ชีวิต..ละเมียดละไม


Slow life ก็ไม่ได้บอกให้ช้ากับทุกสิ่ง ... แต่เป็นการสร้างสมดุลแห่งช่วงเวลาในชีวิตอย่างเหมาะสม

ในปัจจุบัน..ชีวิตมีแต่ ความรีบเร่ง ... ชีวิตมีแต่สิ่งบีบคั้น .. วุ้นวาย...ทำให้คนใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปในสังคม...คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่เครียด...มีปัญหา..มีความทุกข์...การเจ็บป่วยก็ตามมาทั้งโรคเรื้อรังและอุบัติเหตุ ซึ่งจริงๆ แล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนชีวิตได้ ด้วยตัวเราค่ะ...มองมุมบวกมากขึ้น ใจเย็นๆ มีสติด้วย Slow life ...ดังบทความต่อไปนี้ค่ะ

Slow life คือ การใช้ชีวิตแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างมีสาระ... ชะลอตัวเองให้ไม่ไหลอย่างไร้ทิศทางไปตามกระแสสังคม ....ทำทุกอย่างด้วย สปีด (Speed) ที่ช้าลง ... เพื่อให้มีสติและซึมซาบความหมายของชีวิตได้มากขึ้น .... ทั้งหมดนี้มี Carl Honoré ... บุคคลที่ Huffington Post (บล็อกอันดับหนึ่งของโลก อ้างอิงจาก Technorati)ขนานนามว่าเป็นตัวพ่อ....แห่งการใช้ชีวิตแบบช้าๆ ได้ให้นิยามของชีวิต Slow life เอาไว้ ซึ่ง Carl Honoré ก็ยังออกตัวไว้ว่า การใช้ชีวิตแบบ Slow life ไม่ได้หมายความว่า เราใช้ชีวิตอย่างช้าๆ แล้วจะกลายเป็นคนล้าหลัง หรือดูว่าเป็นคนทึ่มไม่น่าจะทันกิน .... เพราะใครกันล่ะที่บอกว่า หากเราใช้ชีวิตแข่งกับเวลา ต้องแซงหน้าทุกๆ คน ... แล้วชีวิตจะดีกว่าทั้งที่จริงแล้วชีวิตที่เร่งรีบอย่างที่เคยทำมาตลอด....ส่งผลในด้าน­­ลบกับเราหลายอย่างเช่น ระบบการทำงานของร่างกายถูกบังคับให้ทำงานหนักกว่าเดิม หรือ ยิ่งรีบยิ่งพลาดอะไรดีๆ ในชีวิตไปไม่น้อย .... ดังนั้นหากเราใช้ชีวิตในทุกๆ ย่างก้าวอย่างละเมียดละไมที่สุด ... ชีวิตก็น่าจะได้อะไรที่มากกว่า

ทว่าการใช้ชีวิตแบบ Slow life ก็ไม่ได้บอกให้ช้ากับทุกสิ่ง ... แต่เป็นการสร้างสมดุลแห่งช่วงเวลาในชีวิตอย่างเหมาะสม ... อาจมีบ้างที่ชีวิตต้องการความเร่งด่วน ... แต่ถึงอย่างไรความเร่งด่วนคงไม่ได้จำเป็นกับชีวิตเสมอไปหรอกใช่­­ไหม ... ฉะนั้นสิ่งไหนควรรีบให้รีบ ... สิ่งไหนช้าได้ก็อย่าเร่งตัวเองเท่านั้นพอ

นิยามชีวิตแบบ Slow life ของ Carl Honoré แล้ว Leo Babauta นักเขียนชื่อดังชาวอเมริกันเชื้อสายกวม พ่วงด้วยตำแหน่งผู้ก่อตั้งเว็บบล็อก Zen Habits ... ยังได้บอกเล่า...กฎการใช้ชีวิตแบบ Slow life ไว้ในหนังสือที่ขายดิบขายดีเรื่อง The Power of Less ว่า ... หากอยากใช้ชีวิต Slow life แบบถึงแก่นจริงๆ คุณต้องเดินรอยตาม 10 ข้อนี้

(ขอบคุณ ข้อมูลจากhttp://health.kapook.com/)


1. ทำให้น้อย
เหลายคนมโน(ใจคิดไปเอง/ความคิด) ไปเองว่าทุกสิ่งในชีวิต...สำคัญเทียบเท่ากันหมด ... จนบางครั้งถึงกับจัดลำดับไม่ถูกว่าควรทำอะไรก่อนดี .. แต่แทนที่จะปล่อยตัวเองให้หัวหมุนไปกับภารกิจร้อยแปดพันอย่าง ... ลองตั้งสติแล้ว....ลำดับความสำคัญดูว่า ... สิ่งไหนควรต้องทำและจำเป็นต้องรีบจัดการให้เสร็จไปก่อน .... ที่เหลือก็ค่อย ๆ เรียบเรียงความสำคัญทีหลัง.. แล้วแบ่งเวลาให้ตัวเองได้หยุดหายใจบ้างเถอะค่ะ

Image result for รูป งานยุ้ง


2. อยู่กับปัจจุบัน
ไม่เพียงแต่ชะลอจังหวะชีวิตของตัวเองให้ช้าลง .... แต่คุณควรต้องมีสติกับสิ่งที่กำลังเป็นอยู่ให้มากที่สุด ... สิ่งที่เกิดไปแล้วปล่อยผ่าน สิ่งที่ยังไม่เกิดช่างมัน ... สนใจแค่นาทีที่กำลังเป็นไป ... สิ่งแวดล้อมที่กำลังนั่งหายใจอยู่และคนที่มาร่วมหายใจอยู่ข้างๆ คุณเท่านั้นพอ


3. เบรกตัวเองจาก...โลกออนไลน์สักพัก
เทคโนโลยีและโซเชียล (Technology and social) ในยุคนี้... แทรกแซงเข้ามาในชีวิตเราแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ... หลายคนเลยเผลอเปิดตัวเองให้พร้อมจะรับรู้ข่าวสารและติดต่อกับสังคมแทบจะตลอดเวลา ... เผลอทำชีวิตส่วนตัวหล่นหายและแขวนความเป็นไปของเราไว้กับโลกออนไลน์...ที่มีทั้งคนคุ้นเคยและแปลกหน้า ... ฉะนั้นลองชัตดาวน์(Shut down) ตัวเองมาอยู่ในมุมส่วนตัวสักพัก ... เปิดโอกาสให้ตัวเอง....มีเวลาเห็นและรับรู้สิ่งรอบตัว..ที่เคยมองข้ามไปบ้าง แค่นี้ก็ได้สัมผัสคำว่าชีวิตได้มากขึ้นอีกนิดแล้วนะคะ


4. สนใจ..คนรอบข้างอย่างจริงจัง
ทุกวันนี้เราเข้าสังคม เรานัดพบเพื่อนเก่าๆ และมีเวลาให้ครอบครัวเป็นประจำ แต่ส่วนมากมักจะเป็นแนวพบเจอ พูดคุยแปบๆ ... แต่ไม่ได้สื่อสารกันอย่างจริงๆ จังๆ ... เนื่องจากมีเทคโนโลยีและการสื่อสารผ่านโลกออนไลน์เข้ามาแย่งพื้นที่ .... จากที่ควรจะนั่งสบตาและพูดคุยกันอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ... เราก็กลับทำเพียงฟังในสิ่งที่เขาพูดและคอยหาจังหวะพูดในสิ่งที่อยากพูดกลับไป ... เว้นช่องว่างของความเข้าอกเข้าใจกลวงโบ๋อย่างที่ไม่มีใครรู้ตัว... ฉะนั้นเปลี่ยนมาใช้ชีวิตกับคนรอบข้างแบบที่ได้สบตาคู่สนทนามากกว่าจ้องหน้าจอกันเถอะ


5. ซึมซับ..ธรรมชาติให้มากขึ้น
เพียงแค่เราใส่ใจธรรมชาติมากขึ้น ... เราก็สามารถสัมผัสธรรมชาติได้แทบทุกวินาที โดยที่ไม่จำเป็นต้องเก็บเสื้อผ้าแล้วออกเดินทางไปหาธรรมชาติจากที่ไกลๆ ...ให้เหนื่อยเลย ...ไม่เชื่อลองเงยหน้าจาก หนังสือ มือถือ แท็บเล็ต ... แล้วหันออกไปมองนอกหน้าต่าง เปิดโอกาสให้ตัวเองเดินย่ำเท้าบนพื้นหญ้า ให้สายลมพัดพาผมให้ปลิว ... ให้ผิวได้รับวิตามินดีจากแสงแดด ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง....แทนการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ... สัมผัสทุกสิ่งที่เรียกว่าธรรมชาติมากขึ้นอีกนิด ... แล้วคุณจะรู้สึกโชคดีกับการมีชีวิตอยู่มากขึ้นทุกวันนะคะ


