การก่อตัวเงียบๆ และสั่งสมมานานกับความแปรปรวนในจิต เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เดี๋ยวสงบ เดี๋ยววุ่นวาย เดี๋ยวอยากเดี๋ยวไม่อยาก เดี๋ยวดีใจเดี๋ยวเสียใจ เดี๋ยวโกรธเดี๋ยวรัก ...มากมายวุ่นวายไปในดวงจิตดวงนี้
บางครั้งตัวกระตุ้น อาจเป็นเรื่องราว หรืออาจเป็นบุคคล หรืออาจเป็นการปรุงแต่งทางความคิดของเราเอง ความไร้สติทำให้คนเราแสดงออกมาทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด บทสนทนา สีหน้าท่าทางและการกระทำ
นี่เป็นสิ่งที่เรียนรู้และตกผลึกในตนเองวันนี้
ทุกๆ วันเราได้เห็นธรรมะ ได้เรียนธรรมะ ได้พบธรรมะอยู่ตลอดเวลา เรามีสติมากพอรู้เท่าทันหรือไม่ มีสติมากพอที่จะรู้หรือเห็นสิ่งนั้นๆ หรือไม่
และมีปัญญาพอที่จะพิจารณาใคร่ครวญหรือทำความรู้กับตนเองไหม
เรื่องของคนที่ไหลทะลักเข้ามาสัมผัสชีวิตเรา "สติ" ทำให้ใคร่ครวญพิจารณา สองสามวันที่ผ่านมามีเรื่องมีคนมีเหตุการณ์ทะลักไหลมากระพือคลื่นในจิตให้ได้กระเพื่อม การประคองท่ามกลางกระแสคลื่นในจิตเป็นหน้าที่เป็นสิ่งที่เราต้องพิจารณาและใคร่ครวญ
บททดสอบบทนี้ผ่านไป ผ่านแบบเฉียดฉิวเมื่อพ่อแม่ครูบาอาจารย์ท่านมาสนับสนุนหลังจิตกลับมาเบิกบานเบาโล่งโปร่งสบาย ความเป็นธรรมดาธรรมชาติก็ปรากฏ
เวลาจิตเราดำเนินไปแบบขมุกขมัวสิ่งที่พึงปฏิบัติคือการเจริญสติตลอดเวลาบางครั้งปัญญาไม่มากพอว่ากำลังเรียนรู้เรื่องอะไรก็ให้อดทนไปก่อน เมื่อสติมีกำลังปัญญาจะปรากฏเป็นอัตโนมัติ
การใช้ชีวิตที่วัดดำเนินไปตามปกติแต่เรื่องราวภายในดวงจิตยังมีให้เราเรียนและละเอียดขึ้นเรื่อยๆ
12-02-2560
ความสงบ เป็นความสุข