เข้าพรรษา (28) ; นอบน้อม ใจเป็นกลาง และเมตตา ใจต้องไปให้ถึง
วันนี้ได้มีโอกาสฟังเทศน์ธรรมะของหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี ตอนที่ได้ฟังคือ ช่วงท้ายของการละสังขารขององค์ท่าน ฟังแล้วปิติซาบซึ้งใจมาก ความนุ่มนวลนอบน้อมของพระอุปฐากที่คอยดูแลพ่อแม่ครูบาอาจารย์ แม้กาลล่วงเลยมาแล้วการมาฟังเทปบทนี้ยังคงให้ความสัมผัสได้ถึงความนอบน้อมดังกล่าว
และความนอบน้อมดังกล่าวก็ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะที่ลูกศิษย์มีต่อองค์ท่านอย่างเดียวเท่านั้น สมัยที่ท่านอุปฐากและติดตามองค์หลวงปู่มั่นปฏิปทาในการอุปฐากองค์พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่นแทบถวายกายใจเลยทีเดียว
ข้าพเจ้ามักเคยได้ยินหลวงปู่สอนเสมอว่า การดูภาพถ่ายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบก็ดี การฟังธรรมก็ดีต่างเป็นมงคลแก่ชีวิต...
พ่อแม่ครูบาอาจารย์แต่ละองค์ท่านต่างล้วนมีความนุ่มนวล มีเมตตาอย่างประมาณมิได้ ... เป็นที่เย็นใจทุกคราที่ได้พบได้กราบได้นอบน้อม
ก่อนเดินจงกลมในเย็นวันนี้มีโอกาสได้กราบองค์หลวงปู่ก่อนเข้าทางภาวนาในทัศนะของข้าพเจ้าแล้วถือว่าเป็นมงคลอันยิ่งใหญ่ที่นำไปสู่กำลังใจของการสร้างความเพียร...
หลวงปู่ปรารภบทสนทนาที่เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง ในใจของข้าพเจ้าผลุดขึ้นมาว่า ตลอดเวลาองค์ท่านสอนเรื่องเมตตาอย่างเดียว ท่านสอนโดยทำให้ดูทำให้เห็นเป็นตัวอย่างและให้โอกาสพร้อมสนับสนุนทุกๆ กิจที่ใจจะเราจะได้เรียนรู้เรื่องเมตตา...
ไม่มีสิ่งใดใดที่ออกจากคำว่าเมตตา เมตตาที่หาประมาณมิได้ ไม่เพียงแค่เมตตาเฉพาะในบุคคลที่เราเสน่หาเท่านั้น หากแต่เมตตาแม้แต่คนที่ด่าว่าหรือทำร้ายเราได้ ที่ไม่ใช่ญาติพี่น้อง แผ่กว้างใหญ่ไพศาลออกไป
ตัวรู้ตรงนี้ได้ทำความรู้ในตนเองขณะที่เดินจงกลม...
นี่ไงๆ เรียนต่อไปเรียนไปให้ถึงที่สุด เป็นเสียงแห่งภายในหรือ Inner voice ดังขึ้นมา
เป็นที่น่าแปลกใจมากทุกๆ วันยุงจะเยอะมาก แต่วันนี้แทบไม่มารบกวนในการเดินในการทำความรู้ต่อตนเองเลย และวันนี้ไม่ได้จุดเทียนด้วย ระหว่างเดินกลับไปกลับมากลิ่นดอกไม้หอมโชยมาเย็นใจช่างเป็นวันที่ประเสริฐอีกหนึ่งวัน
ตกตอนเย็นหลังเดินจงกลม
มานั่งเล่นที่ศาลาสี่สักพักดูเหมือนเจ้าลูกฮักสุนัขทั้งหลายต่างวิ่งมาคลอเคลียไม่ห่างนี่กระมังการสะท้อนผลของการฝึกฝนหัวใจแห่งเมตตา
...
27 สิงหาคม พ.ศ.2558
ไม่มีความเห็น