เรา..มักหลอกตนเอง...เสมอ
Text : kapoom Photo : kapoom & web painaima.com
.....................................................
เราเคยสังเกตตนเองไหมว่า...เราโกรธหรือไม่พอใจ...ที่เราทราบว่า "มีใครบางคน" หลอกเรา..
-------------> การหลอกนั้นมีหลากหลาย...วิธีการหลอก หลอกให้หลง หลอกให้รัก หลอกให้ตายใจ...หลอกให้เชื่อ เชื่ออย่างสนิทใจ ... เชื่อในสิ่งที่เขาพูด เชื่อในสิ่งที่เขากระทำ ...แต่พอเวลาผ่านไป เรารู้ว่าสิ่งที่เราคิด หรือสิ่งที่เราเชื่อนั้น..."กลับไม่ใช่"...อย่างที่เขาบอก อย่างที่เขาพูด...อย่างที่เขากระทำ และเราก็จะรู้สึกโกรธ ต่อบุคคล หรือเหตุการณ์...ที่ทำให้เรารู้สึกว่าถูกหลอก...
หากแต่..เมื่อพิจารณาแล้ว..."อ้อ..จริงๆ แล้วไม่ได้ถูกคนอื่นหลอกหรอก...เราต่างหากที่หลอกตัวเอง...หากเราไม่หลอกตัวเอง เราก็จะมองเห็นความจริงตั้งแต่แรก...หากแต่ปัญญาเรามันเอียงไป หรืออาจทึบไป เกินกว่าที่จะพิจารณา เหตุแห่งความเป็นจริงได้...หากเราไม่หลอกตัวเรา..เราก็จะสามารถพิจารณาได้ว่า สิ่งที่บุคคลพูด กระทำนั้นเป็นจริงมาก น้อยเพียงไร...และความจริงเป็นเช่นไร..."
คือความเข้าใจ
หากเราเข้าใจได้เช่นนี้...เราก็จะหลุดจากการผูกกรรม..หรือการกระทำทั้งกาย วาจา ใจจากบุคคลนั้น...หากเรามัวแต่รู้สึกโกรธ...เกลียด ไม่พอใจ...ก็จะเกิดเป็นเรื่อง "ต่อ"...อารมณ์แห่งความผูกใจเจ็บต่อกัน...
.....
เรื่องนี้..ดิฉันเกิดการปิ๊งแว๊ป...เข้าโดยบังเอิญเมื่อได้ไปอ่านเจอ..."คำถาม"...ของสตรีท่านหนึ่ง..ที่ฝากถึงบุรุษชายท่านหนึ่ง..ถึงรอยแห่งอารมณ์ที่ผูกกัน ไม่ขาดจากกัน และเป็นการต่อยอดแห่งกรรม ซึ่งก็คือ การกระทำ...ที่ผ่านออกมาจากใจ ความรู้สึกนึกคิด.. ถึงได้ไม่หลุดออกไปจากกัน...
ทำให้นึกย้อน..ไปถึงเรื่อง "การหลอกตนเอง"...
ในปัจจุบัน เราพบว่า "คน"...ทุกวันนี้มีอาการหลอกตนเองมากขึ้น...หลอกตนไปตาม Ideal-Self นั่นก็คือ สิ่งที่ตนคิดอยากเป็น เช่น มองว่าเราเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ตามจิตนาการที่นึก ...โดยไม่สอดคล้องตาม Real-self หรือความเป็นจริงของเรา และพบว่า คนเริ่มมีอาการนี้มากขึ้น ด้วยเหตุปัจจัยหลายอย่างที่ถูกสภาวะ...แวดล้อม..แรงเหวี่ยงของสภาวะให้เกิด ให้เป็นไป...
ดังนั้น...มองไปทางไหน เราจึงพบแต่คนที่ทุกข์... มีแต่ความทุกข์..มีแต่ความโกรธ...มีแต่ความโมโห...มีแต่ความไม่พอใจ...มีแต่ความเศร้า รันทดใจ ก็เพราะเขาเหล่านี้ ไม่ได้มองอะไรตามสภาพจริงเลย..สภาพแห่งความเป็นจริง ว่า "อ้อ...เราเป็นเช่นนี้นะ ความเป็นจริงเราก็แค่นี้เองนะ..."
ถ้าเห็นสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง เข้าใจความเป็นจริงนั้นคือสิ่งที่พุทธศาสนาเรียกว่าปัญญา เมื่อใดที่สามารถฝึกตัวเองให้มองอะไรตามจริงได้ โดยไม่ให้เกิดอารมณ์ต่อสิ่งนั้นก่อนก็จะทำให้เราปฏิบัติต่อสิ่งนั้นได้ถูกต้อง พูดง่ายแต่ทำยากครับ
สวัสดีคะ...คุณหมอสาโรจน์...
กำลังจะเข้านอน..แต่ทันได้มาเห็นความเห็นที่ท่านทิ้งรอยไว้...
...
"สิ่งดีดี...หาได้มาง่ายไม่"...บางสิ่งบางอย่างเราต้องฝึกฝนไปจนชั่วชีวิต...บางอย่างก็อาจใช้เวลาไม่นาน...แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ล้วนแล้วขึ้นอยู่กับความเพียร...และมุ่งมั่น ศรัทธาในความเชื่อในสิ่งที่ดีงาม...
....
บางครั้งบางครา..เราอาจท้อ...แต่เมื่อเราท้อ...เราหยุด เราก็เพลี่ยงพร้ำ..ต่อทาสแห่งอารมณ์ และความรู้สึก นึกคิดภายใน ... ที่เรามักเฝ้าเวียนปรุงแต่ง...หรือที่ว่ามัน "แซ่บ...เหลือเกิน"...แซบ..(อร่อย)...แต่ทรมาณแต่คนเราก็ยัง...อยากแซบ...จึงเป็นแซบแบบที่ทั้งทุกข์ทั้งแซบ...เราจึงยังวนๆ..อยู่อย่างที่เป็นอยู่อย่างนี้...
...
ปวดหัว นอน ไม่หลับ เครียด ทุกข์...ก็ไปหาหมอ..และก็ได้รับยาคลายเครียด...ดี..ชั่วคราว กลับเป็นอีก...ก็วนไปหาหมออีก...ชีวิตจึงวนๆ เวียนๆ...ไปตามวัฏจักรแห่งชีวิตที่ไม่เคยได้เลือกสิ่งดีดี...ให้แก่ตน...
....
และที่สำคัญ...ไม่มีอะไรได้มาอย่างง่ายดาย...หากไม่พยายาม...
(^_______^)
ขอบคุณนะคะที่แวะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้
กะปุ๋ม
สวัสดีคะ..พี่หนิง...
ขำขำ..เลยคะ...
กำลังตอบความเห็นคุณหมอสาโรจน์...ตีพิมพ์เสร็จมาเจอความเห็นพี่หนิง...ขำก๊ากเลยคะ...น่ารักมาก...
....
กะปุ๋มก็เป็นบ่อยคะ...อาการหลอกตนเอง...จึงพยายามฝึกและฝน...ให้ลับคมละเอียด...และพาตนเองออกมาจากการหลอกตนเองคะ...
...
อิอิ...อยากรู้มั๊ยคะว่า..หลอกตนเองเรื่องอะไร...
(^_____^)
มักหลอกตนเองคะ...ว่าหน้าเด็ก...555....
อารมณ์ขำขำ..ยามดึกคะ...
ไปนอนก่อนนะคะ....
Y__*
กะปุ๋ม
คนเหมือนสิ่งชีวิตทั่วๆไปที่เกิดมาก็เหมือนกับผ้าขาวที่ยังไม่แปดเปื้อน นานวันเข้าผ้าขาวเริ่มหมอง ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
เมื่อเอาไปเทียบกับคนอื่นที่ดีกว่า เริ่มเกิดอาการน้อยใจ เสียใจที่ไม่เหมือนเดิม เกิดความทุกข์ขึ้น ทำไมไม่เป็นอย่างเขานะ
หากเราคิดได้ว่า"ดีกว่า?แล้วไง เราเองก็ยังอยู่นี่?ไม่ได้หลุดออกจากสารบบเสียหน่อย เกิดความทุกข์แล้วทำให้เรารู้สึกดีขึ้นไหม" เราก็จะไม่เกิดการเปรียบเทียบที่ด้อยค่า
คุณเป็นอะไร ไม่สำคัญเท่า คุณทำอะไรลงไป
เพราะ"คุณ"คือสิ่งที่คุณทำ
เจริญพร จ้า
เข้ามาอ่านนะ อ่านๆ ไปก็คิดถึงตัวเองว่า เอ่...เรากะลังหลอกตัวเองอยู่หรือเปล่า (5 5 5)
