วัน ๑๘-๒๐ พฤษภาคม สำนักศึกษาทั่วไป มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จัดค่ายอาสาพัฒนาต้นกล้าพันธุ์ดี ครั้งที่ ๑ โดยรุ่นพี่ในโครงการเด็กดีมีที่เรียน ซึ่งตอนนี้มีศูนย์รวมเป็นชมรมต้นกล้าพันธุ์ดี ก่อนจะเดินทางไปร่วมค่าย ผมได้รับจดหมายด่วนให้ไปร่วมประชุม เรื่อง "แนวทางการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี ประจำปีการศึกษา ๒๕๖๑ ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม" หลังจากนั่งฟังการนำเสนอของ ผอ.กองบริการการศึกษา ตั้งใจว่าน่าจะนำเอาสาระในการประชุม มาแบ่งปันนักเรียนที่กำลังจะมาร่วมค่ายฯ เกือบร้อยคนที่รออยู่ที่ดงใหญ่ พร้อม ๆ กับการอธิบายถึงกระบวนการรับนิสิตในโครงการเด็กดีมีที่เรียนประจำปี ๒๕๖๑ ... นี่คือแรงบันดาลใจให้เขียนบันทึกนี้ครับ
ปีการศึกษา ๒๕๖๑ มหาวิทยาลัยที่ดูแลโดยสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) จำนวน ๑๕๗ แห่ง จะคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีด้วยระบบ เอนทรานซ์ ๔.๐ (Entrance 4.0) สาเหตุที่ต้องเปลี่ยนมาเป็นเอนทรานซ์แบบใหม่ เพราะแบบเดิมที่ใช้โควตารับตรงและแอดมิทชั่น (Admission) มีปัญหาการ "กั๊กที่นั่ง" นักเรียนบางคนไปสมัครไว้ ๕ มหาวิทยาลัย กั๊กไว้ ๕ ที่นั่ง สุดท้ายเลือกมหาวิทยาลัยได้ อีก ๔ มหาวิทยาลัยเลยกลายเป็น "เก้าอี้ว่าง" ทำให้แผนการรับของมหาวิทยาลัยไม่เป็นไปตามแผน มหาวิทยาลัยแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่าง ๆ บางที่มีข้อบังคับให้เสียเงินลงทะเบียนพร้อมรายงานตัวก่อนเวลาที่มหาวิทยาลัยอื่นจะประกาศผล คนที่ลำบากที่สุดคือพ่อแม่ผู้ปกครองนั่นเอง เพราะนอกจากจะเสียเงินพาลูกวิ่งรอกสอบหลายสนามแล้ว เพื่ออนาคตลูก หลายคนยอมจ่ายเงินรายงานตัวเอาชัวร์กับมหาวิทยาลัยสักแห่งก่อน
ระบบเดิมที่นักศึกษาส่วนใหญ่ได้จากระบบโควตารับตรงซึ่งแต่ละมหาวิทยาลัยจัดวันเวลาสอบไม่พร้อมกัน ข้อสอบก็ของเฉพาะมหาวิทยาลัย ทำให้เกิด "ฤดูสอบ" ไม่เป็นอันเรียน โรงเรียนกลายเป็น "โรงติว" นักเรียนที่ได้ที่เรียนแล้วก็ไม่สนใจเรียนชั้น ม.๖ เทอมสอง ซึ่งเนื้อหาหลายอันเป็นพื้นฐานสำคัญจำเป็นต้องมี (เว็บไซต์ Eduzone ทำคลิปเล่าเหตุผลและวิวัฒนาการของเอนสะท้านได้ดีมากครับ คลิกที่นี่)
ปีการศึกษา ๒๕๖๑ นี้ ทุกมหาวิทยาลัยจะใช้ระบบการรับนักศึกษาแบบใหม่ กลับไปใช้ระบบเอนทรานซ์คล้ายเดิม แต่ปรับใหม่และใส่ชื่อเอนทรานซ์ ๔.๐ (จะให้รับกับ "ประเทศไทย ๔.๐" ไหม?) ยกเลิกการสอบโควตารับตรงของทุกมหาวิทยาลัย แล้วมาใช้ข้อสอบกลางร่วมกัน สอบเพียงครั้งเดียว และให้ความสำคัญกับผลการสอบมาตรฐานกลางของสำนักทดสอบทางการศึกษา (สทศ.) ได้แก่ O-NET, GAT, PAT, ่และ ทดสอบ ๙ วิชาสามัญ ตามความจำเพาะของแต่ละสาขา อย่างไรก็ดี ระบบนี้ยังเปิดโอกาสให้มหาวิทยาลัยรับนักศึกษาเองได้ทั้งแบบไม่มีสอบข้อเขียน โดยพิจารณาจากแฟ้มสะสมงาน (Portfolio) และรับตรงอิสระได้ เพียงแต่มีข้อแม้ว่า ต้องไม่มีการทดสอบ ยกเว้นแต่บางสาขาที่มีความจำเพาะจริง ๆ ... รายละเอียดสืบค้นกูเกิลได้ง่ายมาก คลิกข่าวของช่องวันอธิบายได้ชัดมาก (คลิกที่นี่)
สิ่งที่ใหม่มาก ๆ อีกประการสำคัญในระบบเอนทรานซ์ ๔.๐ คือการนำการ Clearing House มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ นักเรียนจะต้องทำการยืนยันสิทธิ์การเข้าเรียนภายในเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด หากไม่ยืนยัน จะถูกตัดสิทธิ์การเข้าเรียนทันที มหาวิทยาลัยก็จะทราบทันทีว่าตนเองมีที่ว่างสำหรับการรับสมัครต่อไปจำนวนเท่าใด
ต่อไปนี้เป็นปฏิทินการดำเนินการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นมติของที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในวันศุกร์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา (เอกสารต้นฉบับมี ๔ หน้า ดูได้ที่นี่ ๑ ๒ ๓ ๔) ผมเอามาวาดใหม่ ให้ดูง่ายขึ้น (ไหม? ใครที่ไม่ส้นทัดวิธีนี้ อีกวิธีหนึ่งที่ดีมากในการนำเสนออยู่ที่นี่ครับ) ดังรูป
การรับนิสิตใหม่ปี ๒๕๖๑ มีทั้งหมด ๕ รอบ ดังนี้
บันทึกต่อไป จะมาว่ากันเรื่องแนวทางการรับนิสิตในโครงการเด็กดีมีที่เรียน ประจำปี ๒๕๖๑ ของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ครับ
ประเด็นที่พึงทราบและระวัง
๑) ด้วยข้อจำกัดด้านเวลาการรับสมัคร->การพิจารณาคัดเลือก->การประกาศผล ทำให้ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่ ๑ โควตพิเศษ และยืนยันสิทธิ์ ระบบ Clearing House จะตัดสิทธิ์ในการสมัครรอบต่อ ๆ ไปทันที แต่ถ้าเปลี่ยนใจสละสิทธิ์การเข้าเรียนในรอบที่ ๑ ก็สามารถทำได้ แต่จะไม่สามารถสมัครได้ทันในรอบที่ ๒ รับตรงร่วมกันเฉพาะภาค ต้องไปสมัครในรอบที่ ๓ รับตรงร่วมกันทั่วประเทศ หรือรอบที่ ๔ Admission หรือรอบที่ ๕ รับตรงอิสระ
๒) ในทำนองเดียวกัน ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกรอบที่ ๒ และยืนยันสิทธ์ ระบบ Clearing House จะตัดสิทธิ์ไม่ให้สอบในรอบถัดไป แต่ถ้าสละสิทธิ์ในรอบดังกล่าว จะไม่สามารถสมัครในรอบที่ ๓ รับตรงร่วมกันทั่วประเทศ ได้ทัน ต้องไปสมัครในรอบที่ ๔ Admission หรือรอบที่ ๕ รับตรงอิสระ
๓) แต่ละรอบกลุ่มเป้าหมายไม่เหมือนกัน
๔) การทดสอบจะมากันแบบติด ๆ กัน ดังนั้นการเตรียมตัวที่ไม่ดีจะไม่มีโอกาสแก้ตัว ตารางสอบมีดังนี้
๕) จงค้นหาตนเองให้พบและจบมันให้เร็วตั้งแต่รอบแรก
ขอบคุณอาจารย์มากเลยค่ะที่มาให้ความรู้ ขอติดตามข้อมูลจากอาจารย์ค่ะ