การเป็นคนซื่อสัตย์ไม่ต้องใช้แรงกำลังความพยายามอะไรเลย แค่ใช้ใจที่ ‘จริง’ ทำอะไรไปตรงๆ ตาม ‘ความเป็นจริง’ อย่าปล่อยให้ความทะเยอทะยาน ความหวัง ความอยากได้อยากมีหรือความรู้สึกเสียดายมาทำลายความซื่อสัตย์ เพราะมันจะทำให้ใจเราคด ความคิดเราจ้องแต่จะกอบโกย ปากเราก็จะพูดแต่เรื่องปด สุดท้ายเราก็คือคนขี้โกงคนหนึ่งที่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม โดยใช้ช่องโหว่ที่มีอยู่เอารัดเอาเปรียบคนอื่น พอคิดหาทางหนีทีไล่ได้ก็ไม่สนใจว่ามันจะกระทบกับใครทั้งนั้น
โดยเฉพาะประโยคทำนองว่า ‘นิดๆ หน่อยเอง ไม่เป็นไรหรอก คนอื่นยังทำได้เลย ไม่เสียหายเท่าไรหรอก มันจำเป็น เราทำเพื่อสังคม’ แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เราก็กลัวว่า ถ้าเราทำด้วยความเคยชิน เราก็จะเสพติด ‘ความไม่ซื่อสัตย์’ ที่โกหกและเอารัดเอาเปรียบอยู่เป็นนิจ อนาคตชีวิตเราก็คงไม่สงบสุขไม่สบายใจเป็นแน่แท้ ถ้าจะสืบสาวหาสาเหตุว่าเพราะอะไร ก็คงเป็นใจเราที่ไม่เข้มแข็งพอ ที่ปล่อยให้ความชั่วครอบงำ ทำให้ความซื่อสัตย์ที่ว่าง่ายก็กลายเป็นเรื่องยากสำหรับเราไปเลย
ไม่มีความเห็น