5 เหตุผลที่ต้องให้บิ๊กตู่อยู่อีก 4 ปี
5 เหตุผลที่ต้องให้บิ๊กตู่อยู่อีก 4 ปี
หลังการรัฐประหารเมื่อ 22 พฤษภาคม 2557 เหตุความวุ่นวายในบ้านเมืองก็ดูเหมือนจะสงบโดยทันที แม้ก่อนหน้านั้นจะมีการคาดการณ์ว่าจะมีการต่อต้านจากกลุ่มเสื้อแดง ที่ได้เตรียมการจัดตั้งกองกำลังในภาคอีสานและเตรียมจัดตั้งหมู่บ้านเสื้อแดงทั่วไป แต่กองกำลังเหล่านั้นก็เป็นเพียงภาพลวงตาที่ไม่ได้มีความสามารถจริง ทุกอย่างจึงสงบลง โดยแทบการไร้แรงต้าน มีเพียงการแสดงออกทางสัญญลักษณ์ของนักศึกษาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
แม้หลายคนอาจจะไม่ชอบที่ต้องแยู่ภายใต้การบริหารของทหาร มีทหารเป็นนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อแลกมากับความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ดูเหมือนทุกคนก็ยินดีที่ต้องเสียสิทธิบางประการไป โดยรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา สัญญาว่าจะให้มีการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอีก 1 ปีข้างหน้าซึ่งเป็นสิ่งที่คนจำนวนมากรู้สึกหวั่นใจว่าเหตุการณ์วุ่นวายจะกลับมาอีกครั้ง เพราะถ้ามีการเลือกตั้งครั้งใหม่เมื่อการปฏิรูปด้านต่างๆยังไม่เรียบร้อย ปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง การขัดแย้งของมวลชน ความรุนแรงก็จะกลับมาเหมือนเดิม ดังนั้น พลเอกประยุทธ์ จึงควรรักษาการรัฐบาลอีก 4 ปี
1.การเลือกตั้งในประเทศไทยมีการใช้เงินและอิทธิพลช่วยให้ได้ชนะการเลือกตั้ง ดังนั้นเราแทบจะบอกได้เลยว่าใครจะได้เป็น ส.ส.ในบางจังหวัดที่มีผู้ยิ่งใหญ่อยู่ การเลือกตั้งในปีหน้าก็จะเข้าอีหลอบเดิมที่ผู้มีอิทธิพลก็จะส่งญาติพี่น้อง หรือคนให้อืทธิพลเข้ามาเป็น ส.ส.อีก แล้วเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในสภา เช่น การกดบัตรแทนกัน การทะเลาะ การใช้เสียงข้างมากเอาประโยชน์ของพวกพ้อง ก็จะเกิดข้ึนอีกครั้ง พวกเราพร้อมจะเจอสิ่งเหล่านี้อีกแล้วหรือ
2.หลังจากรัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ เข้ามาบริหารประเทศก็ดูเหมือนบ้านเมืองสงบเรียบร้อยกว่าเดิมมาก มีการจับอาวุธและผู้ก่อความไม่สงบได้จำนวนมาก อย่างที่รัฐบาลก่อนหน้านั้นไม่เคยทำได้มาก่อน เหตุความไม่สงบใน กทม ดูเหมือนจะเรียบร้อยดี ประชาชนสามารถเดินไปไหนก็ได้ ไม่มีการประท้วงปิดถนน และความวุ่นวายต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ พรบ.ความมั่นคง ที่ให้อำนาจเจ้าห้าที่ในการเข้าไปดูแลความปลอดภัยมากขึ้น การเลือกตั้งครั้งใหม่ ย่อมได้รัฐบาลพลเรือนที่ไม่มีอำนาจเต็ม แล้วจะจัดการปัญหาความมั่นคงได้อย่างไร ถ้ามีความวุ่นวายแบบเดิม จะทำอย่างไร
