งานทำบุญครบรอบสิบปีแอร์พอร์ตเรลลิ้ง เราได้รับมรดกผ้าไหมแพรวาจากคุณแม่เป็นผืนที่สวยงามมากผืนหนึ่ง งานนี้เป็นงานแรกที่เราแต่งผ้าไหม ครั้งแรกตั้งใจจะใช้ชุดเดิมๆที่มีอยู่แล้ว แต่ด้วยการปรารภให้ได้ยินกันทั้งบ้านในวันอาทิตย์ที่กำลังช่วยกันทำความสะอาดบ้าน พี่สาวก็พูดให้ได้คิดว่า ทำไมจะต้องไปซื้อของใหม่ ในเมื่อผ้าไหม ผ้าไทย ของแม่มีมากมายลองไปค้นดูสิ ทันใดนั้น เราก็นึกออกทันทีว่าเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่เราย้ายคุณแม่มาพักรักษาตัวที่กทม. เราเองเป็นคนไปขนผ้าเหล่านี้มาด้วยตัวเอง ใช่แล้ว นึกออกแล้ว ดีใจมากค่ะที่เจอผ้าแพรวาผืนนี้ เป็นผ้าใหม่พร้อมตัดเป็นชุดทั้งเสื้อและผ้าถุง หรือ กระโปรง หรือเป็นdress สีทองงดงามมาก สีตรงกับธีมของงานคือ ฟ้าหรือทอง หลังเสร็จงานบ้านเราจึงไปหาซื้อเสื้อที่matching กับผ้าผืนนี้ และตั้งใจให้แล้วเสร็จภายใน ๒ วัน เพื่อให้ทันใช้งานในวันอังคารที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ลำดับแรกคือ จ้างให้ช่างเย็บชายผ้าให้เป็นผ้าถุง จากนั้นนำไปทาบกับเสื้อที่เราต้องการ ปรากฎวันอาทิตย์ได้เสื้อมา ๑ ตัว แต่ด้วยเหตุบางอย่างที่เราไม่รู้ เราต้องกลับไปหาเสื้อตัวใหม่อีกหนึ่งครั้งในคืนวันจันทร์และก็ได้มาจริงๆค่ะ คืนนั้น เรากลับมาค่อนข้างดึก เหลือคุณแม่นั่งอยู่ในห้องโถง รอเวลาขึ้นไปนอน เราจึงนำเสื้อไปลองใส่และด้วยแบบของเสื้อ จำเป็นต้องให้คุณแม่ช่วยรูดซิปให้ จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง ว่าแต่งตัวลูกสาว วินาทีที่คุณแม่รูดซิปให้ เราฉุกคิดว่าแต่งตัวคราวนี้เป็นครั้งแรกในรอบ๕๐ ปีที่คุณแม่ช่วยเราแต่งตัว เท่าที่จำความเราจะช่วยคุณแม่แต่งตัวมาตลอด เมื่อเราถามว่า เสื้อสวยไหม คุณแม่ตอบว่า โอ้โห เสื้อสวยมาก เข้ากับผ้าถุงพอดีทั้งสีและแบบ หญิงไปซื้อมาเหรอ นัยน์ตาของแม่เป็นประกาย ชื่นชมความงามของผ้า และสัมผัสได้ว่าแม่มีความสุขเมื่อได้แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสวยงาม แต่ด้วยราคา ความปื้มคงลดลงเราจึงไม่บอกเมื่อคุณแม่ถามถึวราคา ชุดนี้ผ่านไหมคะแม่ หญิงจะไปชิงรางวัลแต่งกายผ้าไทยสวยงาม คุณแม่ตอบว่า "ผ่าน" และในวันรุ่งขึ้น คุณแม่ก็ช่วยรูดซิปแต่งตัวให้ และให้กำลังใจว่า เออ เสื้อกับผ้าถุงเข้ากันได้ดี พอดีเลยนะ สวยงามดี น้ำเสียงมีความสุขมากที่ได้เห็นของสวยๆงามๆ ที่ห่างหายไปจากกิจวัตรประจำวันมากว่า 4 ปี หลังจากที่ย้ายจากปักษ์ใต้มาพักรักษาตัวที่บ้านลาดพร้าว แม่ชอบแต่งตัวและมีผ้าที่ซื้อสะสมไว้จำนวนหนึ่งที่รอการตัดแต่มาป่วยและย้ายมากทม. เสียก่อน ความรู้สึกนี้ที่ได้รับการช่วยแต่งตัวเป็นความปลื้มปิติที่เห็นแม่มีความสุขและเราเองก็มีความสุขด้วย คำประกาศิตของคุณแม่ ส่งลูกสาวไปรับรางวัลเป็นหน้ากากผ้าลิมิเต็ด เป็นผ้าไหมสีฟ้าปักอัตตลักษณ์รถไฟฟ้า จำยนวนจำกัดตามภาพค่ะ ขอบคุณค่ะ บันทึกเมื่อ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ นภัสราพร เด่นพงศ์พันธุ์
ไม่มีความเห็น