อันที่จริง การหลอกตัวเอง น่าจะเป็นสิ่งที่เราต้องการให้เป็น ซึ่งสิ่งที่เราต้องการให้เป็นนี้ อาจเป็นโลกในอุดมคติ หรือตัวเองในอุดมคติ ..ประมาณนั้น
เคยอ่านแนวคิดนักจิตวิทยาฝรั่งมาคนหนึ่ง รู้สึกว่า นายมอเรอร์หรือไงนี้แหละไม่ค่อยแน่ใจ เค้าแบ่งการมองตัวเองไว้ ๓ ระดับ คือ ตัวเองที่เราเข้าใจ ตัวเองตามความเป็นจริง และ ตัวเองที่เราต้องการจะให้เป็น (อุดมคติ)
ประเด็นที่ที่ค่อนข้างสับสน ก็คือ ตัวเองที่เราเข้าใจ นี้แหละ เพราะบางคนอาจเข้าใจตัวเองใกล้เคียงกับความเป็นจริง บางคนก็อาจเข้าใจห่างไกลออกไป
ฝรั่งนายนี้บอกว่า ถ้าเราเข้าใจตัวเองใกล้เคียงกับตัวเองตามความเป็นจริงเพียงใด โอกาสที่เราจะเข้าใกล้หรือเข้าถึงตัวเองที่เราต้องให้เป็นก็จะมีมากขึ้นเพียงนั้น
ถามว่า ผู้หลอกตัวเอง คือ ผู้ที่เข้าใจตัวเองห่างไกลจากตัวเองตามความเป็นจริง หรือผู้ไม่ยอมรับตัวเองตามความเป็นจริง 5 5 5
เจริญพร
ขอสวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าก่อนแล้วกันนะ..กะปุ๋ม
ปีใหม่จะไม่อยู่หลายวันค่ะไปปลีกวิเวกอยู่กับตัวเองสักสองสามวันที่ต่างจังหวัด
"ขอให้กะปุ๋มและครอบครัวมีความสุขมากๆค่ะ"
จากบันทึกสามสี่บันทึกที่ผ่านมาของกะปุ๋มหลายอันตรงกับใจหรือสิ่งที่ตัวเองก็กำลังคิดหรือเผชิญอยู่...การมีเวลาคิดทบทวนและใจที่นิ่งเพียงพอจะทำให้เราเห็นอะไรบางอย่างที่เมื่อก่อนเราอาจจะพยายามกดหรือเก็บไว้..อ่านแล้วได้ข้อคิดหรือแนวทางบางอย่างที่คงจะต้องฝึกหัดตัวเองเพิ่มเติมอีก..ปล.กะปุ๋มตอนนี้ใฝ่ธรรมะน่าดูเลยนะ
คุณทรัพย์ศิริคะ...
ขอบคุณมากนะคะที่มาต่อเติม...แนวคิดดีแห่งการแบ่งปันในทัศนะดังกล่าว....ดิฉันชอบที่คุณพูดจัง...ที่ว่า...
คุณเป็นอะไร ไม่สำคัญเท่า คุณทำอะไรลงไป
เพราะ"คุณ"คือสิ่งที่คุณทำ
.....
ขอบคุณนะคะที่มาแลกเปลี่ยน
(^_____^)
กะปุ๋ม
สวัสดีคะพี่ขวัญ...
กะปุ๋มใช้เวลาตรงนี้มานาน...นานแบบไม่ค่อยรู้ และตอนนี้มีหลายเรื่องที่รู้สึกว่าตกผลึก และก้าวหน้าในตนเอง...และคิดว่าพอนำมาแบ่งปันกันได้...อยากบันทึกเก็บไว้...เพื่อเป้นประโยชน์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง..
ซึ่งการเรียนรู้ของกะปุ๋ม...มักเรียนจากชีวิตของตนเอง..ภายในตนเอง...ตอนนี้โตมากขึ้น เกิดความเข้าใจมากขึ้น...ใน"ชีวิตและมนุษย์"...ความเข้าใจมากขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะเลยคะ...
....
ปีใหม่นี้...เป็นแรงใจให้นะคะ..ฝากกราบสวัสดีปีใหม่คุณแม่ด้วยนะคะ...
อนุโมทนาในความดี...ที่พึงคิดจะทำนะคะ...
(ขออนุญาตใช้ภาษาธรรมนะคะ...)
(^_____________^)
กะปุ๋ม
มาเยี่ยม...ใกล้ปีใหม่
เห็นจริงตามเสนอ...ครับ
อ่านแล้วผมเกิดมุมคิดเรื่องเงาของจิต...การหลอกเหมือนเงา...ไม่ใช่ตัวจริง...แต่เงาของจิตก็ทำให้เรามีจินตนาการไปได้หลายอย่างนะครับ...
