ตามหาป่าโบราณในม่านหมอก ที่ดอยอ่างกา
บนความสูง ๒,๕๖๕.๓๓๔ เมตร ต้นไม้และแมกไม้มีอายุร่วมพันปี ความหนาวเหน็บของอากาศทำให้ต้นไม้ทุกต้นของที่นี่ใส่เสื้อ ผืนพรมธรรมชาติได้ห่อหุ้มต้นไม้ในป่าโบราณแห่งนี้ สภาพอากาศที่ชุ่มชื้นทำให้ลำต้นของต้นไม้เกิดไลเคน มอสส์ และเฟิร์น ไม่เว้นแม้กระทั่งรูปปั้นช้างหน้าศาลก็ถูกห่อหุ้มไปด้วยพรมเฟิร์น
ใครที่ได้เดินทางเข้าสู่ป่าผืนนี้ อารมณ์หนึ่งที่จะได้รับคือเหมือนได้เดินหลุดเข้าไปสู่มิติใหม่ โลกใบอื่นในก้าวแรกที่เหยียบย่าง สุรา ๑ ป้านได้รับอารมณ์นั้นจริงๆ ความหนาวเหน็บและความชุ่มชื้น ประกอบกับละอองหนาว ยิ่งดึงอารมณ์ให้หลงใหลฉงนสนเท่ห์ป่าโบราณผืนนี้ให้ลึกเข้าไป งดงามๆจริงๆ ทำให้คิดถึงสัตว์ในตำนานป่าหิมพานต์ขึ้นมาทันใด
อดีตป่าผืนนี้รู้จักกันในนามชาวบ้านพรานไพร ว่าป่าดอยอ่างกา เป็นบริเวณที่อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวจะมีน้ำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้งให้เห็นเป็นที่หมายตาของนักท่องเที่ยวเชิงภาพเดินทางมาจำนวนมาก และที่นี่มีสภาพป่าที่หลากหลาย มีพืชพันธุ์นานาชนิด มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งวัน
ดอยอ่างกา ที่นี่เดิมมีแอ่งน้ำจืด ที่เรียกกันว่า พรุอ่างกาหลวง ซึ่งเป็นที่นกกาจำนวนมากลงไปเล่นน้ำ จนเป็นชื่อเรียกว่า ดอยอ่างกา และอีกสมญาก็คือ ประตูสู่หิมาลัย ที่ได้จากความหนาวเหน็บนั่นเอง
อากาศบนยอดดอยอ่างกา มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ ๑๒ องศา กลางป่าเป็นแอ่งน้ำซับที่คงลักษณะเป็นพรุหรือแอ่งในเขตอบอุ่น เป็นแหล่งพันธุ์พืชและสัตว์หายากหลายชนิด โดยเฉพาะข้าวตอกฤาษี ที่เป็นเสน่ห์ของที่นี่อีกอย่างหนึ่ง
ส่วนดอยอ่างกา ที่ผมเรียกหลายท่านอาจไม่คุ้นชื่อ แต่ถ้าจะบอกว่าดอยอินทนนท์ ทุกคนร้องอ่อแน่ๆ ซึ่งมาเปลี่ยนกันทีหลัง ส่วนความชอบส่วนตัว คือชอบชื่อเดิมชื่อโบราณมากกว่า เพราะมันมี่ที่มาด้านกายภาพ ด้านภูมิศาสตร์ของพื้นที่ และอีกหลายๆมิติที่จะสืบค้นที่มาได้ง่ายกว่า ได้ยินชื่อก็นึกภาพจินตนาการตามก็รู้เลย .......
สุรา ๑ ป้าน
ความเห็น (3)
-สวัสดีครับ
-ผมก็ชื่นชอบชื่อเดิม เพราะบ่งบอกถึงที่มาได้เป็นอย่างดี ครับ
-ความสุขเกิดขึ้นได้จากการได้ชมภาพสวย ๆ เช่นนี้ครับ
-ลดองศาแห่งความร้อนไปได้มากเลยครับ
-ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับผม ที่พอยังประโยชน์คลายร้อน
มุมมองและเทคนิคสวยมาก ๆ ค่ะ ดูชุ่มชื้น อยู่ร่วมอย่างหลากหลาย พึ่งพาอาศัยเกื้อหนุนกัน
และดูดึกดำบรรพ์มากทีเดียว