บินไปบินมา
สิบกว่าปีแล้วที่ใช้ชีวิตบินไปบินมา บินทุกเดือนถือว่าบินเยอะ เคยบินจนแก้วหูทะลุมาแล้วและรับการรักษาที่ รพ สมเด็จ ณ ศรีราชา นานหลายเดือนจนแก้วหูปิดสนิท ในช่วงเวลานั้นก็ยังคงทำงานตลอด
ก็ตั้งคำถามกับตัวเองว่าจะบินไปอีกนานแค่ไหน เวลากลับถึงบ้านเหนื่อยมาก เคย review ดู ได้คำตอบคร่าวๆ กับตัวเองว่า “การนั่งเครื่องบินคือการพยายามที่จะนำตัวเองพุ่งขึ้นต้านแรงดึงดูดของโลก อาจมีผลต่อมวลกระดูก...”
“และความดันภายในห้องผู้โดยสารมีผลต่อการเกิดแรงดันในช่องหู...” จำไม่ได้ว่าอ่านเจอมาจากหนังสือเล่มไหน เพราะนานมากแล้ว เขาแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะๆ และออกกำลังกาย
ไม่อยากให้ร่างกายทรุดโทรมและป่วยเป็นภาระของใคร ตลอดสิบกว่าปีที่ผ่านมาจึงค่อนข้างดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
เย็นย่ำวันนี้มีบินอีกครั้ง
ลาพักร้อนสองวันไปร่วมให้กำลังใจพี่ๆน้องๆชาว รพ.ปทุมธานีในการประเมินการพัฒนาคุณภาพ PNC จาก สรพ. ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการประเมินเครือข่ายการดูแลเฉพาะโรคระดับจังหวัด ซึ่งจังหวัดปทุมธานีเป็นเครือข่าย MCH ตามคำชวนของพี่กุ้ง (คุณพรทิพย์ คนึงบุตร) และตั้งใจไปร่วมมุทิตาจิตพี่ลี-คุณอัญชลี (หัวหน้าพยาบาล) การให้กำลังใจเป็นเรื่องสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ โอกาสของการเรียนรู้ร่วมกันของชีวิตถือเป็นคุณค่าและมีความหมาย
การเดินทางรอบนี้เป็นการเดินทางครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2561 ท้องฟ้าวันนี้มีหลากหลายสภาวะ มืดครึ้ม ฟ้าโปร่ง เมฆสวย ก็คงเหมือนสภาวะอารมณ์ของผู้คน
เวลาอยู่บนท้องฟ้า
ชอบนั่งดูเมฆ เวลาที่ดูเมฆแล้วสบายใจ เมฆเปลี่ยนรูปไปเรื่อยทำให้เราเห็นความเป็นอนิจจัง และความไม่เที่ยงแท้แน่นอน เมฆเขาสอนให้เราไม่ยึดติดและสอนให้รู้ว่าเมฆไม่ได้มีอยู่จริง ทุกอย่างแปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลา
ก่อนความมืดจะปกคลุม
กัปตันพาบินวนล้อเล่นกับหมู่เมฆ
งดงามและหลากหลาย ไม่ซ้ำรูป
นี่คือความเป็นอนิจจัง
#บันทึกการเดินทาง
#SelfReflection
24-09-61
ไม่มีความเห็น