การที่ได้นั่งคุยและนั่งฟังน้องอาจารย์คนหนึ่ง
พูดระบายความรู้สึกภายในลึก ๆ
ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรมากมายหลายอย่าง
น้องถูกคนอื่นในคณะพูดว่า "อยากเป็นหัวหน้าภาค"
เนื่องจากไปช่วยงานรองคณบดีฝ่ายวิชาการ
ซึ่งเธอถือเป็นพี่สาวและเพื่อนร่วมงานในภาคเดียวกัน
อยากพูดสั้น ๆ แบบนี้ว่า พี่สาวที่เธอนับถือ
ไม่มีศักยภาพมากพอที่จะทำงานในตำแหน่งนี้ได้ดี
ทำให้น้องจะคอยเป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ
และคอยช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
จนใคร ๆ มองว่า น้องคิดการณ์ไกล
โตไวกว่าที่ควรจะเป็น ทั้ง ๆ ที่อายุงานแค่ ๓ ปี
ผมสนิทสนมกับน้องคนนี้มาหลายปี
ไม่ค่อยเชื่อว่า น้องจะเป็นคนแบบนั้น
จนวันนี้ได้มีโอกาสพูดคุยกับอีกครั้งหนึ่ง
ซึ่งผมตั้งคำถามไปว่า
"มีคนบอกว่าน้องอยากเป็นหัวหน้าภาค จริงหรือเปล่า"
น้ำตาไหลตั้งแต่ยังไม่ได้ตอบ
ทำให้ความรู้สึกที่พูดหลังจากนี้พรั่งพรูไปทุกเรื่อง
จนได้เข้าใจในเนื้อแท้จริง ๆ ว่า
ทำไมต้องไปช่วยเหลือพี่สาวคนนี้
ทำไมทุก ๆ อย่างในภาควิชา เขาต้องเป็นคนจัดการทั้งหมด
สถานการณ์และปัจจัยต่าง ๆ ทำให้เกิดเรื่องบีบคั้นแบบนี้
ผู้อาวุโส ๓ คน เตรียมเกษียณ
น้องอีก ๑ คน หนีไปมหาวิทยาลัยที่ใหญ่กว่านี้
พี่อีกคนไม่ยอมช่วยงานอะไรในภาค
เหลือน้องคนนี้คนเดียว ... ก็ต้องทำเองเกือบทั้งหมด
นี่แหละ คือ สถานการณ์บังคับ
ความรู้สึกจริง ๆ คือ เธอเป็นลูกหม้อของที่นี่
เธอไม่อยากให้ภาควิชาที่เธอรักต้องล่มสลายไปต่อหน้า
ขณะที่เธอยังมีชีวิตอยู่ที่นี่
เธอทำงานหนักมากในภาควิชานี้
แถมยังต้องไปช่วยงานพี่สาวคนนี้อีก
แต่ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น
น้ำตาความคับแค้นใจจึงออกมา
เธอเล่าต่ออีกว่า เมื่อภาควิชาอยู่ได้แล้ว
เธอจึงจะตัดสินใจไปศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น
ขณะนี้ก็ประคองภาควิชาไปก่อน
ทำให้ภาควิชามีหลักสูตรที่จะเปิดสอนได้
ทำผลงานวิชาการรอเวลาขอตำแหน่ง
ผมคิดว่า นี่เป็นสิ่งดีนะ จึงให้กำลังใจไป
ไม่น่าแปลกใจว่า คนเรามักจะเลือกมองใครสักคน
ตามสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ฝ่ายเดียว โดยไม่ได้ไปสอบถามว่า
สิ่งที่ตนเองคิดนั้นถูกต้องหรือไม่
แต่เลือกจะที่ตัดสินแบบลบ ๆ ไปแล้ว
เราสามารถให้เครื่องหมายลบใครก็ได้
โดยที่เราไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อใดก็ตาม
เราได้รับเครื่องหมายลบจากคนอื่นบ้าง
เราถึงจะรู้สึก ...
แต่ก็มีสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ต่อมาอีก ...
