เราเดินทางมาถึงสถานีปฏิบัติประชาสัมพันธ์สุดท้ายแล้วนะคะ
สถานีบันทึกนี้ โพสต์ในช่วงเวลาที่ฉันออกจากตำแหน่งหัวหน้างานแล้ว
งานสองปีสุดท้ายที่เหลือภายใต้การถือธงนำหน้าในงาน มีงานใหม่ๆ ผ่านเข้ามาให้เก็บเป็นประสบการณ์ และงานค้างเดิมที่ (คิดว่า)ทำแล้วเสร็จค่ะ
สรุปงานในปีงบประมาณ 2560-2561
เป็นโชคอำนวยจากที่เคยให้สัญญากับตัวเองไว้ว่าจะทำเรื่องดีๆ ให้กับหน่วยงานเล็กๆ เป็นเป้าหมายสุดท้ายก่อนพ้นวาระหัวหน้าทีมคือ การเสนอโครงสร้างใหม่เพื่อทำให้บุคลากรในงานมีความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน มากกว่าที่ทำในปัจจุบัน สิ่งดีดีที่หนุนนำให้งานเดินหน้าเร็วขึ้น คือนโยบายขององค์กร รอยเชื่อมต่อระหว่างแผนพัฒนาการศึกษาฯ ระยะที่ 11 (พ.ศ. 2555-2559) และระยะที่ 12 (พ.ศ. 2560-2564) เมื่อผู้นำองค์กรให้ความสำคัญกับระบบงานสื่อสารองค์กร จับวางเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลัก ผลักดัน การปฏิรูประบบงานประชาสัมพันธ์และการสร้าง Branding
การจัดกิจกรรมสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group Discussion)นอกจากการทำภารกิจเพื่อการประเมินผลความพึงพอใจโดยวิธีการปกติคือใช้แบบสอบถาม ปี 2560 เราให้เริ่มขยับการใช้เครื่องมืออื่น เพื่อสำรวจลึกดึงความคิดเห็นของกลุ่มเป้าหมายผู้รับข่าวสารที่มีทั้ง 8 กลุ่มเป้าหมาย กรณีการรับข่าวสารผ่านสื่อและช่องทางการการเผยแพร่ต่างๆ ที่มี ความคิดเห็นที่ได้จากผู้เข้าร่วมกิจกรรมสนทนากลุ่มย่อย (Focus Group Discussion) ทีมงานได้นำมาศึกษา วิเคราะห์หาแนวทางปรับปรุงพัฒนางาน ให้เกิดประสิทธิผลยิ่งขึ้น ซึ่งเราค้นพบจุดอ่อนรอการแก้ไขเร่งด่วนมีดังนี้
นับเป็นโจทย์การบ้านที่ทีมงานได้รับมาพัฒนาและปรับปรุงงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ ในรอบปีต่อจากวันที่เราร่วมกันจัดกิจกรรมดังกล่าว และทีมงานยังมีแผนที่จะจัดกิจกรรมโดยใช้เครื่องมือเชิงลึกต่อไปในอนาคต (อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง)
การประสานงานการผลิตรายการสารคดีกึ่งละครชุด “ธ สถิตมิ่งมั่นขวัญมช.” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนารถบพิตร โดยนำเสนอพระอัจฉริยภาพของพระองค์ท่านในด้านที่มีพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นที่มีต่อชาวล้านนาและชาวลูกช้างมช. 3 เรื่องราว ในด้านการถ่ายภาพ ด้านดนตรี และ ด้านการเกษตร ซึ่งพระองค์ทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย ตลอดระยะเวลาทรงงาน ทรงเป็นแบบอย่างและเป็นต้นแบบของการศึกษาและการพัฒนาจิตใจอย่างมีคุณภาพที่คู่ไปกับคุณธรรม โดยที่เนื้อหาในละครจะแทรกข้อมูลลําดับเรื่องราวในช่วงต่างๆ ที่พระองค์ท่านเสด็จมาทรงงาน, พระราชทานปริญญาบัตร, ทรงดนตรี ตลอดจนพระราชกรณียกิจ ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 จนกระทั่งทุกวันนี้ที่ลูกช้าง มช.ทุกคนก็ยังคงสานต่อตามรอยพระบาทในทุกๆ ด้าน
กลุ่มเป้าหมายการนำเสนอสารคดีกึ่งละคร ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายหลัก ประชาชนทั่วไป กลุ่มเป้าหมายรอง นักศึกษาเก่า และปัจจุบันของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ทั่วประเทศ โดยผลคาดว่าจะได้รับ คือ ศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันเกิดความภูมิใจในศักดิ์ศรีของลูกช้างมช. ที่มิเคยห่างไกลจากพระบาทไทยราชา มาตลอดเวลากว่าครึ่งศตวรรษ ผู้ชมทั่วไปได้รับทราบถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อชาวล้านนาและประชาชนภาคเหนือมากขึ้น และรู้สึกในความโชคดีที่ได้เกิดในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 และพร้อมใจกันที่จะสืบสานต่อยอด เดินตามคํา “พ่อ” สอนตลอดไป
ละครสั้นนำออกอากาศทาง PPTV HD 36 ในวันเสาร์ อาทิตย์ที่ 15,21,22 ตุลาคม 2560 และในสื่อออนไลน์ โดยเฉพาะ Line TV โดยมี English Subtitle ด้วย ( รับชมละครเฉลิมพระเกียรติผ่านช่องทาง CMU Channel ได้ที่นี่>>click)
นำเสนอโครงสร้างงานใหม่และการสร้าง Successors งานประชาสัมพันธ์ ฉันอาจจะทำงานแค่เสร็จ (ยังไม่สำเร็จ มีอีกหลายกระบวนการ) แต่ที่เห็นเป็นรูปเป็นร่างอยู่ในเดือนตุลาคม 2561 หลังจากใช้เวลามากกว่าหนึ่งปี เสาะแสวงหาข้อมูล พูดคุยกับเพื่อนร่วมวิชาชีพในสถาบันการศึกษาหลายๆ แห่งที่เติบโตออกนกระบบในเวลาใกล้เคียงกัน เช่น จุฬา มหิดล สงขลานครินทร์ ศรีนครินทรวิโรฒ นำมาศึกษาวิเคราะห์ อะไรที่เหมาะสมกับหน่วยงานของเรา จนในที่สุดมหาวิทยาลัยได้รับโครงการเสนอปรับปรุงไว้พิจารณาเพื่อการทบทวนโครงสร้างงาน จากงานประชาสัมพันธ์สู่การเป็นศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ (Corporate Communication & Alumni Relations Center- CCARC) โดยรวมภาระงานของศูนย์นักศึกษาเก่าสัมพันธ์มาไว้ด้วยกัน และในระหว่างที่รอผลการพิจารณา มหาวิทยาลัยเดินหน้าประกาศเป็นโครงการจัดตั้งศูนย์สื่อสารองค์กรฯ ดังกล่าว พร้อมกับการโยกย้ายคนมารวมกัน ซึ่งเมื่อไฟเขียวส่องสว่างตลอดเส้นทาง ภารกิจใหม่ที่เริ่มขึ้นก็คือการเตรียมทีมงานสื่อสารองค์กร เป็นกลุ่ม Talent PR ให้มีความพร้อมเข้าสู่ภารกิจใหม่ของศูนย์สื่อสารองค์กรและนักศึกษาเก่าสัมพันธ์ในอนาคต เพื่อการขับเคลื่อนงานสื่อสารองค์กรอย่างเป็นระบบ
หลังภารกิจการศึกษาเรื่องโครงสร้างงาน และเปลี่ยนระบบการปกครองของสายการบังคับบัญชา ผู้ใหญ่ใจดีก็ได้อนุญาตให้ฉันพ้นจากตำแหน่งหน้าที่หัวหน้างานอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม 2561 โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ยื่นเรื่องเสนอ บัดนี้ฉันหาทางออกให้กับจุดอ่อนที่ไม่มีวันแก้ไขได้เรื่องการครองคน แต่ด้วยความสุขที่รู้สึกถึงพร้อมกับการ “ทำสำเร็จ” ในเรื่องงาน เพื่อเข้าสู่วาระผู้ปฏิบัติงานใหม่ ในงานผู้ช่วยเหลือประสานให้แก่ Talent PR 4-5 คนให้ทำภารกิจด้านการสื่อสารองค์กร สื่อสารภาพลักษณ์ หน้าที่งานแปลกใหม่ฟังดูเหมือนแขวนเอาไว้เป็นวัฒนธรรมที่พบเห็นโดยทั่ว แต่คิดในมุมใหม่ก็คงจะน่าสนุก เพราะทีมงานใหม่ที่ว่านี้จะได้โอกาสเปิดโลกแห่งความคิด เปิดจินตนาการอันสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ส่วนตัวฉัน...ก็จะ “เป็นผู้ตาม” ที่ยังมีโอกาสการเรียนรู้ใหม่ไปพร้อมกับทีมงาน Talent PR นี้ แม้จะเหลือเวลาอีกไม่นานก็จะจากที่นี่ไปแล้ว
หากมองย้อนกลับไป 7 ปี สถานีปฏิบัติประชาสัมพันธ์ จากบทแรกถึงบทนี้ คือยุคการสื่อสารแบบเชิงรับมากกว่าจะเป็นเชิงรุก แต่กำลังจะเปลี่ยนแปลงและปรับใหม่ ตามแนวคิดการสื่อสาร Transformation สู่โลกของการทำงานท้าทายในรูปแบบใหม่ เพื่อการสื่อสารภาพลักษณ์ คงจะเป็นโลกของทีมงาน Talent PR กลุ่มที่ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ที่เราเรียกว่า Sandbox หรือกระบะทราย ที่นับวันนโยบายการบริหารจัดการใหม่ๆ นี้ กำลังจะแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่สำนักงานมหาวิทยาลัยของฉัน Talent PR ได้รับการเอ่ยถึงเป็นกลุ่มคนรุ่นแรกๆ ในองค์กรแห่งรั้วสีม่วง จะเหมือนหนูถูกทดลองยาหรือไม่ เด็กๆ ในทีม บวกกับเวลา จะพิสูจน์ให้เห็นค่ะ
(อ่านความรู้... รศ.ดร.วรากรณ์ สามโกเศศ กล่าวถึงเรื่อง>> sandbox <<click …ให้นัยยะของการสร้างนวัตกรรม การสร้างสรรค์ทางความคิด การสร้างเสริมประสิทธิภาพ การกล้าทดลองสิ่งใหม่ ฯลฯ ดังนั้นคำนี้จึงแพร่หลายอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดีบางครั้ง sandbox มีความหมายเพียงการกันออกมาเป็นพิเศษเพื่อศึกษาและพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น …)
ไม่มีความเห็น