แม้ว่า อากาศจะร้อน แต่อย่าใจร้อนกันนะครับ จะนำพาเราไปสู่ความล้มเหลวได้โดยง่าย ห่างหายไปนานกับบันทึกของตนเอง เกี่ยวกับเส้นทางสู่ Ph.D. ณ วันนี้ ถนนสายนี้ยังมีอีกยาวครับ ผ่านไปแล้วกับ การเรียน 5/9 ภาคการศึกษา (ตามหลักสูตร) ขณะนี้ ก็เข้าสู่ เทอมที่ 6 แล้วครับ ที่ผ่านมา ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากเกี่ยวกับตนเอง การทำงานร่วมกันบุคคลอื่น การเรียนในครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะแตกต่างจาก 2 ระดับการศึกษา (แต่ก็ได้นำฐานความรู้ ภูมิรู้เดิมมาใช้ในการต่อยอด) เพิ่งสอบ Q.E. ผ่านไป (ผ่านแบบไม่คาใจตนเอง) ด่านต่อไปคือ การสอบ Proposal (คาดว่าจะสอบ ในเดือน มิถุนายน นี้) ในการเตรียมตัวสอบ Q.E. เป็นไปอย่างเคร่งเครียด (กับตนเอง) แต่การหาทางออกจากความเครียดของตนเอง คือ พูดให้คนอื่นฟังบ่อยๆ แล้วเราจะรู้ว่า บกพร่องตรงไหน พร้อมนำมาปรับแก้โดยด่วน (ตอนสอบจะได้ไม่เกร็งจนเกินไป) คำถามที่โดนใจ ในการสอบครั้งนี้ คือ คุณสมบัติของการเป็น นศ.ปริญญาเอกคืออะไร? จากคำตอบที่ผมพอที่จะประมวลกับตนเอง คือ นศ.ปริญญาเอกต้องเป็นผู้ที่มีความพยายามอย่างสูงสุด มุ่งมั่นต่อการงานของตนเอง มองปัญหาให้เป็นโอกาสเสมอ และสามารถแก้ไขปัญหานั้นได้ด้วยปัญญา หรือภูมิรู้ของตนเอง เพื่อเตรียมตัวสู่นักวิจัยขั้นสูงที่มีประสิทธิภาพต่อไป ถูกไม่ถูกไม่ทราบ นั่นคือสิ่งที่ผมมอง ณ ขณะนั้น ตอนนี้ จึงทำให้ผมต้องเดินต่อ อย่างมุ่งมั่น เพื่อก้าวสู่ ด่านต่อไป สิ่งนี้ ผมมองว่า เป็น "อุบายทางการศึกษา" เพื่อเค้นศักยภาพของนักศึกษา หรือผู้เรียนออกมา ซึ่งแต่ละคน ล้วนแตกต่างกัน (กฏแห่งธรรมชาติ) การออกแบบเพื่อให้ศักยภาพของแต่ละบุคคลได้แสดงออก เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องให้รายละเอียด ไม่เพียงแต่หวังให้สำเร็จการศึกษาอย่างเดียว แต่ต้องสามารถมองข้ามไปถึงหลังจบการศึกษา สามารถนำภูมิรู้ ภูมิปัญญาของตนเอง ไปสร้างสรรค์สังคมได้มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ "ไตรสิกขา" ควรยึดถือปฏิบัติ คือ ศีล, สมาธิ และปัญญา ทำเป็นลำดับขั้น จะทำให้เกิดผลดีนักแล ดังนั้น จากที่ผ่านมา ผู้เขียนมองว่า "หากทุกคนมีความมุ่งมั่น ไม่ยอมแพ้กับตนเอง และอุปสรรคที่ถาโถมเข้ามา จะทำให้เกิดความสำเร็จอย่างแน่นอน ทุกอุปสรรค มักมีช่องทางการแก้ไขเสมอ หากทำผิดมากใด ยิ่งจะเข้าใกล้ความเป็นจริงมากขึ้นเท่านั้น"
ไม่มีความเห็น