ขอบคุณครับ
นมัสการพระคุณเจ้า....
ขอบคุณนะคะ...ที่ท่านกรุณามาต่อเติม..ให้
สุดยอดของจิตวิทยา...คือ พุทธศาสนา...
ขอบคุณคะ...
(^_____^)
กะปุ๋ม
สวัสดีคะท่านอาจารย์ umi
กะปุ๋มชอบคำนี้มากเลยคะ..."เงาของจิต"...ที่มักวิ่งตามและหลอกหลอนให้เราหลง..ไปได้เสมอเลยคะ...หากเรารู้ไม่ทัน...เราก็ตกเป็นทาสของเงานี้...ไป...อย่างที่ไม่รู้ความจริง...ที่แท้จริง...
(^____^)
ขอบคุณนะคะที่แวะมา..
ขอให้อาจารย์และครอบครัวมีความสุขในปีใหม่นี้นะคะ...
กะปุ๋ม
แวะมาทักทายสาวน้อย..................มหัศจรรย์
พี่หรอย
สวัสดีคะ...พี่หรอย..
เงียบหายไปเลยนะคะ...เห็นทีมไตรภาคีฯไปร่วมงานมหกรรม KM แห่งชาติในวันที่ 1-2 ธันวาคมที่ผ่าน ...แต่ไม่เห็นมีพี่หรอยกับน้องโบว์ไปร่วมด้วยเลยคะ...ตกลงตอนนี้ไม่ได้ทำหน้าที่คุณลิขิตให้ทีมแล้วเหรอคะ....
(^______^)
ปีใหม่นี้ขอให้พี่หรอยและครอบครัวมีความสุขนะคะ...
กะปุ๋ม
สวัสดียามเช้านะคะ..พี่แอ๊ด..
อากาศเย็นอย่าลืมใส่เสื้อหนาๆ...และจิบกาแฟอุ่นๆ นะคะ..
....
(^_____^)
ขอบคุณนะคะที่แวะมา...
กะปุ๋ม
เมื่อหลายวันก่อนเพิ่งมีเหตุการณ์ที่รู้สึกถูกหักอก แต่เมื่อเรียกสติกลับมา และใช้ปัญญาไตร่ตรอง ที่แท้ เราก็อกหัก เพราะ หลอกตัวเอง
อ่านบันทึกนี้ แล้วยิ่งทำให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
เห็นหัวข้อแล้วสงสัย จึงแวะเข้ามาอ่าน
เอ...การหลอกกัน การหลอกตัวเอง มักเกิดกับการที่คนสองคนต้องการให้อีกฝ่ายสนใจตนเท่านั้นรึเปล่าน้า
นั่งนึกๆๆ เพราะความรัก ทุกคนอยากได้ อยากมี จึงต้องหลอกกันหรือเปล่านะ
คิดๆๆ คิดเรื่องคนอื่นๆ ก็ปวด Head คิดเรื่องตัวเองดีกว่า เราเคยหลอกตัวเองรึเปล่าน้า
ตอนนี้กำลังหลอกตัวเองว่า "เป็นคนไม่สวย แล้วยังผิวดำแทนขาวอีกตะหาก" อย่างงี้ต้องเลิกหลอกตัวเองได้แล้วเนอะ ฮ่าฮ่า
^_____^
สวัสดีปีใหม่คะ..อ.หมอปารมี
สติมา..ปัญญาเกิดคะ..
กะปุ๋มเพิ่งนั่งอ่าน.."วิธีบรรลุธรรม"..ของหลวงปู่มั่น..เมื่อสักครู่นี้เองคะ
ทำให้เข้าใจเรื่อง..การหลอกตนเอง...มากยิ่งขึ้นคะ
ขอบคุณอาจารย์นะคะ..ที่แวะมาทักทายคะ
(^_____^)
สวัสดีปีใหม่คะ..ที่นี่อีกครั้งนะคะแนน..
หากรู้ตัวว่า ได้"หลอกตน"..นั้นแล้ว..ย่อมดีแล้วนะ..
เมื่อรู้ว่าเรากำลังหลอกตัวเรา...เราก็ต้องให้ตัวเราได้รู้ความจริง..
ด้วยนะคะ...ว่า "อ้อ...ความจริงนั้นเป็นเช่นนี้เอง"...
(^_____^)