ทะเลที่หัวหินค่ะ ... ธรรมชาติที่สวยงามมาก นะคะ


6. กินให้ช้าลง
เคี้ยวอาหารให้ช้าลง ... ละเมียดละไมความอร่อยจากอาหารที่เราตักเข้าปาก ... ใครไม่เคยใช้ชีวิต Slow life แบบนี้คงไม่รู้หรอกว่า ... แค่ปรับวิถีการกินอาหารให้ช้าลง... ก็มีความสุขมากขึ้นเยอะแล้ว อย่างน้อยระบบย่อยอาหารของเราก็ไม่ต้องเร่งจนเหนื่อย ภายใน ... ร่างกายสมดุลขึ้น ชีวิตก็สมบูรณ์แบบได้นะคะ


นพ.สมพนธ์ พา MASATO YU ไปทานข้าวที่ชายทะเล หัวหิน

7. ขับรถให้ช้าลง
ชีวิตที่เร่งรีบอาจทำให้คุณต้องเหยียบไมล์รถจนเคยชิน ... จนบางครั้งก็ไม่ต่างจากการพาตัวเองไปสุ่มเสี่ยงกับอุบัติเหตุและความประมาทเลยสักนิด ... ดังนั้นถ้าไม่ต้องรีบ คงดีกว่า ขับรถให้ช้าลง ... มีน้ำใจบนท้องถนและอาจตื่นให้เช้าขึ้นอีกหน่อย ... จะได้มีเวลาแวะในจุดที่อยากแวะแต่ไม่เคยได้ทำ เปิดประสบการณ์ชีวิต
ให้ตัวเองเพิ่มขึ้นอีกหลายอย่าง


รถชนกัน รวม 16 คัน


8. โลกสวยด้วยมุมมอง
โลกจะสวยหรือเสื่อมอยู่ที่เราเลือกมองแบบไหน และบางครั้งการมีมุมมองแย่ๆ ... กับสิ่งรอบตัว ... ก็เป็นเพราะเรารีบเร่งจนลืมพิจารณาสิ่งนั้นๆ ให้ดีต่างหาก ... ไม่ใช่เพราะสิ่งรอบตัวเราแย่เลยสักนิด.ถ้าอย่างนั้นลองง่ายๆ แค่ทำอะไรให้ช้าลงอย่างมีสติ แล้ว ... คุณจะเห็นด้านดีๆ จากสิ่งรอบตัววันละนิดละหน่อย เปลี่ยนโลกหม่นๆ ให้กลายเป็นโลกที่สวยสดใส ค่ะ


9. ทำ..ทีละอย่าง
อย่าลืมว่าเรามีแค่ 1 สมอง กับ 2 มือเท่านั้น ... ดังนั้นอย่าบังคับตัวเองให้ทำอะไรพร้อมกันหลายๆ อย่าง เพราะนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความวุ่นวายในชีวิตได้ ... จับของสิ่งเดียวด้วยสองมือยังไงก็ชัวร์..มั่นใจกว่าแยกอีกมือไปจับของอื่นๆ ในเวลาเดียวกันนะคะ


10. หายใจเข้าลึก ๆ
เคยรู้สึกเหนื่อยจนต้องหอบ...เพราะความเร่งรีบกันมามากแล้ว ... เรามาช้ชีวิตให้ช้าลงเพื่อให้ตัวเองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ กันบ้างดีกว่า ... เชื่อสิว่าเพียงแค่อยู่นิ่งๆ แล้วสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ยาวๆ ... สติที่บินหายไปก็จะเริ่มกลับมา ความเครียด ความโกรธ และความ
เหน็ดเหนื่อยก็จะหายไปทำได้จริงๆ ค่ะ.. ไม่เชื่อลองทำดูนะคะ

