Transcendental Meditation คืออะไร


วันนี้ไม่มีกลอนมาฝากนะคะ พอดีอยากจะแชร์ให้ฟัง เผื่อว่าบางท่านที่อาจจะเริ่มเห็นโฆษณาใน Face Book เหมือนกัน และเกิดสงสัยว่า Transcendental Meditation นั้นคืออะไร เพราะดูเขาจะโพสต์ถี่อยู่เหมือนกัน

พอเข้าไปอ่านหลังจากที่เขาโปรยหัวในทำนองว่า TM (Transcendental Meditation) นี้เป็นวิธีการทำสมาธิ ที่ใครๆก็สามารถทำได้ เป็นวิธีการที่มีระบบขั้นตอนโดยเฉพาะเจาจง (Systematic) ที่พอทำตามขั้นตอนของเขาแล้วจะสามารถเข้าสมาธิได้ลึก การเข้าสมาธิได้ลึกนั้น เขาเปรียบเทียบโดยการใช้คลื่นทะเลมาเขียนภาพให้ดู โดยอธิบายว่าบริเวณผิวทะเลด้านบนที่มีคลื่นตลอดเวลาเป็นปกตินั้น ก็จะเหมือนความคิดของคนเรา ที่ไม่หยุดนิ่ง พอระดับที่ลึกลงไป ลึกลงไปอีก การเคลื่อนไหวของคลื่นก็จะน้อยลง น้อยลง เปรียบเสมือนหากเราสามารถตัดความนึกคิดต่างๆออกจากสมองแล้ว หรือสามารถทำสมาธิในระดับต้นๆ ความสงบในใจจะมีมากกว่าระดับผิวทะเล หรือดีกว่าปล่อยให้สมองเกิดความคิดอันนี้ อันนั้นขึ้นมาตลอด ในขณะเดียวกันหากเปรียบเทียบการเข้าสมาธิได้ลึกมากๆ ก็จะเหมือนกับสภาพคลื่นลมที่ใต้ท้องทะเลลึก ที่ลึกสุดอาจเปรียบกับสะดือทะเลนั้น ก็จะอยู่ในสภาพที่สงบนิ่ง ไม่ไหวติงไม่มีคลื่นลมใดๆ หากเป็นใจก็จะเป็นสภาพใจที่เข้าสมาธิได้ถึงขึ้นลึกสุด สงบที่สุด หากเปรียบทางพุทธเราผู้เขียนเดาว่าคือที่ระดับเรียกว่า อัปปนาสมาธิ

เขาอ้างเอาการวิจัยที่ทำมาเป็นหลายพันชิ้น จำนวนคนที่เข้าอบรมหลายหมื่นหรือล้านๆ จำตัวเลขไม่ได้ค่ะว่า สามารถทำให้คนได้พักในสมาธิแบบนี้แล้ว จะมีความเครียดลงลง หรือบางทีโพสต์บน Face Book จะขึ้นคำว่า Stress Free เพื่อเรียกร้องให้เข้าไปดูกิจกรรม ที่น่าสนใจคือเขาเอาคำสัมภาษณ์ และภาพของคนดังๆ มาลงอย่างโอปร่า วินฟรี ดร. ออส (Dr. Oz) และภาพ Ellen พิธีกรคนดังอีกคน ในนั้นจะมียูทูปที่กล่าวถึงสรรพคุณ ว่าภายหลังการทำสมาธิวิธีนี้ ที่เป็นวิธีพาใจเรากลับบ้าน (Coming home) อย่างที่ไม่ต้องบังคับ ไม่ต้องเพ่ง เป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้ความพยายามใดๆ (Effortless) เพียง 20 นาทีเช้าและเย็น จะทำให้คนทำมีความสุข ครอบครัวคนรอบข้างมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น ทหารผ่านศึกที่นอนไม่หลับกลับได้ หลับสบาย หลับลึก ทำให้เซลล์ต่างๆทำงานดี ทำให้คนหายจากโรคภัยไข้เจ็บเพราะใจเป็นนายกายเป็นบ่าว อะไรทำนองนั้น เป็นต้น ซึ่งตรงนี้เราท่านก็ทราบดีกันอยู่แล้ว ถึงคุณประโยชน์ของสมาธิ

