล...หลายครั้งพบว่า...คนที่มองอยู่..มักคิดได้แต่คนที่ตกอยู่ในเหตุการณ์...มองไม่เห็นตน..
สวัสดีคะพี่จิ๊บ...
ขุ่นน่ะ...ขุ่นได้..แต่ขอให้รู้ตัวและรู้ทันนะคะ...ว่า "อ้อ...นี่เรากำลังขุ่นมัวอยู่นะ...และลองให้แต้มตัวเองดูนะคะว่า...เราขุ่นมัวระดับไหน เช่น เต็มสิบคะแนน เราขุ่นกี่คะแนน...เช่น อ้อ..ตอนนี้เราขุ่นสิบคะแนน สักพักก็ลองสังเกตตนเองใหม่นะคะ...ว่าลดลงหรือเปล่า"...
และที่สำคัญ...หากเมื่อรู้ตัวแล้ว...ก็อย่าให้ขุ่นไปมากกว่าเดิม...
....
อย่างเช่น เราคนจิตเวช..เวลาที่เราเกิดอารมณ์เชิงลบเกิดขึ้น...เราก็จะบอกว่า...อ้อ...ตอนนี้เรา EQ ต่ำจังเลย...การที่เรารู้ตัวนี้..มันทำให้เราตามทันสภาวะแห่งจิตคะ...
(^____^)
เดี๋ยวจะแวะไปดูน้องแปมแสดงก่อนนะคะ
กะปุ๋ม
สวัสดีคะ..พี่แป๊ด..
ขอบคุณนะคะ..ที่มาช่วยเติมเต็ม..ต่อยอดในประเด็น...สิ่งสำคัญ..คือ ..เรามีวิธีลดความขัดแย้งนั้นได้อย่างไร..เพื่อให้บรรยากาศในการทำงาน..กลับเข้าสู่สภาวะปกติเร็วที่สุด...
...
ซึ่งที่จิตเวชเรา...มักมีเรื่องการแสดงความคิดเห็นที่หนักๆ..กันบ่อยครั้ง...แต่ก็พยายามที่จะ..คลายบรรยากาศให้เร็วที่สุด..เพื่อเน้นความสุขในการทำงานมากกว่าคะ...
(^_____^)
กะปุ๋ม
ขอให้อย่าทะเลาะกันอีกเลย
ขอนะค่ะ !!!!!!!!!! ฮื้อ ฮื้อ