ออกค่ายทำไม : ค่ายใหญ่ ปนน. 2561 ตอนที่ 1


บรรยากาศพิธีเปิดค่าย

วันเดินทาง พี่ ๆ นักศึกษากำลังลำเลียงสัมภาระขึ้นรถ

23 ธันวาคม  2561 ผมเดินทางไปร่วมเปิดค่ายของชมรมประสานงานนักศึกษาเพื่อน้องผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น (ชมรม ปนน.) เป็นค่ายช่วงปิดเทอมภาคต้น เราชาว ปนน. จะเรียกกันว่า “ค่ายใหญ่” เพราะค่ายเล็ก จะจัดระหว่างภาคเรียน ช่วงศุกร์เย็น เสาร์ และอาทิตย์ ส่วนชื่อค่ายก็แล้วแต่กรรมการค่ายจะเรียกเป็นทางการว่าอะไร แต่ละปียาวบ้าง สั้นบ้าง อย่างปีนี้ก็เรียก “ค่ายเติมแสงแห่งความฝัน จุดพลังไฟปัญญา” กำหนดจัดระหว่างวันที่ 21 – 28  ธันวาคม 2561 ณ โรงเรียนยางคำพิทยาคม อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น

ประธานค่ายชวนให้ไปร่วมพิธีเปิดค่ายในเช้าเก้าโมงวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม  นักศึกษาเดินทางไปเตรียมค่ายและจัดกิจกรรมร่วมกับชุมชน ตั้งแต่วันที่ 21 ธันวาคม แล้วจึงค่อยเปิดค่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนนักเรียนเดินทางมาร่วมค่ายในเช้าวันที่ 23  ได้รับรายงานว่ามีพี่ค่าย 75 คน นักเรียน 117 คน

...ทุก ๆ ปี ก่อนที่โลก IT จะมาเยือนพวกเราอย่างหนักหน่วง  เวลาออกค่าย เรื่องหนึ่งที่จะขาดเสียมิได้คือ “สมุดค่าย” เป็นสมุดประจำตัวของชาวค่าย (พี่ค่าย) เอาไว้ให้ชาวค่ายทั้งน้องและพี่เขียนถึงกันและกัน บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ หรือจดบันทึก กล่าวความรู้สึกต่อกัน...ปีนี้ไม่แน่ใจว่ามีหรือเปล่า เพราะโดยธรรมเนียม กรรมการค่ายจะเชื้อเชิญให้อาจารย์ที่ปรึกษาเขียน “สาร” แสดงความรู้สึกหรือฝากอุดมการณ์ปลุกจิตสำนึกชาวค่าย ปีนี้ไม่ได้รับทาบทาม

... คงมีนักศึกษาหลายคนที่ไม่เคยออกค่าย และค่ายนี้เป็นค่ายแรกในชีวิตนักศึกษา หลายคนจึงอาจตั้งคำถามว่า เราไปออกค่ายทำไม ค่ายคืออะไร มีอะไรที่ค่าย ทำไมคนที่เคยไปจึงหลงใหลและชื่นชอบ ...ไปออกค่ายทำไม กลับบ้านดีกว่าไหม อยู่หอก็ได้สบายดี นั่งนอนตากแอร์เย็น ๆ เล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลง สบายใจกว่าเยอะ

...ในท้ายพิธีเปิด หลังจากนายกเทศมนตรีกล่าวเปิดค่าย พิธีกรจึงได้เชิญกำนัน ผู้อำนวยการโรงเรียน และอาจารย์ที่ปรึกษาชมรม ได้กล่าวให้โอวาทและฝากข้อคิดถึงชาวค่าย ถือเป็นธรรมเนียมของ ปนน. ที่จะให้อาจารย์ที่ปรึกษากล่าว เสมือนหนึ่งเป็นแสงชี้ทางให้ชาวค่าย พี่นักศึกษาควรได้รับอุดมการณ์อย่างไรไว้เป็นเครื่องมือของคนค่ายอย่างมืออาชีพ ส่วนนักเรียนที่มาเป็นผู้รับ ควรจะต้อง “รับ” อย่างมีคุณค่าแก่ชีวิต  เพราะทุก ๆ ฝ่าย ก็ต่างลงทุน ทั้งทุนทรัพย์ ทุนปัญญา ทุนเวลา และทุนความคิด เพื่อหวังว่าค่ายจะเป็นเครื่องมือจุดประกายความฝันอันงามวาว

...ผมเล่าเรื่องตัวเองตอนเรียนชั้นมัธยมปลาย ว่าเรียนอยู่โรงเรียนที่ขาดโอกาส ไม่เคยมีค่ายแนะแนวไปที่โรงเรียน แม้แต่อินเตอร์เน็ตในสมัยนั้นก็ยังลำบากที่จะเข้าใช้ แต่ด้วยโอกาสจากพี่ ๆ โรงเรียนใหญ่ในอำเภอชวนเราไปร่วมกิจกรรมค่ายแนะแนวที่พี่ ๆ เขาจัด ก็เกิดประกายความคิดและแรงบันดาลใจ ทั้งได้ประสบการณ์และเทคนิคต่าง ๆ ในการเรียน และน่าจะมีส่วนทำให้ผมได้มาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น...แต่น้อง ๆ นักเรียนที่โรงเรียนยางคำพิทยาคม มีโอกาสอันดีที่พี่ ๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น นำพาค่ายมาให้ถึงที่โรงเรียน ก็อยากให้น้อง ๆ นักเรียนได้ตั้งใจเก็บเกี่ยวเอาประสบการณื เทคนิควิธีการจากพี่ ๆ นักศึกษาให้คุ้มค่ากับต้นทุนที่เสียไป ... ส่วนพี่ ๆ เอง ก็ขอให้เรียนรู้ให้มาก ช่วยกันทำงานเพื่อฝึกประสบการณ์การทำงานร่วมกันกับเพื่อน ๆ เพื่อช่วยกันวางแผน ลงมือทำ แก้ไขปัญหาอย่างปัญญาชน... ขอบคุณโรงเรียนและชุมชนที่ให้โอกาสชาวมหาวิทยาลัยขอนแก่น มาใช้สถานที่จัดกิจกรรม เพื่อให้นักศึกษาได้เรียนรู้โลกกว้าง  เพื่อให้เขาได้มีโลกกว้างทางความคิด แล้วมีพื้นฐานที่ดีที่มั่นคงสำหรับอนาคต และได้เรียนรู้การเสียสละ ให้เห็นเห็นความจริง ความดี ความงาม บนโลก

ติดตามอ่านได้ในตอนที่ 2 ครับ

ณ  มอดินแดง

24  ธันวาคม  2561

เสื้อค่ายสีหวานแหว๋ว มีคำขวัญชมรม "เป็นดั่งพี่น้อง เพื่อนผอง และกำลังใจ"

พี่ ๆ ศิษย์เก่า มาเยี่ยมค่าย ซื้อขนมและของใช้จำเป็นมาฝาก และอุดหนุนเสื้อค่าย

หมายเลขบันทึก: 658918เขียนเมื่อ 24 ธันวาคม 2018 14:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 24 ธันวาคม 2018 14:16 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท