“หมา(อยู่)วัด เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลชนะเลิศประเภทนวนิยายสำหรับเยาวชน รางวัลแว่นแก้วปี ๒๕๕๑ อีกทั้งยังเป็นหนังสือที่เข้าประกวดโครงการสรรหาตำราดีเด่นด้านทรัพยากรมนุษย์ ปี ๒๕๕๒ อีกด้วย ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้นำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาสอดแทรกให้เข้ากับเนื้อหาของเรื่องได้”
หมา(อยู่)วัด เป็นหนังสือที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ
ประเภทนวนิยายสำหรับเยาวชน รางวัลแว่นแก้ว ปี ๒๕๕๑
อีกทั้งยังเป็นหนังสือที่เข้าประกวดโครงการสรรหาตำราดีเด่น
ด้านทรัพยากรมนุษย์ ปี ๒๕๕๒ อีกด้วยหนังสือที่ผู้เขียน
โสมประภัสร์ ขันธ์สุวรรณ ตั้งใจอยากใช้เป็นสื่อในการ
เผยแพร่ความรู้ ชีวิตหมาวัดกับ “หมา (อยู่) วัด” เล่าเรื่องในมุม
มองของ “หมาวัด” เรื่องเป็นแนวน่ารัก ใสซื่อ และได้อารมณ์
สนุกสนาน แฝงสาระและคุณค่าของพุทธปรัชญา ช่วยกล่อม
เกลาความรู้สึกนึกคิดของคนโดยมีแก่นเรื่องเกี่ยวกับความดี
และความรักอันบริสุทธิ์
เป็นนวนิยายที่แฝงไว้ด้วยคติธรรมความรู้เกี่ยวกับ
พุทธศาสนา ผ่านการเล่าเรื่องของ “เจ้าทองเทา”
หมาวัดที่ใช้ชีวิตเติบโต กินนอนอยู่หลังกำแพงวัด นับตั้งแต่
วันที่มันถูกนำมาทิ้งข้างประตูวัด ตอนยังลืมตาไม่ได้
ด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นโชคดีของมันที่หลวงตาแฉ่งรับมันมา
อุปการะเป็นหมาในสังกัดและอยู่รวมกับหมาวัดอีกกว่า
ร้อยชีวิต
สำหรับเรื่อง “หมา(อยู่)วัด” ไม่เพียงแต่จะบอก
เล่าเนื้อหาด้วยลีลาภาษาที่เรียบง่ายและงดงามเท่านั้น
แต่ยังจะตราตรึงใจผู้อ่านด้วยบทสะเทือนใจและแฝงไว้
ด้วยคุณค่าของพุทธปรัชญาอีกมากมาย ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่ง
ที่ช่วยกล่อมเกลาความรู้สึกนึกคิดให้เกิดความดีทั้งสิ้น
หมา(อยู่)วัด เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุนัขตัวหนึ่ง
ชื่อทองเทาเป็นสุนัขที่ถูกนำมาทิ้งที่วัดตั้งแต่เล็ก วัดที่มันอยู่
มีสุนัขอาศัยอยู่มาก “ทองเทา” ตั้งโดยหลวงตาแฉ่งพระแก่
ร่างเล็กใจบุญที่ชุบเลี้ยงทองเทาและสุนัขหลายตัวไว้ทุกเช้า
หลวงตาจะมาเดินตรวจสุนัขทุกตัว ทองเทาเติบโตขึ้นมาภาย
ใต้ร่มเงาของพระพุทธศาสนา มันคิดอยู่เสมอว่าเป็นความโชค
ดีของตนอย่างที่สุด ถึงแม้จะเป็นสุนัขแต่ก็ภูมิใจในชาติกำเนิด
ของตน ถ้ามันเลือกเกิดได้ก็จะเกิดเป็นคนและเป็นเพศชาย
ไทยเพราะอยากบวชเป็นพระเหมือนหลวงตาแฉ่ง
หลวงตาแฉ่งเป็นคนที่มอบชีวิตใหม่กับมันและยังเป็น
พระที่ไม่เรียกร้องเงินจากผู้ใด มีความเมตตาไม่เคยปฏิเสธคน
ที่เดือดร้อน แม้กระทั่งหมาวัดทุกตัว
วันหนึ่งหลวงตาแฉ่งอาพาธหนักจนต้องมีคนพาส่ง
ที่โรงพยาบาล เมื่อมันรู้ข่าวก็ไม่เป็นอันกินอันนอนหลายวัน
เอาแต่นอนหมอบอยู่กับที่พร้อมกับน้ำที่ไหลผ่านม่านตาทุกวัน
จนกระทั่งหลายวันผ่านไป ขณะที่มันนอนอยู่ก็มีแสงสว่างส่อง
ทะลุผ่านม่านตา มันลืมตาขึ้นพร้อมพร้อมกับแสงที่อยู่ตรง
หน้าเห็นหลวงตามันดีใจมาก พอรุ่งเช้ามันตื่นขึ้นมากลับไม่
เห็นหลวงตา จึงรีบออกตามหาจนมาถึงศาลาสวดศพ มันเดิน
เข้าไปถึงได้รู้ว่าหลวงตามรณภาพแล้ว
หมา(อยู่)วัด เป็นวรรณกรรมแนวธรรมมะ แต่เป็น
ธรรมมะแนวใหม่คือไม่ได้มุ่งที่จะสอนหลักธรรมคำสอน
โดยตรง แต่จะสื่อออกมาโดยผ่านการกระทำหรือเหตุการณ์
ที่เกิดขึ้นกับตัวละครสอดแทรกไว้ตลอดทั้งเรื่อง กล่าวได้ว่า
ผู้เขียนมีกลวิธีที่จะสอนธรรมะให้แก่ ผู้อ่านได้อย่างแนบเนียน
โดยนำเรื่องใกล้ตัวและเหตุการณ์ใกล้ตัว ในที่นี้คือ “หมา”
กับ “วัด” แล้วสร้างให้หมาวัดมีความคิดและมุมมองเหมือน
กับคน เหมือนผู้อ่านได้รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ จากการได้พูดคุย
กับหมารู้เรื่อง แสดงให้เห็นว่าผู้เขียนมีจินตนาการและความ
สร้างสรรค์ในการคิด คือไม่อยู่ในกรอบหรือความจริงเกินไป
เพราะความคิดนั้นสามารถสร้างสรรค์อะไรก็ได้ที่ไม่มีข้อบังคับ
อาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ หากผู้อ่านได้อ่านก็จะสามารถรับรู้
ถึงมุมมอง ความคิด และความสร้างสรรค์ในการคิดของผู้เขียน
ที่ถ่ายทอดผ่านตัวเนื้องานวรรณกรรมได้
หมา(อยู่)วัด นับว่าเป็นหนังสือนวนิยายอีกหนึ่งเล่ม
ที่ทุกคนควรอ่าน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ดำเนินอย่างเป็นลำดับ
ขั้นตอน ซึ่งทำให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และยังช่วยทำให้เยาวชนแล
เห็นถึงความสำคัญและความสัมพันธ์ระหว่าง “วัด” “หมา”
และ “คน” ในสังคมไทย โดยผ่านวรรณกรรมเยาวชนเล่มนี้
ทั้งนี้จากเรื่องราวทั้งหมดของนวนิยายเรื่องนี้ครบ
ถ้วนทั้งสาระและแนวคิดที่ผู้อ่านจะต้องประทับใจอย่างไม่รู้ลืม
อ้างอิงรูปภาพ https://www.google.com/search?...
ไม่มีความเห็น