ธรรมชาติสวยงาม ที่วังบ้านปืน อ. เมือง จ. เพชรบุรี


สรุปได้ว่า ....นิยามชีวิตแบบ Slow life ของ Carl Honoré หรือในแบบของ Leo Babauta ตามกฎการใช้ชีวิตแบบ Slow life ไว้ในหนังสือเรื่อง The Power of Less ทั้ง 10 ข้อ ....ก็ให้แนวคิดที่ดีดีนะคะ .. แต่ไม่ว่าจะมีเทรนด์ (trend) อะไรเข้ามา ... ขอแค่ให้เรามีสติกับการใช้ชีวิตตลอดเวลา มีความพอเพียงของแต่ละบุคคล..แตาละครอบครัว นะคะ ... เพียงเท่านี้ก็มีชีวิตที่สมดุลได้แล้วค่ะ ... สรุปของสรุป คือ 1) ลำดับความสำคัญ...นั้นคือทำน้อยแต่ทำได้ดีค่ะ ... 2) อยู่กับปัจจุบัน..อย่างมีสติคอยเตือน นะคะ 3)Shut downตัวเองจากโลกIT แล้วมาอยู่ในมุมส่วนตัวสักพัก ปิดโอกาสให้ตัวเองมีเวลาเห็นและรับรู้สิ่งรอบตัว..แค่นี้ความสุขก็จะมาหาค่ะ 4)สนใจคนรอบข้างอย่างจริงจังทั้งที่บ้านและที่ทำงานจะมีความสุขขึ้นเยอะค่ะ 5) สัมผัสธรรมชาติ..แค่มองออกไปนอกหน้าต่าง ทั้งที่ทำงาน ที่บ้าน จะรู้ธรรมชาติทั้ง ต้นไม้ สนามหญ้า เสียงนกร้อง ลมพัดเย็นๆ แล้วเราจะรู้ว่าตนเองโชคดีกับการมีชีวิตอยู่มากขึ้นทุกวันนะคะ 6)ปรับวิถีการกินอาหารให้ช้าลง โดยเคี้ยวอาหารให้ช้าลง ... ละเมียดละไมความอร่อยจากอาหารค่ะ 7) ขับรถให้ช้าลงและมีน้ำใจบนท้องถนน ขับรถโดยไม่ต้องรีบ ชีวิตจะเป็นสุขขึ้น..ไม่เครียดนะคะ 8)ทำอะไรให้ช้าลงอย่างมีสติ แล้วจะเห็นด้านดีๆ จากสิ่งรอบตัว มองด้านบวกให้มากขึ้น นะคะ 9)ทำทีละอย่าง อย่าบังคับตัวเองให้ทำอะไรพร้อมกันหลายๆ ชีวิตจะเป็นสุข ขึ้นเยอะค่ะ 10)สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ยาวๆ สติที่บินหายไป ก็จะเริ่มกลับมา ความเครียด ความโกรธ และความเหน็ดเหนื่อยก็จะหายไปค่ะ ... น่าจะเป็นประโยขน์กับชีวิตเรานะคะ


ขอบคุณค่ะ

28 กรกฎาคม 2558

หมายเลขบันทึก: 592924เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2015 14:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม 2015 15:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

มีอาหาร น้อยๆบนจานมาฝาก เจ้าค่ะ...กินแบบ..slow ๆ ได้นะคะ..

ผมว่าคล้ายการสติในพุทธศาสนาเลยครับ

3. เบรกตัวเองจาก...โลกออนไลน์สักพัก.....

...............................................................

ช่วงนี้ คุณมะเดื่อต้องเบรกตัวเอง..หลาย ๆ พัก

เหมือนกันจ้ะ สุขภาพแย่ลง ๕๕๕๕๕


ขอบคุณครับ อ.

ขอเสริมว่า ให้พยายามทำความดีเพื่อผู้อื่นเพิ่มด้วยวันละอย่าง(อย่างน้อย)
แล้วความสุขจากการให้ก็จะเข้ามาเติมเต็มให้กับชีวิตครับ

น่าสนใจทุกข้อเลยค่ะ...ชอบทุกภาพประกอบด้วยค่ะ...

น่าสนใจมาก

มีประโยชน์หลายข้อมาก

จะพยายามห่างจากข้อ 3 ครับ

อ่านแล้วได้ความรู้แถมความสุขครับ

ขอบคุณมากๆครับ

แวะมาให้กำลังใจกับการก้าวเดินไปด้วยชีวิตที่ช้าลงค่ะ การเลือกที่จะเดินบนเส้นทางชีวิตที่ช้าลงเป็นความท้าทายอย่างยิ่่งในชีวิตของคนที่มีงานประจำและมีครอบครัวค่ะ บุญรักษาให้ทำได้สำเร็จนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท