(127) หลังฝนตก; อินทรีย์อ่อน บารมีน้อย


หลังฝนตก

อินทรีย์อ่อน บารมีน้อย

Ka Poom - 7 พฤษภาคม 2560วิถีชีวิต

วันอาทิตย์ที่ 7 พฤษภาคม

หลังจากที่ฝนตกหนักเมื่อคืนนี้ ตื่นเช้ามาพิจารณาในตนเอง เสียงฟ้าร้องยังกับเต็มไปด้วยความพิโรธเตือนโลก แสงฟ้าแลบ มองถึงการเตือนว่าอีกไม่กี่อึดใจเสียงฟ้าลั่นจะตามมาสนั่นหวั่นไหว ลมไม่แรง แต่มีลูกเห็บตก นึกถึงไก่ป่าที่นอนอยู่บนกิ่งไม้ สภาพรุ่งสางชุ่มชื่น ร่องรองไม่มีอะไรเสียหายมาก แต่สัมผัสถึงความเย็นชุ่มช่ำได้

ไฟฟ้าดับ จึงงดไม่ได้ออกไปเตรียมอาหารถวายพระ

เฝ้าพิจารณาธรรมชาติรอบตัว มองเห็นยอดอ่อนของต้นไม้หลายต้นกำลังโผล่ขึ้นมา

กลิ่นดินหอม โชยมาอ่อน โชคดีที่เช้านี้ไม่ถูกรบกวนด้วยควันไฟจากการใช้ฟืนหุงข้าว คุณยายชีโกท่านให้ความกรุณาอย่างมากหลังจากให้แม่รีไปเล่าให้ท่านฟังเรื่องควันดังกล่าว ส่วนตัวรู้จักท่านตลอดแปดปีที่มาใช้ชีวิตภาวนาที่วัดแห่งนี้ ในยุคสมัยก่อนคนมาภาวนายังไม่มาก ดึกๆ หรือรุ่งสางตื่นมาเดินจงกลม ก็มองเห็นแสงเทียนจากกุฏิท่าน ช่วงหลังลูกๆ ท่านมาซื้อที่ท้ายวัดถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์เพื่อสร้างพิพิธภัณฑ์สุมนานุสรณ์ และเหลือพื้นที่ส่วนหนึ่งสร้างบ้านและสร้างกุฏิให้ท่านอยู่ อากาศที่ริมน้ำหนองไคร้ปลอดโปร่งดีต่อสุขภาพของท่าน

ภารกิจ

หลังรับข้าวเสร็จ นั่งปรึกษาหารือกับมลเรื่องเตรียมทำขนม เนื่องจากว่าวันนี้ไฟดับทั้งในหมู่บ้านด้วย ระหว่างที่หารือกันนั้นมีอะไรที่พอทำแก้ไขแก้ขัดไปก่อนได้ เราก็ช่วยลงมือทำ มลเป็นคนขยันขันแข็งมีลูกสาวตัวเล็กสองคน ตามแม่ย่ามาทำความสะอาดกวาดถูศาลา และดูแลความเป็นอยู่แม่ครู ทำงานคล่องแคล่ว ฉลาดมีปณิธานไหวพริบดี

ในสูตรการทำขนมต่างๆ ที่ดัดแปลงพัฒนาขึ้น มลจะได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้ เคยพูดเล่นๆ กับมลว่า "อนาคตมลจะมีกิจการเป็นของตนเองจากสูตรขนมเหล่านี้แหละ" เธอก็รีบสาธุรับเอา ถ้ามีทุนและการจัดการดีๆ ก็จะสามารถสร้างอาชีพได้เล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องหลั่งไหลไปทำงานที่กรุงเทพฯ ลูกสาวสองคนน่ารัก ช่วยแม่ทำงานวัดได้อย่างดี ไม่ว่าจะปัดกวาดเช็ดถู ล้างห้องน้ำ ส่วนตัวมองว่าเด็ก เหล่านี้ช่างมีบุญมาก ไม่นานการซ่อมไฟก็เสร็จสิ้น ภารกิจกิจกรรมต้นกล้าก็ลงมือทำต่อช่วยเหลือกันกับมลทำ #ผลิตภัณฑ์ต้นกล้า เพียงแค่เริ่มทำส่งข่าวบอกกัลยาณมิตรจากที่ต่างๆ ก็ได้รับการตอบรับสนับสนุนเป็นอย่างดี

เมื่อเช้าเพิ่งครุ่นคิดเรื่องนี้ว่าอาจจะหยุดทำและใช้เงินส่วนตัวในการเกื้อหนุนกิจกรรมต้นกล้า แต่อยู่ๆ ก็ได้ไปอ่านเจอธรรมะ https://www.facebook.com/nipaporn.lakornwong/posts... ก็เลยมุ่งมั่นต่อไปในการบอกบุญ ชวนผู้คนมาร่วมบุญด้วย

สิ่งที่ได้เรียนรู้ในตนเองวันนี้:

คนเรานั้นมีวาสนาบารมีที่แตกต่างกัน สิ่งใดที่เกื้อหนุนกันได้ให้ทำให้ช่วย พ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านทำให้ดูทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง ช่วยได้จนสุดกำลัง ถ้าการช่วยแล้วไม่ได้ผลแต่องค์ท่านก็แสดงธรรมให้เราเหล่าลูกศิษย์ได้เห็นเป็นตัวอย่าง

ขณะเดินออกมาเจอเด็กวัดคนหนึ่งที่เคยช่วยเหลือ ด้วยวิบากกรรมที่ไม่เคยเชื่อฟังคำอบรมสั่งสองต้องทำให้มามีชีวิตดั่งที่เป็นเช่นทุกวันนี้ ก็นึกสลดใจในวิบากกรรมที่ได้รับ เห็นแล้วก็อดที่จะรู้สึกสงสารไม่ได้

เมื่อเดินออกมาที่ลานไม้ ศาลาสี่ ได้พูดคุยกับพระอาจารย์และเซียงทุ่งเรื่องหางซัน สุนัขที่มาอาศัยพึ่งใบบุญต้องมาถูกฆ่าตายอย่างทุกขเวทนาที่สุด กรรมของใครก็ของคนนั้นไม่มีใครที่จะช่วยแก้ไขได้ ได้แต่บอกทางถ้าเขาลงมือทำเอง ก็พอช่วยบรรเทาชีวิตให้ชุ่มชื่นได้บ้าง

บทสรุปในใจตนเองวันนี้ครุ่นคิดในเรื่องอินทรีย์อ่อน บารมีอ่อนมีน้อย จึงไม่มีทุนมากพอที่จะต้านทานกิเลสที่มีอยู่ในใจได้ ผู้คนถ้าตระหนักในเรื่องนี้แล้วเร่งสร้างอินทรีย์(พละห้า) สร้างบารมี ชีวิตที่ดำรงอยู่ก็จะเข้าใกล้คำว่า "สงบเย็นได้"

07-05-2560




คำสำคัญ (Tags): #self reflection#mind#spiritual
หมายเลขบันทึก: 628338เขียนเมื่อ 7 พฤษภาคม 2017 22:36 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 พฤษภาคม 2017 22:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท