โครงการเครือข่ายมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์สังคมเพื่อประเทศไทยที่น่าอยู่(University Network for Change : UNC) ได้จัดประชุมนำเสนอผลงานโครงการและร่วมแลกเปลี่ยนถึงโอกาสในการขยายผล สู่การจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ณ ห้อง The Sapphire ชั้น ๒๓ โรงแรม Arnoma และนิทรรศการผลงาน "Thai Strong Teens (วัยรุ่นไทยเข้มแข็ง)" ณ Sky Lobby Zone และโรงภาพยนต์ 12 SF Cinema Central World ชั้น ๘ ศูนย์การค้า Central World สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) องค์กรภาคีภาคประชาสังคม (มูลนิธิสืบนาคะเสถียร มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร โรงเรียนเพลินพัฒนา) สภาคณบดีศิลปศาสตร์แห่งประเทศไทย และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้มีเป้าหมายในการสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคประชาสังคมและมหาวิทยาลัย ที่เปิดหลักสูตรด้านการสอนศิลปะและการสื่อสาร ปรับรูปแบบการจัดการเรียนรู้การสอนให้ผู้เรียน เรียนรู้จากโจทย์สังคม เพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาตนเอง ทั้งทักษะด้านการผลิตสื่อและการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และเกิดสำนึกพลเมือง มีจิตอาสาในการร่วมแก้ปัญหาและพัฒนาสังคม ซึงสอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยรับใช้สังคมและพัฒนาสำนึกพลเมืองของนักศึกษา
ศาสตราจารย์ นพ.วิจารณ์ พานิช ได้กล่าวเปิดงานว่า การเรียนรู้ของเยาวชนในปัจจุบัน ได้พัฒนาจากเดิมที่รับฟังแต่การบรรยายในห้องเรียนเท่านั้น ได้ก้าวไปสู่การรับรู้จากการออกไปค้นพบข้อเท็จจริงในสังคม และประยุกต์ใช้ศิลปะการเป็นสื่อในมิติเชิงลึก เชื่อมโยงกันระหว่าอาจารย์และทีมงาน เพื่อขยายผลออกไปสู่การรับรู้ของสังคมให้กว้างขวางยิ่งขึ้น สร้างกระบวนการทำงานด้วยการตั้งโจทย์จากปัญหาที่พบเห็นในสังคม เพื่อพิสูจน์ว่า ความรู้เชิงทฤษฎีจำเป็นต้องใช้สมมติฐานเชิงบริบททุกด้านของสังคม เพื่อเป็นต้นน้ำในการสื่อสารออกไปให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องร่วมกัน อันจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเกิดประสิทธิผลอย่างแท้จริง
บางส่วนของผู้บริหารมหาวิทยาลัย คณาจารย์ ของ ๑๑ มหาวิทยาลัย ๑๔ คณะ และผู้ทรงคุณวุฒิ ได้ร่วมกันให้ความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการ รวมทั้งความคาดหวังในการทำงานร่วมกันตามแผน ๓ ปี (ปี ๒๕๕๗-๒๕๖๐)
ข้าพเจ้าประทับใจในความมุ่งมั่นของผู้บริหารและคณาจารย์ทุกท่านที่แสดงออกอย่างเป็นรูปธรรมในการดำเนินการตามโครงการนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม้จะต้องเผชิญกับอุปสรรค และความท้าทายของระบบงานแบบดั้งเดิมที่ไม่เอื้ออำนวยให้การขับเคลื่อนให้เป็นไปอย่างรวดเร็วมากนัก แต่ด้วยศักยะภาพของนักศึกษาที่มีแนวโน้มสูงต่อการตอบรับการเรียนรู้แบบใหม่ จึงเป็นแรงผลักดันอย่างสำคัญของความสำเร็จหลากหลายรูปแบบของศิลปะเพื่อสื่อทางสังคม ดังที่ปรากฏบางภาพในเวทีนิทรรศการครั้งนี้
.....................................................................................................................................................................
เยาวชนน้ำดีที่เราจะฝากความหวังไว้ว่า .... จะเข้าใจตัวเอง และการเปลี่ยนอันรวดเร็วของสังคม เข้าใจการนำศิลปะมาใช้ในการสื่อสารเพื่อขับเคลื่อนบรรทัดฐานทางสังคม ไปในทิศทางที่ดีนะคะคุณป้าใหญ่
ชื่นชมผู้สนับสนุนโครงการดี ๆ ค่ะ
เป็นการร่วมมือกันของ หลายหน่วยงานและหลายคณะมาก
มีกิจกรรมที่ยั่งยืนตลอดไปสำหรับเยาวชน
ขอบคุณพี่ใหญ่มากครับที่บันทึกให้อ่าน