วันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙
- ตื่นนอนตี๔ ทำวัตรเช้า ก่อนตื่นคล้ายคำสอนองค์พระหลวงตาแจ่มชัด "นอนพอแล้วก็ลุก" ทำให้นึกย้อนทวนกับตนเองในวัยเด็กที่แม่มักจะพูดประโยคทำนองนี้เสมอ..."รู้สึกตัวก็ให้ตื่นเลย" แต่กว่าจะลึกซึ้งในคำสอนก็ใช้เวลาในการฝึกฝนมานานมากจนที่สุดจิตคุ้นชิน การนอนจึงไม่เป็นปัญหาของชีวิตมาก
- ทำวัตรเช้า...การได้สวดมนต์ตามข้อปฏิบัติของชีวิต ก็เปรียบเหมือนการที่เราตั้งมั่นในสัจจะ และไม่ละเมิดศีลที่รักษาไว้
- จากนั้นเตรียมอาหารเพื่อนำไปถวายพระ ภารกิจทุกอย่างดูเหมือนทำไปอย่างเนิบช้า ไม่รีบเหมือนทุกวันแต่กลับเสร็จเร็วกว่าทุกวัน...
- วันนี้ข้าพเจ้ามีกำหนดเดินทางไปร่วมงาน HA Forum ครั้งที่ ๑๗ วันนี้เป็นวันมอบรางวัลสำหรับโรงพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพ ข้าพเจ้าไปถึงก็ช่วงบ่ายมากแล้ว แต่ก็ยังคงมีความคึกคักในบริเวณงาน
- ก่อนออกเดินทางแวะไปทำภารกิจที่ทำงานและจัดการสิ่งที่ยังค้างคา การใช้โน๊ตช่วยเตือนจาก app ในอุปกรณ์ IT ช่วยทำให้ข้าพเจ้าเก็บรายละเอียดของภารกิจต่างๆมากมาย และได้เชื่อมโยงศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองกับผู้คนและสังคมรอบตัวได้มาก บางครั้งอะไรๆ ก็อาจดูเหมือนเยอะจนสติอาจตั้งรับไม่ไหว บางเรื่องบางอย่างอาจต้องมีอุปกรณ์ช่ว
- ระหว่างทางที่ขับรถไปสนามบิน...ฟังเทศน์ธรรมบรรยายขององค์พระหลวงตาไปด้วย ในใจปิติทุกครั้ง การฟังเทศน์ให้ใจนี้คุ้นเคยและคุ้นชินได้ทำต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่าทศวรรษ ที่ถือเอาเป็นจริงจังในการศึกษาขัดเกลาใจตนเอง
- ที่สนามบินผู้คนหลายคนหลายกลุ่ม มุ่งหน้าไปร่วมงาน HA Forum น่าชื่นใจและชื่นชมอย่างยิ่ง
- เมื่อไปถึงที่งานข้าพเจ้าก็ได้เจอกับพี่แกะ รพ.คำเขื่อนแก้ว ที่มารอก่อนจากนั้นก็เข้าร่วมงานไปลงทะเบียน และเดินดูรอบงาน จึงได้ขอตัวกลับที่พัก มีอาการเวียนศีรษะอาจเนื่องจากตอนนั่งแท็กซี่...นี่คือ GAP ของเดินทาง นั่งแท็กซี่แล้วมีอาการเวียนหัวทุกครั้ง
- พักผ่อนเต็มที่...นั่งสะสางงานต่อ
- ทำวัตรเย็น
- เขียนบันทึก
สิ่งที่ได้เรียนรู้ในวันนี้
ใจที่ฝึกมาได้บ้าง...แม้จะสัมผัสสภาวะอันละเอียดที่เราไม่ชอบใจแต่นั่น สติ ทำให้ทุกอย่างจบและเงียบลงภายในใจเป็นอัตโนมัติเร็วขึ้น
นึกประโยคหนึ่งขึ้นมาได้ว่า "ใจดวงนี้ต้องฝึกให้ยินดีในทาน ยินดีในศีล ยินดีในการภาวนา". เมื่อใจยินดีแล้วจะนำมาสู่สัมมาทิฐิคือ ความเห็นที่ถูกต้องของชีวิตแล้วเราจะเกิดปัญญานำชีวิตตนเองผ่านไปได้...