3. การเลือกตั้งที่ผ่านมาในประเทสไทย สะท้อนว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไร้ประสิทธิภาพ เพราะเมื่อดูสัดส่วน ส.ส. และ ส.ว. แล้วปรากฏว่าแทบไม่มีตัวแทนของกลุ่มอาชีพเกษตรกรที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศเข้ามาเป็น ส.ส. ได้เลย สภาผู้แทนราษฎรจึงเป็นสภาของนายทุน ข้าชการเกษียณอายุ ไม่ใช่ตัวแทนของประชาชนที่แท้จริง ไม่ใช่ประชาธิปไตยอย่างที่ควรจะเป็น ถ้ามีการเลือกตั้งในปีหน้า โดยไม่มีการปฎิรูปโครงสร้างการเมืองใหม่ เราก็จะได้คนกลุ่มเดิมกลับมาอีก แล้วจะเลือกตั้งไปทำไม
4. ถ้าถามคนไทยว่า นายกรัฐมนตรีที่คนไทยยกย่องและให้การยอมรับมากที่สุดในอดีตที่ผ่านมาเป็นใคร ผมเชื่อว่าคนไทยจำนวนมากคงนึกถึง ท่านอนันต์ ปันยารชุน ซึ่งเป็นนายกที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง แม้แต่ในรัฐบาลที่ผ่านมา รัฐมนตรีที่คนชื่นชมมากที่สุด ได้แก่ ท่านชัชชาติ สิทธิพันธ์ อดีตรัฐมนตรีคมนาคม ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่ไม่ได้มาจากการลือกตั้งเช่นเดียวกัน ดูเหมือนคนที่มีคุณภาพจำนวนมากมีคุณสมบัติดีกว่าคนมาจากการเลือกตั้งด้วยซ้ำไป แสดงว่าการเลือกตั้งเราอาจจะมีปัญหาในการคัดกรองคนมาทำหน้าที่ในการบริหารประเทศ เลือกตั้งปีหน้าก็จะเหมือนเดืมอีก แล้วจะเลือกตั้งไปทำไม
5. ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานี้ มีการปราบปรามจับกุม เจ้าหน้าที่ของรัฐได้จำนวนมากอย่างที่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่เคยสนใจมาก่อน รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในอดีตต้องพึ่งพาเสียง ส.ส.เพื่อเป็นรัฐบาลจึงมีความเกรงใจ ทั้ง ส.ส.และข้าราชการประจำ การลงโทษอย่างจริงจังจึงไม่เกิดขี้น เมื่อได้รัฐบาลมาในปีหน้า การต่อต้านการทุจริต การลงโทษข้าราชการจึงอาจจะลดลงไปอีก แล้วเมื่อไหร่ประเทศไทยจึงจะปราศจากคอรับชั่นสักที่ มีแต่รัฐบาลชั่วคราวแบบนี้เท่านั้นที่กล้าทำในสิ่งที่รัฐบาลปกติไม่กล้าทำ
ผมเชื่อว่าสิ่งที่ชาวบ้านต้องการคือ การมีชีวิตที่สงบสุข สามารถทำมาค้าขายได้ปกติ มีความปลอดภัยในชีวิต รัฐบาลแบบไหนก็ตามที่สามารถทำในสิ่งเหล่านี้ได้ ไม่ว่ามีที่มาอย่างไร ชาวบ้านพร้อมสนับสนุน เหมือนกับสุภาษิตที่บอกว่า "แมวสีอะไรไม่สำคัญ ขอให้จับหนูได้เป็นพอ" การเลือกตั้งที่ยังไม่มีการปฏิรูปในสังคมอย่างแท้จริงย่อมนำปัญหาเดิมๆกลับมาอีก ดังนั้นการยอมเสียเวลา อีก 4 ปีเพื่อให้พร้อมก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่จึงเป็นสิ่งที่สมควร ถ้าไม่ต้องการวงจรอุบาทก์กลับมาอีก
ดูเพิ่มเติมที่.........
ความเห็น (2)
อย่าดีกว่าค่ะ ขอให้ทำตามโรดแม็บของท่านแล้วก้าวลงอย่างสง่งามจะเป็นพระคุณอย่างสูง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีที่ดีที่สุด คนรักและศรัทธามากที่สุด สร้างความรุ่งเรืองผาสุกที่สุด โกงที่สุด ฯลฯ ผู้คนมีความคิดเห็นไม่ตรงกันหรอกค่ะ
เห็นควรด้วย