ในที่สุด... วันนี้ก็มาถึง ทั้งที่เตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่เมื่อถึงเวลา.. ก็อดไม่ได้ที่จะ...เศร้าใจ...
“เจ้าเสือ” ลูกหมาบ้านผสมบางแก้วที่แม่อุ้
เกือบ ๑๙ ปีที่อยู่ด้วยกัน แม้ฉันเป็นเพียงหมายเลข ๒ ของมัน ฉันยังเศร้าใจได้ถึงขนาดนี้..
ยังจำได้ว่า.. ครั้งหนึ่งแม่เข้าไปในครัว และถามฉันว่าจะทานอะไรฉั
“ไหนว่าเอาแค่ไข่ดาว…”
“ก็เห็นข้าวผัดหอมน่าทาน จะขอทานด้วยค่ะ” ฉันตอบ
“อันนี้ ของเสือ แม่ไม่ได้ทำเผื่อลูก....”
ฉันโวยวายใหญ่.. แต่ก็ไร้ผล... ได้แต่ก้มหน้าก้มตากินไข่ดาวไป ขณะที่เสือเอร็ดอร่อยกับข้าวผั
คงไม่ต้องบอกว่า ใคร.. เป็นหมายเลข ๑ ของเสือ...
เจ้าเสือ... จากไปอย่างสงบด้วยความชรา ในมุมโปรดของมัน ไม่ได้ทนทุกข์ทรมานอะไร ซึ่งยังนับว่าโชคดี..
....อีกหนึ่งชีวิตน้อย ๆ ในครอบครัว.. ได้จากไปแล้ว...
...ครั้งสุดท้ายที่ไปโรงหมอเพื่
“ถ้ามันไม่อยู่แล้ว จะหาสัตว์อื่นมาเลี้ยงอีกมั้ย ? ”
...ฉันหยุด.. เงยหน้าขึ้นมองไปยังต้นเสียงที่
...จนวันนี้ ฉันมีคำตอบแล้ว...
ถ้า... ไม่พร้อม...ที่จะทำใจ..ให้ไม่รั
...ไม่สร้างความรัก.. ความผูกพัน.. กับชีวิตน้อย ๆ ใด ๆ ขึ้นใหม่อีก... เพราะไม่อยากเสียศูนย์ กับความสูญเสีย...
....ขอจงเป็นสุขเป็นสุขเถอดน่ะ.
..............................
ป.ล. ขออโหสิกรรมแทน “เจ้าเสือ” ต่อผู้ที่เคยโดนเสือล้อเล่นแรง ๆ แง่ง ๆ งั้ม ๆ ใส่ ตามประสาหมาดุ... ส่วนรูปเขียนนี้ เคยให้เพื่อนช่วยเขียนให้นับว่
เป็นเกียรติกับเรามากครับ ที่มีนักเขียนตัวจริงมาร่วมกิ
เพื่อถอดบทเรียนให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง อยากทราบว่า
เพราะเหตุใดจึงประทับใจเรื่องนี้แล้วถ่ายทอดเป็นบันทึก
เพราะอะไรที่ทำให้สามารถมองการสูญเสียครั้งสำคัญครั้งนี้ ออกมาเป็นเรื่องราวดีๆ เชิงบวกเช่นนี้
ทั้งสนุก ทั้งซึ้งมากๆ...อ่านแล้วประทับใจค่ะ...
ได้รับคำตอบว่า
.....................การสูญเสี
เมื่อเอาตัวออกจากทุกข์... มองทะลุ.. เราจะเห็นความสุข... อย่างน้อย ก็ไม่สร้างเหตุแห่งทุกข์ใหม่ขึ้
และอยากแบ่งปันมุ
ขอบคุณที่มีพื้นที่ สำหรับแบ่งปันประสบการณ์ค่ะ