เข้าห้องสอนเพศศึกษา ยุค...ครูอายเด็กไม่ใช่เด็กอายครู


มีเพียงแต่ตัวและหัวใจไว้เพื่อพ่อแม่

             หลังจากบางโรงเรียนได้นำหลักสูตร "เพศศึกษา" เข้ามาสอนในระดับมัธยมศึกษา และระดับอาชีวะ ทำให้เด็กได้รับความรู้ความเข้าใจเรื่องนี้มากขึ้น แต่ก็ยังเป็นเรื่องที่หนักอกหนักใจของเหล่าอาจารย์ทั้งหลายอยู่ เพราะไปสำรวจวัยรุ่นวัยโจ๋กับอาจารย์ที่สอนเรื่องเพศศึกษาในงานการประชุมวิชาการและตลาดนัดประสบการณ์ "เพศศึกษาเพื่อเยาวชน" ในหัวข้อ "เรื่องเล่าจากห้องเรียนเพศศึกษา : รู้ได้อย่างไรว่าเด็กคิด วิเคราะห์ได้" โดยมีอาจารย์ที่สอนหลักสูตรเพศศึกษาร่วมแชร์ประสบการณ์ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ได้จากห้องนี้คือ คำถามสารพัดจากเหล่าวัยรุ่นวัยโจ๋ทั้งหลายที่ฟังแล้วได้แต่อึ้ง..อึ้ง..

            อาจารย์กมลทิพย์ ยุทธิวัฒน์ จากวิทยาลัยเทคนิคนครศรีธรรมราช เล่าว่า สอนวิชาเพศศึกษาให้เด็ก ปวช.ปี 1 ตอนสอนตื่นเต้นมาก กลัวเด็กอาย แต่กลายเป็นอาจารย์อายเอง เด็กจะกล้าถามว่าถ้าดูคลิปโป๊แล้วเกิดอารมณ์จะทำอย่างไร วันนี้อาจารย์เอาถุงยางมาแจกไหม การเพิ่มขนาดอวัยวะเพศจะทำให้อีกฝ่ายมีความสุขขึ้นจริงหรือ 

            "บางคำถามอาจารย์ไม่สามารถตอบได้เพราะคิดว่ามาสอนเพียงเรื่องการดูแลสุขอนามัย การป้องกันการติดเชื้อเอดส์ และเรื่องเพศศึกษาต่างๆ ที่วัยรุ่นควรรู้ พอพวกเขาถามอาจารย์ตอบไม่ได้เด็กๆ จะหัวเราะ มองเราเหมือนตัวประหลาด รู้สึกอาย หน้าชามาก เพราะเด็กจะมีความสุขที่ได้แกล้งอาจารย์ วันแรกๆ ที่สอนยอมรับว่าต้องเรียนรู้เรื่องเพศศึกษาจากเด็กนักเรียนแทน"

            จากประสบการณ์วันแรกที่อาจารย์ได้เจอ ทำให้ต้องมีเทคนิคในการสอนและเข้าถึงตัวเด็กมากขึ้น ด้วยการนำอุปกรณ์สอนเพศแบบจริงไปโชว์

            "ในหลักสูตรเพศศึกษาสามารถนำถุงยางไปแจกเด็กได้เพื่อให้เรียนรู้วิธีการป้องกัน อาจารย์ยังไม่ทันฉีกถุงยางให้ดู เด็กก็หยิบถุงยางที่พกมาโชว์ให้เพื่อนๆ ดูก่อน แถมบอกอาจารย์อีกว่า อาจารย์ไม่ต้องสอนสวมถุงยาง น่าจะสอนท่าทางปฏิบัติเวลามีเซ็กซ์มากกว่า หรือแจกหนังโป๊ดีกว่า"

            อาจารย์กมลทิพย์บอกอีกว่า เรื่องเพศศึกษาสำหรับวัยรุ่นก้าวไปไกลกว่าที่คิดไว้มาก พอเด็กเป็นแบบนี้ วันต่อไปก็ไม่อยากสอนแล้ว ท้อแท้ทำไมเด็กถึงได้ทะลึ่งและกล้าพูดได้ขนาดนี้ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้เพราะเราเป็นเรือจ้างที่ต้องพาลูกศิษย์ขึ้นฝั่ง จึงเปลี่ยนทัศนคติตัวเองให้กล้าเข้าห้องเรียนสอนเพศศึกษา เด็กกล้าถาม อาจารย์ก็ต้องกล้าตอบด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเพื่อเรียนรู้สิ่งที่เด็กถามเพื่อนำมาปรับสอนในคาบต่อไป

            ด้านอาจารย์กานติมา ศรีทิพย์ จากโรงเรียนกรับใหญ่ว่องสกุลพิทยาคม จังหวัดราชบุรี สอนเพศศึกษาระดับมัธยมศึกษา บอกว่า วันแรกที่ไปสอน นักเรียนจะดูนิ่งๆ มาก ก็เริ่มสอนตามบทเรียน แต่ผ่านไปเพียง 1-2 วัน นักเรียนกล้ามากขึ้น กล้าที่จะถามเรื่องการสำเร็จความใคร่ และรู้จักวิธีใส่ถุงยางอนามัยโดยที่ไม่ต้องสอน

            "เด็กผู้ชายจะทะลึ่งมากกว่าและชอบลองใจอาจารย์ว่าจะกล้าคุยเรื่องเพศกับนักเรียนไหม ซึ่งอาจารย์ต้องทำเป็นรู้เรื่อง และเข้าใจ เช่นถ้าเอาอวัยวะเพศเทียมไปสอน เด็กจะรู้จักว่าตรงไหนเรียกว่าอะไรและรู้วิธีทำให้อีกฝ่ายมีความสุข ถ้าอาจารย์ยืนอายนักเรียนจะไม่เชื่อมั่นว่าอาจารย์สามารถสอนเรื่องนี้ได้ อย่างทำกิจกรรมให้วาดรูปผู้หญิงและผู้ชาย เด็กจะวาดผู้ชายที่มีองคชาติที่ยาว และมีผู้หญิงนอนอยู่ อาจารย์เห็นรูปก็อึ้ง เด็กก็จะสังเกตสีหน้าอาจารย์ว่าหน้าแดงไหมแล้วจะส่งเสียงโห่ตามมา"

            อาจารย์กานติมาบอกอีกว่า เมื่อสอนเรื่องการติดเชื้อเอชไอวีว่าสามารถติดได้ทางไหนบ้าง เด็กกลับไม่สนใจ แต่ครูก็ต้องสอน และจะสอนเรื่องวิธีการสวมถุงยางที่ถูกต้อง และประโยชน์ของการป้องกัน มีการนำรูปและอุปกรณ์อวัยวะเพศเทียมมาสอนชี้ให้เห็นจริงๆ ว่าถ้าเกิดมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยาง อวัยวะเพศจะติดเชื้อส่วนไหนบ้าง เพราะเด็กรู้แต่ว่าการสร้างความสุขของเขาคือการมีเพศสัมพันธ์เท่านั้น

            วิชา "เพศศึกษา" เป็นอีกหนึ่งวิชาที่ท้าทายความสามารถของครู แต่ก็เชื่อเหลือเกินว่ามันคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงอย่างแน่นอน

หมายเลขบันทึก: 63342เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2006 12:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 16:07 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท