ยามที่ครอบครัวของฉัน...ขาดพ่อและแม่...ช่วงนี้ ปู่เรของฟ้าคราม
ก็ได้มาอยู่กับฉันกับอาจารย์ภัคร...ผลัดเปลี่ยนไป ๆ มา ๆ ดูแลบ้านนี้บ้าง
บ้านที่พรหมพิรามบ้าง...เพราะความห่วงพ่อเพรียงของฟ้าครามและฟ้าคราม
เป็นพ่อ - แม่ คนนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายและก็ไม่ยาก...ขึ้นอยู่กับการที่พวกเราจะมี
ความรับผิดชอบมาก - น้อยเพียงใด...เมื่อไม่มีพ่อให้ดูแล...ปู่เรก็มาดูแล
พวกเราแทน เพราะปู่เรบอกว่า..."รับปากพ่อ - แม่ของฉันแล้วว่าจะดูแลกัน
ไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่"...นี่คือ คำพูดที่ปู่เรของเจ้าฟ้าคราม บอกกับฉัน
เมื่อวาน (๑๒ ตุลาคม ๒๕๕๘) ไม่รู้ว่าปู่เรถามฉันขึ้นมาว่า...เราอยู่ร่วมกันมา
แบบนี้กี่ปีแล้ว...ฉันตอบว่า...๓๓ ปีกว่าแล้ว...ปู่เรร้องว่า...โอ้โห!!!
นานจนป่านนั้นหรือ?...ฉันพยักหน้าตอบรับว่า "ใช่"...๓๓ ปี แต่ฉันว่า...
เหมือนเมื่อวานนะ...วัน เวลา ผ่านไปเร็วมาก ๆ...แป้ปเดียวเอง...
ปู่เรบอกฉันว่า...เวลาผ่านไปเร็ว แต่ระยะเวลา ๓๓ ปี แล้ว...ไม่น่าเชื่อ...
พวกเรานึกถึง วัน เวลา ที่ตั้งแต่เริ่มต้นที่เรารู้จักกัน ครองรักกันเป็น
ครอบครัว...อดทน สู้ ปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ ให้ผ่านพ้นไปได้ในแต่ละวัน
ไม่ว่าจะเรื่อง ชีวิต การงาน...เราก็ผ่านมันมาได้ จวบจนทุกวันนี้...
เราอยู่ด้วยกัน เพื่อเป็นเพื่อนทุกข์ เพื่อนสุขกันมากกว่า...มีความเข้าใจกัน
หนักนิด เบาหน่อย เราอภัยให้กันและกัน...นี่คือ "ชีวิตครอบครัว"
ที่พวกเรา เรียกว่า "ความอบอุ่นของครอบครัว"...สุดท้าย ก็คือ...
การเป็นเพื่อนตาย ฝากผี ฝากไข้ กันยามเจ็บป่วย แก่ชรากันมากกว่า
เพราะนี่คือ วิถีชีวิตมนุษย์...มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน จึงจะทำให้
เรามีชีวิตครอบครัวอยู่รอดมาจนถึงบัดนี้...เป็นเพื่อนทุกข์ - เพื่อนตาย
ของการครองเรือน...ซึ่งสังคมสมัยใหม่จะไม่ค่อยได้เห็นกันมากแล้ว
เนื่องจากขาดความอดทน การเข้าใจ ฟันฝ่าปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ
ให้ผ่านพ้นไปด้วยกันได้...อยู่ด้วยกันไปจวบจนตายจากกัน...สำหรับ
"ชีวิตของการครองเรือน"...แม้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่เราก็ประคองให้
ครอบครัวของเรามาจนถึงป่านนี้ ๓๓ ปีกว่า...กับชีวิตคู่...
...
ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติเข้ามาอ่านบันทึกนี้ค่ะ
บุษยมาศ แสงเงิน
๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘
ขอขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