ผู้เขียนหลังจากได้อ่านก็สนใจว่าหากจะมีวิธีทำสมาธิที่ง่าย มีวิธีแบบแผนแน่นอน การรันตีว่าทำตามแล้วสามารถเข้าสู่ความสงบได้เร็ว มันก็น่าจะดี เขาแจ้งใน Page (ภาษาอังกฤษ) นั้นถึงตารางการอบรมฟรี พอเห็นว่ามันอยู่ใกล้บ้านและว่างพอดี ก็เลยตัดสินใจลงทะเบียน

พอไปฟังเขาก็เริ่มต้นเล่าสรรพคุณต่างๆ ของวิธี TM ซึ่งเหมือนกับที่ใน Page ได้บอกไว้หมดแล้ว สุดท้ายไม่มีการพูดถึงขั้นตอนวิธีการอย่างที่ผู้เขียนหวังว่าจะได้ยิน ก็เลยถามครูผู้บรรยายว่า แล้ววันนี้ไม่มีการสอนให้พวกเราได้ทดลองทำกันบ้างเหรอ ก็ได้รับคำตอบว่าไม่ เราก็เลยถามต่อว่า อ้าวแล้วอย่างไรต่อ (ขณะนั้นก็ทราบแล้วว่าวันนี้ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว ) เขาก็พุดต่อว่าจะต้องสมัครเรียน แต่คนไทยจะได้รับอัตราพิเศษกว่าต่างชาติคือ 9,000 บาท สำหรับการอบรม 4 วันติดกัน ครั้งละประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ไป-กลับ ทุกวัน หลังจากนั้นก็กลับมาพบครูเดือนละครั้ง เพื่อติดตามผล สำหรับต่างชาติค่าอบรมจะเป็น 18,000 บาท พอถึงตอนนี้ก็มีฝรั่งโอดครวญขึ้นมาว่า อ้าวทำไมเก็บพวกเขาต่างจากคนไทย เราก็คนเหมือนกัน ครูก็ไม่ได้ตอบชัดเจนได้แต่ยิ้มๆ คิดว่าครูไม่อยากพูดออกมาตรงๆว่า รายได้ส่วนใหญ่ของคนไทยต่ำกว่าฝรั่ง ด้วยที่เราเป็นคนไทยนั่งอยู่ด้วยกระมัง

ถึงตอนนั้นผู้เขียนได้หมดความสนใจลงทันที เพราะระถึงคำพูดพ่อแม่ครูอาจารย์ได้ว่า ธรรมะเป็นของฟรี ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากพระเมตตาอันหาประมาณไม่ได้ของพระพุทธองค์ ที่ทรงตัดสินพระทัยในวันที่จะเดินทางไปพบปัจจวคีย์แล้วว่า จะทรงถ่ายทอดธรรมอันประเสริฐ ที่ได้พบแล้ว รู้แล้ว ให้เพื่อมนุษย์ได้รู้ตาม เพื่อให้เข้าสู่ความหลุดพ้น แล้วพ่อแม่ครูอาจารย์ก็ได้ทำเป็นแบบอย่างเอาไว้ในการแจกหนังสือธรรมะ ท่านได้พิมพ์เอาไว้ทุกเล่มว่าหนังสือนี้แจกฟรี ไม่ได้จำหน่าย หากประสงค์จะพิมพ์เพื่อเป็นธรรมทานแล้ว ก็ไม่ต้องขออนุญาติ ให้สามารถทำได้เลย สงวนไว้เฉพาะผู้ที่จะทำการค้า (คือไม่ให้พิมพ์เพื่อขายนั่นเอง) โดยเฉพาะผู้นำในการแจกจ่ายและเจ้าของคำพูดนี้คือ องค์หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน นั่นเอง แล้วตามวัดสายปฏิบัติต่างๆ ท่านก็ได้สงเคราะห์ผู้ต้องการปฏิบัติ โดยการจัดเทศน์สั่งสอน และอบรมสมาธิฟรีอยู่แล้ว

และข้อสังเกตุอีกประการเกี่ยวกับ TM คือ เป็นเพียงการทำสมาธิอย่างเดียว ไม่ได้มีการอบรมด้านปัญญาที่จะให้เราสามารถละกิเลสใดๆเลย ดังนั้นสุดท้ายก็คงเป็นแค่เพียงท่าน (หลวงปู่ชา สุภัทโท) สอนไว้ว่าเป็นเพียง "หินทับหญ้า" คือหญ้ามันจะตายแค่เพียงต้นและใบ รากมันที่อยู่ในดินยังอยู่ หากวันใดก้อนหินนั้นถูกยกออก ต้นหญ้าที่แห้งเหี่ยวและดูเหมือนตายไปแล้วนั้น เมื่อมีโอกาสได้รับน้ำได้รับแสงแดดอีก ก็จะกลับงอกงามเติบโตได้อีกฉันใด พวกเราก็เข้าใจได้เมื่อนึกถึงกระถางต้นไม้ในสนามบ้านเรา กิเลสก็ฉันนั้น หากไม่ทำการอบรมปัญญาเพื่อละวาง และถ่ายถอน เพื่อให้รู้ถึงโทษของ กามราคะ โลภะ โทสะ โมหะ แล้ว การถ่ายถอนกิเลสเหล่านี้ก็จะไม่มี การทำแค่สมาธิที่ทำให้จิตใจสงบนั้น ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ ยังมีอยู่เต็มหัวใจ มันก็กลายเป็นสุขชั่วคราว ขณะนั่งสมาธิอยู่เท่านั้นเอง ความทุกข์ก็จะหายไปจากชีวิตได้อย่างไร ในขณะที่ต้องดำเนินกิจกรรมทำหน้าที่ต่างๆประจำวัน

จึงเล่าสู่กันฟัง เผื่อว่าท่านใดอาจเห็นข้อความของ Transcendental Meditation ขึ้นมา ที่ว่ากันว่ามีโยคีที่ชื่อ Maharishi เป็นคนค้นพบนั้น จะได้ไม่เสียเวลาไป เพียงแค่เราปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ตามสติกำลังกันต่อไป ผู้เขียนเชื่อว่าก็ประเสริฐสุดแล้ว

หมายเลขบันทึก: 597644เขียนเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2015 16:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน 2015 16:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เป็นประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณริว  ดิฉันเป็นผู้ฝึก TM คนนึง บังเอิญได้อ่านเจอโพสต์ที่คุณริวเขียนถึง TM  จิงๆ ดีใจมากค่ะที่คุณริว ให้ความสนใจกับการฝึกสมาธิ)   ดิฉันไม่ได้จะมามีเจตนาโต้แย้งความคิดเห็นในการรับรู้ใดๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณริวนะคะ  เข้าใจดีค่ะ  TM เป็นเทคนิคการฝึกจิตอีกวิถีทางหนึ่งที่มาจากทางโยคี มีการตั้งเป็นองค์กรตามประเทศต่างๆ มากมากมาย รวมทั้งจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัย (ส่วนใหญ่จะเติบโตในตปท. ทั้งในยุโรปและอเมริกา)ซึ่งเขารับรู้ว่าเป็นการฝึกจิตชนิดนึงคล้ายๆ กับการสมัครเข้าคอร์สพัฒนาจิตวิญญาณทั่วไป  ซึ่งพอมาเทียบกับการฝึกสมาธิบ้านเราที่เป็นศาสนาพุทธ ทุกคนต่างได้รับรู้ได้ว่าเป็นของควบคู่กัน.......การเก็บเงินเสียตังเพื่อฝึกสมาธิจึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของคนไทยในพุทธศาสนา..จึงไม่แปลกที่TM ในไทยจึงแทบไม่ได้มีคนรู้จักกัน    อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า TM เป็นคอร์สการฝึกจิตชนิดนึงที่ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิก (สไตล์ต่างประเทศ ค่าสมัครจะเข้าองค์กรเพื่อทำบุญอีกทีนึง  และ TM เป็นเทคนิคการฝึกจิตที่ง่ายๆตามธรรมชาติจริงๆ(ขอยืนยันเป็นการส่วนตัว) คุณริว สามารถอ่านเพจ ตรรกะ เด็กหลังห้อง ของดิฉันได้ ส่วนใหญ่จะบันทึกประสบการณ์และความคิดจากการฝึกจิตที่ผ่านมา ...ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกับงานวิชาการตามที่ทางศูนย์ฯแนะนำเท่าไหร่นัก...เพราะเป็นคนอยู่นอกกรอบเช่นกันค่ะ    ท้ายนี้หวังว่าในอนาคตข้างหน้าสักวันนึงคุณริวจะยินดีเข้ามาสัมผัสเทคนิค TM (แต่ก็เข้าใจดีนะคะว่าเสียความรู้สึกไปแล้ว)

สวัสดีค่ะ คุณริว  ดิฉันเป็นผู้ฝึก TM คนนึง บังเอิญได้อ่านเจอโพสต์ที่คุณริวเขียนถึง TM  จิงๆ ดีใจมากค่ะที่คุณริว ให้ความสนใจกับการฝึกสมาธิ)   ดิฉันไม่ได้จะมามีเจตนาโต้แย้งความคิดเห็นในการรับรู้ใดๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณริวนะคะ  เข้าใจดีค่ะ  TM เป็นเทคนิคการฝึกจิตอีกวิถีทางหนึ่งที่มาจากทางโยคี มีการตั้งเป็นองค์กรตามประเทศต่างๆ มากมากมาย รวมทั้งจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัย (ส่วนใหญ่จะเติบโตในตปท. ทั้งในยุโรปและอเมริกา)ซึ่งเขารับรู้ว่าเป็นการฝึกจิตชนิดนึงคล้ายๆ กับการสมัครเข้าคอร์สพัฒนาจิตวิญญาณทั่วไป  ซึ่งพอมาเทียบกับการฝึกสมาธิบ้านเราที่เป็นศาสนาพุทธ ทุกคนต่างได้รับรู้ได้ว่าเป็นของควบคู่กัน.......การเก็บเงินเสียตังเพื่อฝึกสมาธิจึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับความรู้สึกของคนไทยในพุทธศาสนา..จึงไม่แปลกที่TM ในไทยจึงแทบไม่ได้มีคนรู้จักกัน    อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า TM เป็นคอร์สการฝึกจิตชนิดนึงที่ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิก (สไตล์ต่างประเทศ ค่าสมัครจะเข้าองค์กรเพื่อทำบุญอีกทีนึง  และ TM เป็นเทคนิคการฝึกจิตที่ง่ายๆตามธรรมชาติจริงๆ(ขอยืนยันเป็นการส่วนตัว) คุณริว สามารถอ่านเพจ ตรรกะ เด็กหลังห้อง ของดิฉันได้ ส่วนใหญ่จะบันทึกประสบการณ์และความคิดจากการฝึกจิตที่ผ่านมา ...ซึ่งอาจจะไม่เกี่ยวกับงานวิชาการตามที่ทางศูนย์ฯแนะนำเท่าไหร่นัก...เพราะเป็นคนอยู่นอกกรอบเช่นกันค่ะ    ท้ายนี้หวังว่าในอนาคตข้างหน้าสักวันนึงคุณริวจะยินดีเข้ามาสัมผัสเทคนิค TM (แต่ก็เข้าใจดีนะคะว่าเสียความรู้สึกไปแล้ว)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท