๑,๑๒๖ หูตั้ง...อยู่บ้าน..หยุดเชื้อ..เพื่อตัวเอง


" ผมไม่อิจฉาเจ้าหูตั้งแต่อย่างใด เพราะถือว่าทางใครทางมัน..ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ มันวิกฤติสุดที่จะบรรยาย ใครจะทำอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขก็ทำไป.."

        ผมคงไม่ต้องแนะนำตัวให้หมาหน้าตาดีของผมอีกแล้ว เพราะมันเป็นพระเอกของบ้านและเป็นตัวเอกในหลายเรื่องราว..ที่ผมเคยพูดถึงมาก่อนหน้านี้

    ตอนนี้...มันเป็นหนุ่มใหญ่ และดูจะมีความมั่นใจไม่ใช่น้อย และที่สำคัญนับวันมันจะยิ่งรู้งานมากขึ้น รู้งาน..มิได้หมายความว่าขยัน แต่มันเริ่มจะหนักไม่เอาเบาไม่สู้เสียแล้ว..

        วันก่อนงูเลื้อยผ่านหน้า เจ้าหูตั้งมันยืนดูเฉย ไม่รู้สึกเดือดเนื้อร้อนใจ ตอนสายๆก็ไปวิ่งเล่นไล่จับกับกระรอกกระแต จะเห่าเสียงดังฟังชัดต่อเมื่อเจอคนงานชาวพม่าเท่านั้น

        ช่วงนี้เจ้าหูตั้งทำตัวเป็นหนุ่มโสด ไม่ยอมไปจีบสาวที่ไหน บางวันแฟนเก่าก็เดินมาจะพูดคุยด้วย แต่เจ้าหูตั้งรีบวิ่งเข้าบ้านไม่ยอมออกไปทักทาย เหมือนมันพอจะรู้อะไรบางสิ่งบางอย่าง

        หรือเป็นเพราะค่ำวันนั้น..มันวิ่งขึ้นบันได ไปนอนหมอบอยู่ข้างประตู นอนฟังข่าวในทีวีภาคค่ำที่ผมเปิดติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของ “โควิด ๑๙”

        ผมไม่แน่ใจว่าเจ้าหูตั้งมันจะเข้าใจและรู้เรื่องเคอร์ฟิวหรือเปล่า..แต่ที่แน่ๆมันได้ยินนักข่าวและโฆษณาพูดถึงถ้อยคำที่สำคัญที่สุดในเวลานี้

        “อยู่บ้าน...หยุดเชื้อ..เพื่อชาติ”

        มิน่าล่ะ..มันถึงอยากอยู่ติดบ้านได้นานมากขึ้น ดูจะผิดธรรมชาติของเจ้าหูตั้ง แต่มันคงจะเลือกแล้ว ว่าการออกไปสุงสิงกับใครต่อใครนอกบ้าน มันสุ่มเสี่ยงมิใช่น้อย...

        แต่ผมทำอย่างเจ้าหูตั้งไม่ได้ ทำให้มันมองผมเหมือนจะตำหนิ ที่ไม่ปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาล มันจึงไม่พูดกับผมมาหลายวันแล้ว สีหน้ามันบึ้งตึง ออกอาการงอนๆ หรือว่ามันเป็นห่วงผม..กลัวผมออกนอกบ้านแล้วกลับเอาเชื้อโควิดเข้ามาในบ้าน..

        ก็คงเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่าใครก็รักตัวเองก่อน อยู่บ้านก็ถือว่าปลอดภัย หยุดเชื้อในชุมชนไม่ให้แพร่กระจาย..หากใครดูแลตัวเองไม่ให้เจ็บป่วย ก็ถือว่าได้ช่วยชาติแล้ว...

        ผมไม่มีเวลาอธิบายให้เจ้าหูตั้งมันเข้าใจ..ตื่นขึ้นมาผมก็รีบเข้าไปในสวนเพื่อรดน้ำต้นไม้ บางวันก็ใส่ปุ๋ยพรวนดิน เสร็จแล้วผมก็รีบทานข้าวมื้อเช้าก่อนไปโรงเรียน..

        โรงเรียน..เหมือนเป็นบ้านหลังที่สองของผม..ซึ่งใช้เวลาขับรถ ๑๕ นาที ผมไม่แวะที่ไหนเลย ขับตรงไปถึงโรงเรียนด้วยระยะทาง ๑๐ กิโลเมตร

        ถ้าเจ้าหูตั้งได้เห็นโรงเรียน มันจะรักเหมือนที่ผมรัก เพราะโรงเรียนหรือบ้านหลังนี้มีความสะอาดร่มรื่น อากาศถ่ายเทและปลอดโปร่ง แม้จะร้อนอบอ้าวบ้าง ผมก็พอทนได้

        การได้มาโรงเรียนก็เท่ากับได้รักษาความปลอดภัยของสถานที่ราชการ และได้พักผ่อนหย่อนใจ ด้วยการทำงานเล็กๆน้อยๆพอให้ได้เพลิดเพลินเจริญใจไปวันๆ

        ไม่เหมือนเจ้าหูตั้ง มันกลัวโควิดและห่วงตัวเอง..จนแทบจะไม่ได้ทำอะไร กินกับนอน บางวันก็นอนทับต้นไม้ที่ผมปลูก และขุดหลุมเพื่อซุกตัวลงไปในดินที่ชื้นและฉ่ำเย็น

        ผมไม่อิจฉาเจ้าหูตั้งแต่อย่างใด เพราะถือว่าทางใครทางมัน..ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ มันวิกฤติสุดที่จะบรรยาย ใครจะทำอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งความสุขก็ทำไป..

        แต่ต้องไม่ทำตัวเองหรือให้ใครต้องเดือดเนื้อร้อนใจ แม้ว่าตัวเองจะต้องเดือดร้อนแต่เพียงลำพัง..แต่คนรอบข้างก็อยู่ยาก..โควิด๑๙..สร้างความลำบากไปทุกหย่อมหญ้า...

        ขอบใจนะเจ้าหูตั้ง..ที่ช่วยอยู่บ้านเพื่อหยุดเชื้อ และหวังว่าเจ้าจะเข้าใจ..การไปทำงานที่โรงเรียนก็ช่วยหยุดเชื้อได้เช่นเดียวกัน..และได้ใส่หน้ากากอนามัยทั้งวันด้วย..

        เจ้าหูตั้งไม่ยอมใส่...อยากรู้นัก..เจ้าประมาทเกินไปหรือเปล่า..?

ชยันต์  เพชรศรีจันทร์

๙  เมษายน  ๒๕๖๓




       

         

หมายเลขบันทึก: 676809เขียนเมื่อ 9 เมษายน 2020 23:17 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 เมษายน 2020 23:17 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท