พลังสงบใจ
จากเพียงแค่ขนย้ายหนังสือว่ามีความสุขแล้ว การจัดหนังสือให้เรียบร้อยยิ่งมีความสุข และลงมือจัดอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ความสุขยิ่งทวีคูณ
สิ่งที่สัมผัสได้คือ พลังจิตวิญญาณที่มีอยู่ในหนังสือแต่ละเล่ม คล้ายเขามีชีวิต อบอุ่น คล้ายแสงสว่าง
จึงไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเวลาที่เรานั่งอยู่ท่ามกลางหนังสือ จะเพลินไปจนหลงลืมเวลาได้ ในหลายๆครั้ง สมัยเรียนชอบไปนั่งในห้องสมุด ทั้งวันก็อยู่ได้ หรือร้านหนังสือที่ให้โอกาสผู้ซื้อนั่งซึมซับหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า
กองทัพหนังสือมากมายที่อยู่ตรงหน้าเมื่อหลายเดือนก่อนอยู่นิ่งสงบ แต่เมื่อขยับจับวางไปนั่นโน่นนี่ ดูช่างมีความหมายแห่งความสุข คล้ายเห็นภาพนักเขียนแต่ละท่านที่จรดความคิดกลั่นออกมาในถ้อยคำอันมากมาย มีภาพแห่งเรื่องราวซ่อนอยู่ ฉันจึงมักบอกใครๆเสมอมาว่า “เวลาอ่านหนังสือชอบจับความคิดว่าผู้เขียนต้องการสื่อสารอะไรให้เราทราบ อารมณ์ความรู้สึกนึกคิดคาดหมายเดาได้ว่าอย่างไรบ้าง อ่านแล้วเราได้เรียนรู้อะไรเพิ่มพูนขึ้นบ้าง จากที่ไม่รู้แล้วรู้ หรือจากที่รู้อยู่แล้วมีสิ่งใหม่ที่รู้เพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงการรู้คิดใหม่อย่างไร”
การอ่านในลักษณะนี้จะทำให้เราเพลินใจ และน้อมกลับมาย้อนมองสภาวะภายในจิตใจของเราให้ได้ใคร่ครวญ
ดังนั้นสำหรับฉันหนังสือแต่ละเล่มจึงมีคุณค่าและมีความหมายมากมาย การเขียนหนังสือเสร็จหนึ่งเล่มไม่ได้ง่าย การเขียนหนึ่งเล่มให้ผู้อ่านเพลิดเพลินและจดจำก็ไม่ได้ง่าย กระบวนการทางปัญญาที่สะท้อนผ่านหนังสือจึงเป็นความงดงามทางปัญญาที่น่ามอบความเคารพต่อผู้เขียนหนังสือแต่ละเล่ม
วันนี้
ก็เพลินใจเช่นเดิม จับจัดวางหนังสือให้น่าอ่าน บ้านหนึ่งหลังไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์มากมาย มีเพียงแค่หนังสือก็ชวนทำให้บ้านหนึ่งหลังนี้มีชีวิตชีวาได้
ในแต่ละวันแวะเวียนมา นั่งลงและอ่านหนังสือ เชื่อมั๊ยคะว่า ความเมื่อยล้าที่มีมาจะมลายหายไป ส่วนตัวฉันเชื่อในเรื่อง Spiritual คลื่นจิตและพลังสมาธิมีมากในหนังสือ คนที่เขียนหนังสือได้จิตค่อนข้างนิ่งและต้องมีสมาธิในระดับหนึ่งมากกว่าคนทั่วไป ไม่อย่างนั้นเขียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ดังนั้นการนั่งอยู่ท่ามกลางสภาวะเช่นนี้จึงค่อนข้างทำให้จิตใจเราสงบลงเร็วไม่ต่างจากการนั่งอยู่ท่ามกลางพลังของธรรมชาติ
#เรื่องบ้านบ้าน
07-09-62
ห้องสมุดกว้างดีเลยครับ ;)…