เข้าพรรษา (2) ชีวิตอันอุดม
ตื่นนอนตี ๔ เข้าทางภาวนา...ซึ่งอยู่หลังกุฏิที่พัก
ภาวนาที่นี่ดี เย็นสงบ
มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา...มีต้นไม้เล็กให้ความชุ่มชื่น
กระต๊อบเล็กๆ ฝีมือสมาชิกฟื้นฟู...หาเศษไม้มาทำคงทนมากสามสี่ปีแล้วสภาพยังใช้ได้ ให้ความอบอุ่นใจมากเวลาภาวนาที่นี่ทั้งๆ ที่เป็นป่าช้าเก่าของที่ตั้งวัดป่าหนองไคร้เก่า
งูหรือสัตว์ร้ายก็ไม่มีมารบกวน
สงัดทั้งกลางวันและกลางคืน
ข้าพเจ้าย้ายมาภาวนาที่นี่เข้าปีที่สี่ ...ช่วงไหนในสำนักแม่ชีมีคนเยอะก็นอนที่นี่เลยสงบจากเสียงภายนอกทำให้ภายเงียบได้เร็วขึ้น
ช่วงนี้ทานอาหารได้น้อยลง แม่ตึ่ง แม่รี ...ติ๋วและมลคอยดูแลเรื่องอาหารการกิน ต้องระวังเพราะยังอยู่ในสภาวะอิมมูนต่ำโอกาสแพ้สิ่งต่างๆ จะไวและเร็วมาก โดยเฉพาะผงชูรส พักหลังไม่ได้ขึ้นลานธรรมเพราะนั่งนานไม่ได้ที่ขามีผื่นแพ้และขาบวม และความรู้สึกรวมทั้งตั้งใจไม่อยากขึ้น...หลีกเลี่ยงคนเยอะ
เข้าพรรษาปีนี้เลยตั้งใจทานข้าวเฉพาะสำรับที่มลจัดให้ ครูบาอาจารย์บางท่านฉันในบาตรเฉพาะที่บิณฑบาตมา...ก็เลยเรียนรู้ปรับในส่วนตนเองว่าทานเฉพาะที่แม่รีและแม่ตึ่งห่อปิ่นโตมาให้...ขนาดเท่านี้ก็ยังทานไม่หมดได้โอกาสเผื่อแผ่ถึงมลและน้อนนิน้อยด้วย
การสมาคมกับผู้คนน้อยลง
มีบ้างก็เฉพาะตอนทำงานแต่ก็เป็นช่วงที่ดีเสมอ
อยู่วัดได้ภาวนา ได้อยู่กับตนเอง ได้ทบทวนภายในจิตใจ
ทุกๆ วันเสาร์ยังคงสอนและทำกลุ่มเยียวยาให้กับสมาชิกฟื้นฟู...เขามาให้เราได้มีโอกาสฝึกฝนบนเส้นทางบารมี บุคคลหลักที่เยียวยาเด็กสมาชิกเหล่านี้คือ พระอาจารย์ต้อ...หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นข้าพเจ้า แต่เปล่าเลย...ผู้เยียวยาจนถึงระดับมิติจิตวิญญาณคือพระอาจารย์ต่างหาก หลายคนปรามาสท่านเพราะบุคลิกภายนอกท่านดุมุทะลุ พูดจาตรงไปตรงมาโผงผาง กับญาติโยมก็หาพูดอ่อนหวานไม่ ใครมาท่าไม่ดีท่านก็ตีแสกหน้าหงายหลังไปใครเข้าใจก็จะมองจิตตนเองชัด และยิ่งเมื่อยอมรับในสิ่งที่ท่านดุตนเองได้ใจก็เจริญเร็ว...
สะท้อนได้จากสมาชิกฟื้นฟูท่านขัดใจเขาให้สดชื่นเบิกบานเร็วมาก ผู้คนปกติทำได้ยาก กระบวนการทางจิตวิทยาที่เรียนยังไม่เท่าวิธีการนำพาของท่าน
ช่วงบ่ายตั้งใจเย็บมุ้งระหว่างนั้นมีกัลยาณมิตรผู้ร่วมทุกข์กันมาหลายปีมาเยี่ยมเยือนและกราบพระอาจารย์...ต้องใช้คำว่าร่วมทุกข์เพราะทุกครั้งที่ทุกข์อุปสรรคพี่นางจะอยู่เคียงข้างเสมอ...
ความเบินบานใจผ่านบทสนทนาและการซึมซับถึงเรื่องราวที่ผ่านประสบการณ์ร่วมกัน หัวใจนี้ยิ้มเลย สองชั่วโมงเต็มอิ่มและน้องก้าวไม่กระวนกระวายเลยนัางรอคุณแม่ทั้งหลายได้...
ตกเย็นเข้าทางภาวนา...ทำวัตรเย็น
แล้วนั่งเย็บมุ้งต่อพร้อมฟังชีวประวัติท่านสมเด็จพระอาจารย์โต...และของหลวงปู่มั่น
ปิติอิ่มใจ
ชีวิตเช่นนี้เป็นชีวิตอันอุดม...ยิ่งนัก
...
๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕
ไม่มีความเห็น