ช่วงปี 2558 หลังจากเสร็จภาคพิธีการ การวางพวงมาลาถวายพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในวันที่ 23 ตุลาคม 2558 ณ บริเวณพิธี หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลกแล้ว ผมได้รับคำปรารภจาก ผอ.สพม.39 (นายกิตติพงศ์ พิพัฒน์ศิวพงศ์) ว่า ในปีต่อไปถ้าเป็นไปได้น่าจะมีการออกแบบพวงมาลา เพื่อนำมาประดับดอกไม้ เพราะเท่าที่พบเห็นในปีนั้น ส่วนใหญ่หน่วยงานต่าง ๆ สั่งให้ร้านดอกไม้เป็นผู้จัดการแทน ทำให้พวงมาลามีรูปแบบเหมาโหล แตกต่างกันอยู่บ้าง โดยเปลี่ยนตำแหน่งวางรูปของพระองค์ ตัวอักษร ฯลฯ
หลังจากนั้นผมได้ทำบันทึกขออนุมัติออกแบบพวงมาลาดังกล่าว ประมาณว่าเมื่อได้รับอนุมัติค่อยหาครูศิลปะฝีมือดีจากโรงเรียนในสังกัดเข้ามาจัดการให้ วันเวลาผ่านไป การติดต่อประสานงานกับครูบางคนมีแบบหลวม ๆ เพราะต่างมีภารกิจสำคัญเฉพาะหน้า ท้ายที่สุด หลังที่ คสช.ปฏิรูปการดำเนินงานของเขตพื้นที่การศึกษา ช่วงต้นปี 2559 ความไม่แน่นอนของหน่วยงานเกิดขึ้น ผมแทบจะปล่อยให้ทุกๆ สิ่ง ไหลเรื่อยไป ทำงานทุกเรื่องเฉพาะหน้าไปวันๆ ตามการสั่งการที่มีออกมาเป็นระยะ และค่อนข้างวางใจว่า สักวันอาจจะไม่ต้องนำพวงมาลาไปถวายบังคมในนามหน่วยงานเดิม
ครั้นสิ้นเดือนกันยายน 2559 ความเปลี่ยนแปลงที่คาดว่าจะมี เริ่มนิ่ง ยังไม่มีวี่แววว่า จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอื่นใดในสถานะของการเป็นเขตพื้นที่การศึกษา ผมจึงต้องรีบประสานงานเพื่อย้ำเตือนให้ครูศิลปะอาวุโส ท่านหนึ่ง ที่เห็นฝีไม้ลายมือ จากการจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวร ในงานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและกาชาดพิษณุโลก ประจำปี 2559 เป็นผู้ออกแบบโครงสร้างพวงมาลาให้
เมื่อนัดหมายวัน เวลา กันเรียบร้อย ประมาณวันที่ 6 ตุลาคม 2559 ผมได้รับความอนุเคราะห์จาก ครูประโลม พรมชู ครูอาวุโส รร.พิษณุโลกพิทยาคม ,ข้าราชการบำนาญ (เกษียณปี 2553) , ประธานชุมชน ประธานกลุ่มออมทรัพย์วัดน้อยพัฒนา และที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สโมสรโรตารีพุทธชินราช ส่งแบบโครงสร้างพวงมาลาให้ ผมรีบนำเสนอท่าน ผอ. เพื่อพิจารณา ท้ายที่สุดเมื่อท่านเห็นชอบ ผมรีบประสานให้ครูดำเนินการ ครูออกตัวว่า ผมจะมีภารกิจไปต่างประเทศในช่วงเวลา 20 - 23 ตุลาคม นี้ ให้หาคนอื่น เอาล่ะซิ จะหาใครทำ กับงานออกแบบที่สวยงาม ประณีต ที่ครูออกแบบให้ ผมถึงกับต้องอธิษฐานต่อสิ่งที่ครูเคารพนับถือ ให้ช่วยดลจิตดลใจให้ครูช่วยเนรมิตโครงสร้างพวงมาลาตามการออกแบบให้ ช่างน่าอัศจรรย์ การติดต่อครั้งสุดท้าย ครูตกลงให้ความช่วยเหลือครับ
