เข้าพรรษา (40) ; ทำเรื่องที่ยุ่งยากให้ซ้บซ้อนน้อยลง
๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๘
นาฬิกาบอกเวลาตี๔ เสียงภายในบอกตนเองว่า "ต้องผ่อนอาหาร" ไม่งั้นร่างกายจำย่ำแย่กับกระบวนการเผาผลาญอาหารจะจัดการสิ่งที่เป็นพิษต่อร่างกายที่ร่างกายรับไม่ได้เช่น ผงชูรส...นี่คือเสียงเตือนตนเองในเช้านี้
ทำกิจวัตรช่วงเช้าเป็นปกติ
ทำวัตรเช้า...เหมือนอย่างที่อยู่บ้านและอยู่วัด
จากนั้นก็เตรียมตัวสำหรับการจัดกระบวนการเรียนรู้ R2R ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติในวันนี้ ...
ข้าพเจ้ารับอาหารเจ็ดโมง การพักที่นี่มีความโชคดีที่ว่าข้าพเจ้าไม่มีอาการแพ้ผงชูรส อาหารที่นี่จัดได้ดีได้สารอาการครบถ้วน รสชาติทานได้เป็นปกติทั่วๆ ไปที่สำคัญมีผลไม้และสลัดผัก
น้องอ้อนมารับตามเวลาที่นัดหมาย
ถึงห้องประชุมเวลาเก้าโมงพอดี ทุกคนมากันพร้อมด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เป้าหมายการเรียนรู้วันนี้อยู่ที่การสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ข้าพเจ้าเริ่มกระบวนการให้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ภายในกลุ่มโดยหยิบงานวิจัยของตนเองมาแชร์กันดูว่า "เครื่องมือที่ตนเองเตรียมจะออกแบบนั้นสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และคำถามการวิจัยหรือไม่"...เป็นกระบวนการที่ดีดีมากๆ ในทัศนะของข้าพเจ้าเพราะเป็นการ Refection ตนเองโดยที่ข้าพเจ้าไม่ต้องวิพากษ์ ผู้เรียนจะเกิดการสะท้อนกลับต่อตนเองว่าสิ่งที่ตนเองคิดมาในเบื้องต้นนั้นใช้ได้หรือยังโดยมีเพื่อนในกลุ่มช่วยสนับสนุนและแลกเปลี่ยวแนวคิดกัน
จากนั้นคุณชลภัสสร..ผู้ช่วยวิทยากรช่วยเติมเต็มองค์ความรู้ในแนวคิดการสร้างเครื่องมือ และวันนี้ในครึ่งบ่ายที่เหลือข้าพเจ้าให้ทุกคนลองได้ลงมือปฏิบัติสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
ได้ผลเกินความคาดหมาย
วันนี้เป็นวันที่เราทำความเข้าใจเรื่องที่ยุ่งยาก แต่กระบวนการก็สามารถขจัดความยุ่งยากให้เรียบง่ายและซับซ้อนน้อยลง ภายใต้บรรยากาศของความเกื้อกูลและเป็นกัลยาณมิตร
ร่วมกันผ่านวันแห่งการเรียนรู้ด้วยรอยยิ้มและความเบิกบาน
ข้าพเจ้ามาถึงที่พัก นั่งพักสักครู่ก็เดินจงกลมภาวนาพร้อมฟังธรรมะของพ่อแม่ครูบาอาจารย์...และเขียนหนังสือรวมถึงเขียนบันทึกใน Gotoknow ด้วย
ทำวัตรเย็นตามปกติ
ใช้ชีวิตให้ปกติจนเป็นนิสัย
สถานที่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำกิจวัตรปกติของตนเอง
วันนี้จึงเป็นวันที่เต็มเปี่ยมในเรื่องความเรียบง่ายในอีกวันหนึ่งภายใต้บริบทเมืองกลางกรุงฯ
ไม่มีความเห็น