"เทียนไล่ยุงแต่ไม่ไล่ไก่"
จิตนี้ตั้งใจแน่วๆในการเดินจงกลม ถึงที่ทางภาวนาก็ตั้งใจจดจ่อจุดเทียนเพื่อใช้ไล่ยุง สังเกตว่าพอนำเทียนมาตั้งไก่ป่าก็มากันเต็ม เขาไม่ได้มาทำอะไรเราแต่เขามารอที่จะจิกกินเทียน
วันนี้ดูท่าจะหิวมากพากันมาหลายตัว หลวงปู่เคยสอนว่าไก่ป่าพวกนี้เขาจะหากินเองตามธรรมชาติ ตัวเบาบินสูงขึ้นไปนอนบนยอดไม้ และ 6-7 ปีมานี่ข้าพเจ้าสังเกตว่าเสียงไก่ขันทุกหนึ่งชั่วโมงหายไป เมื่อก่อนจะเริ่มขันตั้งแต่หลังเที่ยงเป็นต้นไป
เมื่อก่อนอยู่วัดคนยังไม่ค่อยเยอะ เงียบสงัด พระมีไม่เยอะ แม่ชีก็มีเพียงคุณยายชีโก...สงบสงัดภาวนาดี ตกดึกก็จะมีเสียงนกร้องแปลกๆ แต่เดี๋ยวนี้ทุกอย่างก็เปลี่ยนไปตามกาล
หลังจากเตรียมเทียนเรียนร้อยก็ตั้งจิตอธิษฐานเพื่อปฏิบัติบูชา ก้าวย่าง "พุทธ-โธ" เดินได้สักพักรู้สึกว่าทำไมไก่เยอะจังเลย เขาจะรอจังหวะที่เราเดินผ่านไปก็จะเข้ามาจิกกินเทียน ...เป็นอยู่อย่างนี้ จนที่สุดตัดใจไม่สนใจ พอไม่สนใจไก่ก็หนีไปเฉยเลย...
ระหว่างที่เดินตัวรู้ก็ปิ๊งแว้ปขึ้นมา...
อยากเกาเราไม่เกา ...อันเป็นการเกาจากอาการคัน ความยากแล้วทำตามความอยาก ...สติต้อทันการเกา เราไม่เกาสักพักอาการคันก็จะหายไป เช่นกัน ...ขณะที่อยากเกา ใจนี้ก็เคลื่อนไปสู่ความไม่อยากสลับกัน ไม่อยากเจ็บป่วย ไม่อยากคัน...เผลอรู้ไม่ทันก็ตกเป็นทาสกันอยู่เรื่อยไประหว่างความอยากและไม่อยาก
อยากสุขภาพดี ไม่อยากป่วย
จิตจะเป็นตัวรู้ปรากฏที่คู่ขนานกันเช่นนี้
เราทำเพียงหน้าที่คือ ทำความรู้ว่าสภาวะจิตเราเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ มันมีความอยากและไม่อยาก สลับกันไปมาแต่เราไม่ตกเป็นเหยื่ออยากแล้วต้องทำ ไม่อยากแล้วก็ไม่ทำ ...
การฝึกฝืนใจ...จะช่วยให้จิตมีกำลังมีจิตนุภาพมากขึ้นที่จะไม่ทำตามอำนาจของความอยากและไม่อยาก
การศึกษาเพื่อทดลองชีวิต
...
2 กันยายน พ.ศ.2558
ไก่กินเทียนด้วยเหรอค่ะ
ไก่ป่าที่วัด ...จะมาจิกกินเทียนเป็นประจำค่ะ