Laos 2019 : เคียมของ

[1]

"เฮ็ดเวียก"

ได้งานนิดหน่อย ที่เหลือนั่งแช่อ่านหนังสือ

วันนี้วันเสาร์ ว่าจะนั่งรถออกไปบ้านนอก แต่ก็เมื่อยเกินที่จะออกไป เลยเลือกที่จะนั่งทำงานต่อ แต่ก็ไม่ได้เนื้องานเท่าที่ควร 

มีหลายคนสนใจ

ในวิถีการเก็บข้อมูลเชิงคุณภาพ

ถามไถ่เข้ามาว่า "ทำอย่างไร"

อุปนิสัยส่วนตัวรวมกับเทคนิคที่มี ก็จะมีเป้าหมายในใจ ใช้การสังเกต พูดคุยถามไถ่ไปเรื่อยๆ แบบชวนคุย พร้อมกับสังเกตข้อมูลที่ได้มา "เป็นธรรมชาติเนียนๆ"

จากนั้นนำมาเทียบเคียงกับหนังสือ ตำรา 

ส่งให้ผู้เชี่ยวชาญดู และแลกเปลี่ยนมุมมอง ความคิดเห็นในชุดข้อมูลที่ได้มา

และค่อนขยับเคลื่อนปรับการเรียนรู้ใหม่หากยังได้ข้อมูลไม่ครบถ้วน

ส่วนตัวไม่ค่อยตั้งเป็นท่าเท่าไหร่

ฝังตัวอยู่ในพื้นที่ไปเรื่อยๆ 

ถ้าต้องการเชิงลึกค่อยนำรูปแบบที่เป็นทางการมาใช้

...

[2]

ระหว่างเดิน...

เจอคนขายเม็ดบัว เนื้อแน่น หวานกรอบ

นั่งคุยกันสักพัก...

เธอมีที่นา อยู่หลักกิโลที่สี่ ส่วนหนึ่งทำนา อีกส่วนหนึ่งปลูกบัว ให้ดอกงาม และเก็บฝักบัวมาแกะเม็ดวางขาย แถมท้ายอีกว่า "บ่ใซ่สารเคมีคือไทย"

อืม...

[3]

นักศึกษาลาวกำลังสอนภาษาลาวให้กับนักศึกษามาจากเมืองจีน

ที่นี่มีจีน เวียดนาม เกาหลี...และไทย

เธอเล่าให้ฟังว่า เธอพูดภาษาอังกฤษ เยอรมัน จีน และลาวได้

เป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก

เมื่อหันกลับมาดูนักศึกษาไทยเรา ยังต้องเรียนรู้และฝึกฝนอีกเยอะเลย

บรรยากาศในมหาวิทยาลัยก็จะมีนักศึกษา ป.โท

ส่วน ป.ตรี จะเจอกันในวันจันทร์ถึงวันศุกร์

...

[4]

งาม...

การเดินทำให้มองเห็นความงาม

[5]

“มีแต่ซิ้นหมูเด่ะ ซิ้นเนื้อเหมิดแล้ว”

...”ได่...”

สักพัก

มาถ้วยขนาดนี้

“คือให้หลายแถ่...”

“ย่านบ่อิ่ม กินให้อิ่มเด้อ แฮงโตน้อย”

และแล้วก็ไม่หมด

นี่คือแง่งามแห่งความเป็นมนุษย์ที่พึงมีต่อกัน

[6]

I am independent researcher in Laos.

หลายคนกำลังสนใจและติดตาม

เรื่องราว การเข้ามาทำงานในประเทศลาว

การงานคือ เกี่ยวข้องกับการวิจัยและการจัดการความรู้ (Research and Knowledge management)

ไม่ใช่เจ้าของโครงการวิจัย

แต่เป็นผู้ช่วย หรือจะเรียกว่า อาสาสมัครก็ได้ อาจารย์ผู้ใหญ่ที่เคารพและคุ้นเคยท่านเอ่ยชวนหลายครั้ง ด้วยความที่ส่วนตัวมีพื้นความรู้ทางการศึกษา จิตวิทยา และด้านสุขภาพ น่าจะทำได้พอสมควร และพื้นเพเป็นคนอีสานเข้าออกลาวมานาน

ตกปากรับคำ

และตัดสินใจเมื่อต้นเดือนนี่เอง

การทำงานเช่นนี้สนุกทำให้หวนนึกไปถึงสมัยเรียน ป.เอก (Psychology of Counseling) ตลอด 4-5 ปีที่เคยเป็นผู้ช่วยและเป็น sub-contract งานวิจัยเล็กจากงานวิจัยใหญ่ ทำให้ไม่ต้องวุ่นวายกับผู้คนมาก นอกจากพื้นที่และผู้คนที่ลงไปคลุกคลีเก็บข้อมูลด้วย

สิ่งที่ได้เพิ่มเติมจากองค์ความรู้ที่ได้มาจากการศึกษาในระบบ คือ ความรู้ทางด้านสังคมวิทยาและมนุษยวิทยา ที่อาจารย์ท่านเมตตาสอนให้ผ่านประสบการณ์และการลงพื้นที่จริง 

จากนั้นก็เพลาๆ งานลักษณะนี้ลง เพราะไปลงเรียนปริญญาเอกอีกสาขาทางด้านEducation of Teachnology และเริ่มร่วมขับเคลื่อนงาน R2R ประเทศไทย 

การกลับมาทำงานในลักษณะเช่นนี้อีกครั้งแบบเต็มตัว

ทำให้ชีวิตมีพลัง และมีการเคลื่อนไหวที่เป็นอิสระ

ไม่ต้องผูกพันกับคนหรือองค์กร 

แตกต่างจากการขับเคลื่อนงาน R2R ที่ต้องใช้พลังเยอะมาก

และใช้เรื่องการออกแบบการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการความรู้ทางด้านการวิจัยและการเรียนรู้เข้ามาเกี่ยวข้อง อีกทั้งได้ฝึกฝนทักษะหัวใจแห่งความเป็นครูให้งอกเงยในจิตใจของตนเอง

แต่ก็มีความสุขและมีพลังเสมอกับการทำงานทั้งในสองลักษณะนี้

*ความตั้งใจส่วนลึกๆ ...คือ การโปรยแนวคิด R2R สู่พื้นที่แห่งนี้ด้วย

ก็เริ่มพูดคุยกับเพื่อนที่มาเป็นอาจารย์ที่นี่บ้างแล้ว

การเริ่มต้นแบบ informal นี่แหละซึมลึกที่สุด

[7]

“เคียมของ”

ไปนั่งเล่น ชมดาวเคียมของ อุณหภูมิ 14 องศา แต่แปลกใจว่าไม่หนาวมาก และวันนี้ไม่มีรายงานแผ่นดินไหวด้วย

“ชัดเจน”

วันนี้คำตอบงานวิจัยชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ความปลอดโปร่งใจเพิ่มทวีคูณ...ที่แผ่นดินลาวนี่มีสมาธิและใช้กระบวนการทางปัญญาได้ดีมาก 

งานวิจัยเชิงคุณภาพไม่เหมือนตัวเลขที่วิเคราะห์ชัดๆ เหมือนงานวิจัยเชิงปริมาณ ต้องอาศัยการรวบรวมข้อมูลจนอิ่มตัว มาตีความ วิเคราะห์ สังเคราะห์ และตีความ พร้อมให้ความหมายใหม่หรืออธิบายปรากฏการณ์ที่พบเจอ

สนุกและมีความสุข

ทักษะทางด้านการคิดเชิงระบบ (System thinking) และ การคิดเชื่อมโยงเป็นระบบ(Systematics thinking)ได้ถูกนำมาใช้อย่างสนุกสนานเบิกบานใจไปกับการเรียนรู้

Check:

http://www.earthquake.tmd.go.th/home.html

บันทึก

07-12-62