ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช ประธานกรรมการมูลนิธิสยามกัมมาจล
ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ได้นำขบวนผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัยเพื่อท้องถิ่น
ชุมชนแกนนำในพื้นที่ประสบภัยสึนามิจากจังหวัดตรัง และสตูล พร้อม
ด้วยอาจารย์/นักศึกษาภาคสังคมจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ฯ
และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ ไปร่วม เวทีสัญจร
โครงการ"สร้างชุมชนบริหารจัดการตัวเอง ในพื้นที่ประสบภัยสึนามิ
ระยะ ๑" ที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ ๑๔-๑๕ มีนาคมที่ผ่านมา
ภาพจากมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อท้องถิ่น
โครงการนี้ ดำเนินการโดย มูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อท้องถิ่น
สนับสนุนโดย มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ฯ โดยใช้เงิน
จากกองทุนไทยพาณิชย์ช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ ที่ได้รับบริจาคสมทบ
จากประชาชนและองค์กรต่างๆ แบ่งการดำเนินงานเป็น ๓ ระยะ คือ
ช่วงช่วยให้อยู่รอดจากภัยพิบัติ ช่วงฟื้นฟูชีวิตและความเป็นอยู่ ช่วง
พัฒนาบริหารจัดการตนเองอย่างยั่งยืน
ภาพจากมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อท้องถิ่น
พื้นที่ดำเนินโครงการ จำแนกตามประเด็น ๓ ลักษณะ คือ การจัดการสวัสดิการชุมชน ๒ โครงการ การจัดการทรัพยากร ๕ โครงการ และ การจัดการอาชีพทางเลือก ๔ โครงการ รวมพื้นที่ทั้งหมด ๑๑ แห่ง ครอบคลุม ๑๑ ชุมชน ๕ อำเภอ ๓ จังหวัด ของ จ.ระนอง จ.ตรัง และ จ.สตูล
ภาพจากมูลนิธิสถาบันวิจัยเพื่อท้องถิ่น
กรอบงาน ๓ ด้าน คือ การวิจัย (R) คือ คุณค่าของข้อมูล
ด้วยการ ค้นหาข้อมูล และความรู้ที่จำเป็น รวมทั้งการออกแบบ ตัดสิน
ใจ เพื่อแก้ปัญหาฐานข้อมูลและความรู้ >>> การพัฒนางาน
(D) คือ ลงมือแก้ไขปัญหา และพัฒนาให้เกิดรูปธรรมความ
เปลี่ยนแปลง >>> การจัดการร่วมกันของคนในชุมชน(M) >>>
คนพัฒนา >>> กลไกต่อเนื่องและยั่งยืน
ชุมชนแรกที่ได้ไปพบปะพูดคุยเป็น กระบวนการกองทุนวันละ
บาท ต.กำพวน อ.สุขสำราญ จ.ระนอง โดย เชื่อมโยงเครือข่าย ๖
มัสยิด ใช้หลักศาสนามาช่วยการขับเคลื่อนกองทุนวันละบาท เพื่อช่วย
เหลือผู้ด้อยโอกาส และติดเชื้อในชุมชน
พวกเราประทับใจมากคือ ชาวบ้านมีความเอื้ออารี และให้โอกาสกัน จากสภาพของคนสิ้นหวังท้อแท้กับสภาพความเป็นอยู่ ได้พลิกฟื้นชีวิตจากการเป็น "ผู้รับ" มาเป็น"ผู้ให้ต่อสังคม" ...กองทุนวันละบาทที่รวบรวมเงินออม และบริหารผ่านคณะกรรมการของชุมชน ได้สร้างความเข้มแข็ง เป็นรากฐานของใจและกายเชื่อมร้อยความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในหลายมิติของชุมชนยั่งยืน เป็นที่น่าสังเกตว่า สตรีมีบทบาทสูง ทั้งในด้านการเป็นแกนนำ และการตัดสินในนโยบายสำคัญของชุมชน นับเป็นเรื่องน่ายินดี
พื้นที่ต่อมาที่ได้เข้าเยี่ยมพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็น คือ
ชุมชนบ้านบางกล้วยนอก ที่มีวิถีการสร้างฐานชีวิต ๓ ฐาน คือ ฐานที่ ๑
วิถีชีวิตคนต้นน้ำ บทเรียนการทำงานป่าต้นน้ำห้วยเสียด ที่สร้าง
จิตสำนึกร่วมกันในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ปราศจากมลภาวะเป็นพิษ
จากสารเคมี และการตัดทำลายป่าไม้ ฐานที่ ๒ วิถีชีวิตคนกลางน้ำ บท
เรียนจากการจัดการพื้นที่การเกษตร ปลูกพืชผัก และไม้ผลยืนต้นผสม
ผสาน เพื่อการยังชีพ และแลกเปลี่ยนกัน ฐานที่ ๓ วิถีชีวิตคน
ปลายน้ำ บทเรียนการจัดทรัพยากรป่าชายเลน วิถีชีวิตคนประมง พึ่งพา
ฐานทรัพยากร
ณ ท่าเรือบ้านบางกล้วยนอก เยาวชนนำเสนอแผนที่ร้านค้าในชุมชน ปฏิทินฤดูกาล ตารางปลา และขั้นตอนการหมักน้ำปลา ซึ่งเป็นผลิตภัณท์ที่ชุมชนมีความภาคภูมิใจมาก ได้เชิญชวนให้ผู้มาเยือนได้ชิมกันทั่วหน้า แม้อายุการหมักยังไม่ได้ที่ตามที่กำหนดไว้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ยังไม่สามารถขยายฐานการผลิตได้เป็นจำนวนมาก สืบเนื่องจากปริมาณปลาที่จับได้ไม่แน่นอน ขึ้นกับฤดูกาลที่แปรปรวน
อีกบรรยากาศหนึ่งที่พลาดไม่ได้ ของการมาเยี่ยมเมือง
ชายฝั่งทะเลเช่นนี้ คือการล่องเรือยนต์เล็กออกไปชมวิถีชีวิตชาวเล และ
ทรัพยากรป่าชายเลน ของอ่าวทะเลนอก ที่เคยถูกทำลายด้วยแรงคลื่น
ยักษ์สึนามิ แต่บัดนี้ ป่าโกงกางได้ฟื้นขึ้นมาเขียวชอุ่มตลอดแนวยาว
ของชายฝั่ง ซึ่งเยาวชนหญิง-ชาย ได้ผลัดกันเล่าบทเรียนอุตสาหะ
เพาะต้นกล้าโกงกาง นำมาปลูกครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ย่อท้อต่อการที่ฝูง
ลิงแสม ได้เข้ามาบุกรุกเก็บกินยอดต้นอ่อนอยู่เป็นเนืองนิจ
หลังจากขึ้นฝั่งแล้ว คณะได้มาเยี่ยมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กระบวนการ
หมักแก๊ซชีวภาพสู่การจัดการสิ่งแวดล้อมของชุมชน ซึ่งมีรูปแบบที่ไม่
ซับซ้อน ใช้วัตถุดิบจากมูลสัตว์ ที่เก็บได้จากพื้นที่สาธารณะ ซึ่งได้
ประโยชน์อีกอย่างหนึ่ง คือ รักษาความสะอาดของถนนหนทางที่ วัว
ควาย ถูกปล่อยให้ทิ้งมูลไว้เป็นจำนวนมาก เมื่อหมักมูลสัตว์ในบ่อพัก
ได้ที่แล้ว จะเก็บแก๊ซไว้ในถังขนาดใหญ่ที่เคลือบด้วยปูนและสีกันซึม
ปล่อยออกทางท่อสู่เตาหุงต้มประกอบอาหารต่อไป ได้ปริมาณแ๊ก๊ซ
ไม่มากนัก เพราะมีอุปสรรคเรื่องบริเวณที่ตั้งจำกัด และมูลสัตว์ที่เก็บได้
น้อยลง ไม่เพียงพอต่อการผลิตแก๊ซจำนวนมาก
รายการสุดท้ายของเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ คือ
การสรุปบทเรียนรู้ ณ บริเวณ โรงเรียนเก่าบ้านทะเลเกาะนอก ตั้งอยู่หน้า
หาดบ้านทะเลนอก ซึ่งเป็นจุดที่คลื่นสึนามิ ได้กวาดชีวิตครูและ
นักเรียนทั้งหมด ทางการยังเก็บซากสลักหักพังไว้เป็นอนุสรณ์ แต่
ได้ย้ายโรงเรียนสร้างใหม่เข้าไปไว้ด้านใน ห่างจากหาดทะเลนอกในพระอุปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ข้าพเจ้ากลับกรุงเทพ พร้อมความรู้สึกดีๆมากมายใน
พัฒนาการของชุมชน ที่สร้างความเข้มแข็งในการจัดการชีวิตที่มี
ประสิทธิภาพด้วยตนเอง ในบริบทต้นทุนสังคมที่เป็นอยู่ สามารถเป็น
แหล่งเรียนรู้แก่ชุมชนอื่นๆได้เป็นอย่างดี สะท้อนการไม่สิ้นหวังในชะตา
ชีวิตที่เคยล่มสลายมาแล้ว แม้สภาพจิตใจยังไม่เคยลืมเลือนความสูญ
เสียจากมหันตภัยครั้งนั้น แต่ได้พลิกฟื้นวิกฤตเป็นโอกาสอย่างน่า
ชมเชย ข้าพเจ้ายังจดจำภาพความงดงามตามธรรมชาติ ด้วยเกาะแก่ง
น่าท่องเที่ยว อาหารอร่อย ที่พักสะอาด และประทับใจชาวระนองที่ผสม
ผสานระหว่าง ชาวมุสลิมและพุทธ อยู่กันอย่างสงบสามัคคี มีน้ำใจต่อผู้
มาเยือน อยากกลับไปอีก...
.......................................................................................................................................
ภาพบางส่วนจากมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์
โอโหพี่ใหญ่ คุณหมอวิจารณ์และทีมงานไปหลายที่มากๆ
ใช้กรอบแบบ RDM นะครับ
ชอบการทำแผนที่ชุมชนและสตรีที่มีบทบาทมากๆ
ขอบคุณพี่ใหญ่ที่เล่าเรื่องดีๆให้อ่านครับ
เดินทางไกล ไปด้วยจิต อาสามากเลยนะครับ พี่ใหญ่
ชื่นชมครับ
น่าเห็นใจผู้ประสบภัยในครั้งนั้นมากๆ ครับ
ขอบพระคุณคุณครูพี่ใหญ่ อาจารย์หมอวิจารณ์ และผู้ใหญ่ทุกท่านด้วยครับ ^_^
เห็นภาพพี่ใหญ่.. มีความสุขจังเลย นะคะ.. ผู้ให้.. เป็นสุขจริงๆๆ ค่ะ
คุณพี่คะ น่าชื่นใจกับโครงการดีๆที่มีในชุมชน หากโครงการอย่างนี้ ขยายไปทั่วประเทศไทยคงดีนะคะ
Prof. Vicharn Panich |
อ.นุ |
ขจิต ฝอยทอง |
วอญ่า-ผู้เฒ่า-natachoei-- |
ชยพร แอคะรัจน์ |
ยายธี |
Dr. Ple |
นีโอ..เบเกอรี่ |
พ.แจ่มจำรัส |
tuknarak |
บุษยมาศ |
GUY |
ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ |
* สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากสำหรับกำลังใจมอบแก่การไปร่วมเวทีสัญจรโครงการสร้างชุมชนบริหารจัดการตัวเอง ในพื้นที่ประสบภัยสึกนามิ ระยะ ๑" ที่จังหวัดระนองนี้ค่ะ
" น้องดร.ขจิต....ขอบคุณภาพกิจกรรมอาสาสมัครสดใสรื่นเริงมีความสุขที่นำมาฝากกัน เป็นกำลังใจในการทำความดีค่ะ
* น้องพ.แจ่มจำรัส...ได้ไปเห็นความเข้มแข็งของชุมชนแล้วมีความสุขมากๆค่ะ
* น้องอ.นุ...เราได้ซึมซับบทเรียนชีวิตที่น่าชื่นชมในการก้าวเดินหน้าต่อไปด้วยกันอย่างมีความหวังดีๆค่ะ
* น้อง Dr.Ple.....ขอบคุณที่มาร่วมมีความสุขกับเรื่องเล่านี้....สุขเพราะชุมชนร่วมใจกายกันอย่างเข้มแข็ง...สุขเพราะได้เห็นแบบอย่างการใช้ชีวิตพอเพียงร่วมกันอย่างยั่งยืนค่ะ
* น้องใบบุญ....ขอบคุณมากค่ะที่เห็นคุณค่าของโครงการเช่นนี้...แม้จะไม่สามารถออกไปดำเนินการได้ทุกพื้นที่ประสบภัย แต่การนำประสบการณ์มาถอดบทเรียนรู้สู่กัน ย่อมเป็นแรงบันดาลใจขยายผลต่อไปได้อีกนะคะ
มาอีกรอบครับ
เห็นแล้วคิดถึงการจัดการตนเองของหมู่บ้านหนองสาหร่ายครับ
ขอบคุณมากๆครับ
คิดถึงเพลงนี้ครับคุณครู
ไม่ทราบชีวิตของคนที่เป็นไปหลังประสบภัยเลย น่าชื่นชมทีมงานมากๆ เลยค่ะ ดีใจกับชาวบ้านจริงๆ ^^
* น้องดร.ขจิต....ขอบคุณที่กลับมาเยี่ยมอีกรอบหนึ่ง....อีกแบบอย่างหนึ่งของการจัดการชีวิตที่เข้มแข็งของชุมชน...นี่คือการปฏิรูปประเทศไทยในอีกมิติหนึ่งนะคะ...
* น้องอ.นุ....ขอบคุณมากค่ะที่แวะมาฝากเพลงไพเราะกินใจสำหรับผู้ประสบภัยสึนามิค่ะ
* หลานเพชรน้ำหนึ่ง....ขอบคุณที่แวะมาส่งกำลังใจค่ะ
* น้องพิทยา....ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขา ได้ยืนหยัดช่วนตนเองและเผื่อแผ่สังคมอย่างกว้างขวาง น่าชื่นชมจริงๆค่ะ
ตามมาร่วมกิจกรรรมดีีๆของพี่ใหญ่ ได้ความรู้และได้เห็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ครับ ขอบพระคุณมากครับผม