ผมเกิดมาเป็นเด็กบ้านนอกในยุคที่วิทยาศาสตร์กำลังเฟื่องฟู
ประมาณว่า สิ่งที่เรียนในโรงเรียนยุคนั้น เป็นวิทยาศาสตร์ แต่สังคมรอบข้างมีหลากหลายมากกว่าวิทยาศาสตร์
มองย้อนกลับไปวิทยาศาสตร์ได้เข้ามาเป็นเนื้อเป็นหนังในชีวิตมากกว่าศาสตร์อื่น ๆ
สิ่งใดที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ด้วอายตนะ ผมก็จะปฏิเสธหรือแขวนไว้ก่อน
จนเวลาล่วงเลยมากว่าครึ่งชีวิต ตอนเรียนปริญญาเอกอยู่ปีที่ 2 (พ.ศ.2548)
ชีวิตก็เกิดการหักเห ให้หันมาสู่เส้นทาง พุทธธรรม โดยบังเอิญ หนอ
บนเส้นทางพุทธธรรมนั้น
ผมพยายามเขียนถอดบทเรียนทั้งการเดินเร็ว เดินช้า ผิดทาง ถูกทาง ไว้ในบันทึกนี้
แบบสด ๆ ร้อน ๆ เพื่อให้ผู้ที่ยังไม่ได้เริ่มเดิน และคิดอยากจะเดินได้ค่อย ๆ พิจารณาตาม
ในบันทึกเกือบทั้งหมด จึงไม่ใช่คำตอบสุดท้าย อันเป็นปรมัตถ์สูงสุด ที่ยากเกินจะเอื้อมถึง
แต่เป็นบันทึกธรรมดาของคนดิบคนหนึ่ง หนอ
มีผิดทางบ้าง ถูกทางบ้าง เป็นธรรมดา
และหลายครั้ง จะมีการปรับวงสวิงครั้งใหญ่อยู่เสมอ ๆ
ตุลาคม 2558 นี้ก็เหมือนกัน ผมสังเกตุว่า มีการปรับสวิงแบบปรับเล็กอีกครั้งแล้ว หนอ
ในการฝึกหัดกอล์ฟนั้น ถ้าเราพบว่า วงสวิง ของเรายังมีข้อผิดพลาดอยู่นั้น
ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนวงสวิง ก็จะทำให้พัฒนาให้เป็นเลิศได้ยาก
การปรับวงสวิงเป็นการออกจากความคุ้นชินเดิม จึงทำให้ช่วงที่ปรับใหม่ ๆ นั้น
คะแนนอาจขึ้น ๆ ลง ๆ เพราะยังคุ้นชินกับของเก่า และใช้ของใหม่ยังไม่เก่ง
ทางธรรมก็เช่นเดียวกัน หนอ
ผมสังเกตุว่า เมื่อภูมิธรรมเราเพิ่มขึ้น โจทย์ธรรมใหม่ ๆ ก็จะเข้ามาทดสอบ
ถ้าภูมิธรรมใหญ่กว่าโจทย์ธรรม จิตใจเราก็ผ่านหรือเอาอยู่
แต่ถ้าโจทย์ธรรมนั้นใหญ่กว่าภูมิธรรมเรา ใจเราก็ต้องกระเด็นไปตามแรงเหวี่ยงเป็นธรรมดา หนอ
ไม่มีความเห็น