เย็นวันที่ 21 ตุลาคม 2559 ผมได้รับการประสานจากครูว่า กำลังจัดทำพวงมาลาและวันที่ 22 ตุลาคม จะให้ครูที่รู้จักกัน มาประดับดอกไม้สด เพราะครูต้องไปทำภารกิจพิเศษที่ กทม.ในช่วงตีหนึ่ง เมื่อผมจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ต้องรีบเข้าไปหาครู เพื่อติดตามว่า พวงมาลาที่ครูออกแบบ เป็นอย่างไร สวยแค่ไหน พวงมาลาที่ออกแบบไว้ ครูแก้ไขโดยขยายส่วนกว้างจาก 1.00 เมตร เป็น 1.10 เมตร เพราะครูบอกว่าทดลองทำตามที่ออกแบบครั้งแรก แล้วไม่สวย ไม่เหมาะสมที่จะทำถวาย ฯ ณ สถานที่ทำพวงมาลา ผมพบว่า ครูที่อายุมากโข มีโรคประจำตัว ต้องกินยารักษาตนเอง และลูกหลาน หลายคน ต้องมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพื่อจัดทำพวงมาลาให้เสร็จตามที่แจ้งผมไว้ ผมมีบาปนะครับที่ใช้งานผู้สูงวัย เกือบ 3 ทุ่ม พวงมาลายังไม่แล้วเสร็จ ผมซะอีกที่ต้องล่าถอย เพื่อกลับบ้านไปทำภารกิจอื่น ๆ ด้วยอาการอ่อนเพลีย ส่วนครูและทีมงานทุกคนยังคงช่วยกันทำหน้าที่ต่อไป
เช้าวันถัดมา วันที่ 22 ตุลาคม ผมได้รับความช่วยเหลือจากครูอ้อ ครู รร.พุทธชินราชพิทยา ที่ครูไหว้วานให้จัดการประดับดอกไม้สดแทน ราว ๆ 17.00 น ผมจึงย้ายพวงมาลาไปเก็บไว้ที่สำนักงาน เพื่อนัดหมายให้ พขร .นำส่งที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก เช้าวันที่ 23 ตุลาคม เวลาประมาณ 6.00 น. พวงมาลาที่สวยงาม ออกแบบได้อย่างสร้างสรรค์ ของ สพม.39 ถูกถวายต่อพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หน้าศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ตามกำหนดการของจังหวัดพิษณุโลก เป็นลำดับที่ 4 มีผู้สอบถามความหมายของสีในพวงมาลา ผมได้รับคำบอกเล่าของครูว่า สีบานเย็นเป็นสีประจำพระองค์ สีขาวหมายถึงความดี การเสียสละ สีเหลืองหมายถึง อิสระเสรีที่เกิดขึ้นจากการเลิกทาส ส่วนสีดำไม่ต้องให้ความหมาย ทุกๆ คนต่างทราบอยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร และเพื่อเทิดพระเกียรติพระองค์ จึงต้องใช้ดอกกุหลาบสีชมพูประดับในพวงมาลา ในนามผู้ประสานงานขอขอบพระคุณครูประโลม พรมชู และทีมงานทุก ๆท่าน เป็นอย่างสูง ที่ให้ความเมตตา อนุเคราะห์ พวกเราชาว สพม.39
-สวัสดีครับ
-สวยและมีความหมายมาก ๆครับ
-ในส่วนของหน่วยงานของผม หลายปีก่อนหน้านี้ก่อนถึงวันวางพวงมาลาจะต้องเตรียมการสร้างสรรพวงมาลาอยู่ประจำ แต่มาช่วงหลัง ๆ มักจะใช้บริการจากร้านดอกไม้ เช่นกันครับ