หนังสือ Super Brains : Unleashing the Explosive Power of Your Mind to MaximizeHealth, Happiness and Spiritual Well-Being (2013) (1) เขียนโดย Rudolph E. Tanzi ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ผู้เชี่ยวชาญด้านพันธุศาสตร์เกี่ยวกับความชรา และ Deepak Chopra แพทย์สาขาอายุรศาสตร์และโรคต่อมไร้ท่อและเป็นอาจารย์ที่ Kellogg School of Management บอกว่า สมองมีความสามารถเจริญงอกงามได้มากกว่าที่เราคิด โดยมีเคล็ดลับง่ายๆ ในการกระตุ้นสมอง
สิ่งที่เขาแนะนำอันดับหนึ่งคือการปฏิบัติสมาธิภาวนา ทำเป็นประจำช่วยสร้างสมองที่มีพลังวิเศษ
สมองวิเศษเป็นธรรมชาติที่ซ่อนตัวอยู่ในมนุษย์ ใครปลดปล่อยพลังนี้ออกมาได้ก็จะมีชีวิตที่ดี
ความลับซ่อนอยู่ในกลไกการทำงานของสมอง ที่เรามีความรู้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ความรู้สำคัญคือ ใจกับกายทำงานร่วมกันกระตุ้นการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ในลักษณะของfeedbackloop การฝึกจิตระดับสูงช่วยให้จิตควบคุมกายได้มากกว่าที่เราคิด เขาบอกว่าพระทิเบตที่มีกระแสจิตแก่กล้าสามารถบริกรรมส่งกระแสจิตไปบังคับร่างกายให้ควบคุมอุณหภูมิกายให้อยู่ในระดับปกติในท่ามกลางอากาศเย็นอุณหภูมิใต้จุดเยือกแข็งได้
คนเป็น stroke ที่มีอาการอัมพาตสามารถฝึกสมองให้ส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังอวัยวะส่วนที่เป็นอัมพาตซ้ำๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะเกิดการกระตุ้นการฟื้นตัวของสมองส่วนที่เสียให้กลับคืนดีได้ วิธีทำก็ง่ายๆ เช่นอัมพาตที่แขน ให้ยกแก้วน้ำหรือสิ่งของซ้ำๆ หรือเขียนคำคำเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เคล็ดลับคือตั้งเป้าหมายให้สูง สมองจะถูกกระตุ้นสู่สมองวิเศษ
สมองมีการเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงตลอดชีวิต มีคนวิจัยพบว่าแต่ละวันเซลล์สมองของมนุษย์ตายไป ๘๕,๐๐๐ เซลล์ และมีการสร้างขึ้นใหม่ทดแทน มีคนวิจัยเปรียบเทียบจำนวนเซลล์สมองในคนอายุ๒๐ กับ ๗๐ ปี ผลคือมีจำนวนเท่า ๆ กัน
มีคนศึกษาสมองของนก Zebra finch พบว่าในช่วงสืบพันธุ์สมองนกเพิ่มจำนวนเซลล์ขึ้นมาก ควบคู่กับการฝึกร้องเพลงใหม่ๆสำหรับใช้หาคู่
การออกกำลังกาย ช่วยการเพิ่มพัฒนาการของสมอง เมื่อมีความท้าทายต่อสมอง เช่นการเรียนภาษาใหม่ การทำโจทย์คณิตศาสตร์สมองจะพัฒนาเพิ่มขึ้น
เพื่อพัฒนาสมองวิเศษจงเปิดใจรับรู้สภาพแวดล้อมรอบตัว เขาแนะนำให้ดูเด็กทารกเป็นตัวอย่าง มีบางคนแนะนำว่าให้เอาอย่างเด็กอนุบาล เรื่องนี้ปัญหาอยู่ที่ตัวเราเองที่มักปิดกั้นตนเอง
กินให้น้อยหรือกินอย่างมีสติ อย่าตามใจปาก เป็นการฝึกสมองไปในตัว
ฝึกปัญญาญาณ (intuition) ช่วยให้มีลางสังหรณ์รู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าได้ ผมแปลกใจมากที่ประเด็นนี้เขียนโดยนักวิทยาศาสตร์สมอง โดยเขายกตัวอย่างการทดลองด้วย ปัญญาญาณเป็นเรื่องของการใช้สมองแบบฉับพลันทันใดไม่คิด ในหลายกรณีสมองทำงานดีกว่าสมองคิด
อย่าทำงานเพื่อเงินหรือชื่อเสียง ให้ทำงานด้วยใจรัก ทำเพราะมีความสุข ความพึงพอใจ จะนำไปสู่ชีวิตที่มีความสุข และสมองดี
การปฏิบัติสมาธิภาวนาอย่างสม่ำเสมอไม่เพียงช่วยให้จิตสงบและสมองดีเท่านั้น ยังช่วยให้ร่างกายเป็นหนุ่มเป็นสาว (rejuvenate) หรือช่วยให้อายุยืนด้วย มีหลักฐานทางชีววิทยาว่าการทำสมาธิช่วยเพิ่มเอ็นไซม์ telomerase และทำให้เมื่ออายุมากขึ้น การหดสั้นของ telomere ช้าลง
นอกจากนั้นการทำเพื่อผู้อื่น การเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม (altruism)ช่วยให้คนเรามีสุขภาวะ แม้เพียงได้รับรู้เรื่องราวของการเสียสละเพื่อผู้อื่นก็มีผลบำรุงสมอง ระบบการศึกษาจึงควรจัดให้นักเรียนนักศึกษาได้ทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคม มีผลการวิจัยระระยาว ๕๐ ปียืนยันในนักเรียนระดับมัธยม ๑๐,๐๐๐ คน พบว่าคนที่ทำกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคมเป็นประจำมีชีวิตที่ดีกว่าและอายุยืนกว่า
“ความจริงเป็นมายา” (reality is illusion) หรือเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเองจากการรับรู้ของเรา ไม่ใช่ความจริงแท้ คนอื่นหรือสัตว์อื่น อาจเข้าใจสิ่งเดียวกันหรือเหตุการณ์เดียวกัน คนละแบบ นี่คือมหัศจรรย์ของสมอง
วิจารณ์ พานิช
๑๙ ธ.ค. ๖๑
ไม่มีความเห็น