ด้วยประสบการณ์และความมั่นใจของน้อง
ทำให้น้องสร้างศัตรูในที่ทำงานไว้เยอะ
คนเหนือใช้คำแรง ๆ ว่า "อวดหล๊วก"
หมายถึง อวดเก่ง อวดดี อะไรประมาณนี้
เคยมีเหมือนกันว่า น้องเขาแสดงความคิดเห็น
โดยที่ไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงออกไป
ทำให้เกิดการต่อว่า จากผู้รู้และผู้อาวุโสมา
นั่นเป็นบทเรียนสำคัญเลยว่า
ทีหลังจะพูดอะไร ให้รู้ข้อมูลที่แท้จริงเสียก่อน
ยิ่งอวดตัวมากแค่ไหน ยิ่งบาดเจ็บหนักมากขึ้นเท่านั้น
ความฉลาด ควรฉลาดอย่างมีปัญญา
สถานการณ์ตอนไหนควรพูด
สถานการณ์ตอนไหนควรเงียบ ๆ เอาไว้
การทำมากกว่าพูด
ดูเหมือนจะมีคุณค่ามากกว่า
ให้ทุกอย่างเป็นที่ประจักษ์
แต่ปากไม่ต้องขยับอะไรเลย
ผมคิดว่า ผมมองคนไม่ผิดพลาด
เนื้อแท้ของน้องเป็นคนดี
อาจจะมีความผิดพลาดบ้าง
ตามวัยและประสบการณ์
ผมไม่เคยคิดจะมองคนตามที่คนอื่นมอง
เพราะผมสัมผัสในสิ่งที่เขาเป็น
มากกว่าคนที่เอาแต่วิจารณ์
แต่ไม่เคยเรียนรู้คนที่พูดถึง
บาปทางมโนกรรม วจีกรรม และกายกรรม
จะมากันครบโดยมิได้นัดหมาย
มอบบาปกรรมให้คนที่กระทำแบบนั้น
หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
เวลาจะทำหน้าที่ตัวของมันเอง
โปรดตรองดูครับ
บุญรักษา ทุกท่าน ;)...
ยังมีคนอีกมากที่ไม่สามารถยอมรับคนอื่นได้อย่างที่เขา(คนอื่น) นั้นเป็นค่ะ
กว่าจะเป็น เรือชนะคลื่น น้องคงต้อง เจออีกเยอะแต่ ขอให้เป็นตัวของตัวเอง เพราะ หนทางจะพิสูจน์ม้า เวลาพิสูจน์คนจริง ๆ
การช่วยงานกับการทำงานจริงต่างกันค่ะ
การที่เราคิดว่าทำทุกอย่างได้ อาจไม่ใช่
เพราะขณะช่วยงานหัวหน้า นั่นแปลว่า ยังทำงานภายใต้อำนาจหัวหน้าอยู่
จะเป็นการทำงานที่ง่ายค่ะ
เมื่อใดที่เราขึ้นเป็นหัวหน้า ที่เราต้องใช้บารมีและพลังของตนเอง
เราจะรู้ว่า ไม่ง่ายค่ะ
หนทางและเวลา จะพิสูจน์เอง
-สวัสดีครับ
-อ่านแล้ว...สะท้อนความจริงบางอย่าง...
-วันไหนที่เราได้รับเครื่องหมายลบจากคนอื่นบ้าง...ก็จะรับรู้ถึงความรู้สึกนะครับ..
-มีทุกที่...ทุกเวลา...เสมือน 7 11 นะครับ...อิๆ
ชอบใจคุณเพชร...ช่างเปรียบเทียบ
เหมือน...7 / 11 มีทุก ๆ หัวมุมถนนนะ ๕๕๕๕
ขอให้กำลังใจน้องคนนี้
เชื่อว่า ระบบการศึกษาและราชการบ้านเราไม่ค่อยรักษาคนเก่ง คนดีไว้เลย
เสียดายมาก
กาลเวลาพิสูจน์จริงๆครับ
ขอบคุณอาจารย์มากครับ
ยังมีสิ่งที่น้องคนนี้ต้องพบเจออีกมากมาย
ขอบคุณมากครับ ท่านอาจารย์ GD ;)...
เห็นด้วยกับพี่แก้ว แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช ครับ ;)...
ขอบคุณมากครับพี่ ;)...
7 11 จริง ๆ ด้วยครับ คุณเพชรฯ เพชรน้ำหนึ่ง 555 ;)...
ขอบคุณมากครับ ;)...
ขอบคุณมากครับ คุณมะเดื่อ 555
บางที...
คำตอบ
ก็โผล่
เมื่อ "คน" หายไปกับพันธะทั้งปวง
ขอบคุณมากครับ คุณ แผ่นดิน ;)...
ขอบคุณครับ ;)...