เจ้ากรรมนายเวร


เจ้ากรรมนายเวร

 

บทนำ

     วันนี้หลังจากทำงานวิจัยเสร็จตามที่ตั้งเป้าไว้ จึงพอมีเวลามาอ่านหนังสือธรรมะดีดีหนึ่งเล่ม ที่อ่านเป็นประจำ และยังสั่งซื้อเป็นจำนวนมากในการแจกให้แก่คณาจารย์ นักศึกษา และผู้ที่สนใจตามวัดต่างๆ จึงอยากนำสาระที่อ่านมานำเสนอเพื่อหวังให้เกิดประโยชน์แก่ท่านผู้อ่านที่สนใจ

เจ้ากรรมนายเวรคืออะไร

     เรื่องของเจ้ากรรมนายเวร เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากที่สุดในเรื่องของกรรม เพราะสิ่งนี้ทำให้เราต้องทนทุกข์ทรมานกันมากมายในทุกวันนี้ ถ้าอธิบายกันอย่างง่ายๆ เจ้ากรรมนายเวรก็คือ คน สัตว์ หรือวิญญาณ ที่เคยมีความเกี่ยวข้องกับเรามาตั้งแต่อดีต และเราเคยไปละเมิดล่วงเกินเบียดเบียนเขาไว้ หลายคนอาจจะเป็นพ่อแม่ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นเพื่อน หรือเป็นคน เป็นสัตว์ที่เราไม่รู้จักมาก่อนเลย แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ๆ หนึ่ง หรือปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เรากับเขาต้องมาเกี่ยวพันกัน ซึ่งเป็นวิบากกรรมอันเกิดจากการที่เราไปละเมิดล่วงเกินเบียดเบียนเขาไว้ ทำให้เขาอาฆาตพยาบาทเรา และมีความต้องการให้เรา ต้องชดใช้ในสิ่งที่เราเคยละเมิดล่วงเกินเบียดเบียนเขามา บางคนอาจเคยทำกรรมอะไรไว้ที่เล็กน้อยเบาบาง และคนที่ถูกเรากระทำนั้นเขาไม่ติดใจเอาความ ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย อย่างนี้ถือว่าไม่เข้าข่ายและไม่ใช่เจ้ากรรมนายเวร

     เรื่องนี้ขอย้ำว่า เจ้ากรรมนายเวรที่ส่งผลให้เราทุกข์ทรมานในหลายเรื่องหลายวาระนั้น เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่เขายังอาฆาตพยาบาท และยังต้องการให้เราชดใช้ ส่วนเขาจะอโหสิกรรมให้เราเมื่อไหร่ เวลาไหน หรือไม่ให้อโหสิกรรมนั้นขึ้นอยู่กับเขาทั้งสิ้น ไม่ใช่ตัวเรา

     กรรมในบางกรณีที่มีเจ้ากรรมนายเวรที่ยังอาฆาตพยาบาทอยู่ค่อนข้างจะรุนแรง เพราะเราอาจจะมีส่วนที่ทำให้เขาเกิดการพลัดพราก สูญเสียทรัพย์สิน ญาติพี่น้อง หรือมีส่วนทำให้เขาเกิดอุบัติเหตุเจ็บป่วย ทนทุกข์ทรมาน หรือเสียชีวิต ทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม เขาจะยังคอยติดตามจิตของเราไปทุกภพทุกชาติ ไม่ว่าเราจะเกิดเป็นคน เป็นสัตว์ หรืออะไรก็ตาม เขาตามเราเจอแน่นอนเพราะเขาตามเราที่จิต ไม่ใช่ที่รูปร่างหน้าตา

     แต่มีเงื่อนไขเดียวเท่านั้นที่เขาจะเลิกรบกวนเราคือ ถ้าเขาได้รับการชดใช้ที่เขาพอใจ หรือเขาให้อโหสิกรรมกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการนั่งสมาธิขออโหสิกรรมเพื่อแก้กรรม ลดกรรมด้วยการทำบุญอุทิศสาวนกุศลไปให้หรืออะไรก็ตาม ถ้าเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้เรา เราเองก็จะหลุดพ้นจากวิบากกรรมนั้น ไม่ต้องมาชดใช้กันอีก แต่มันยังคงมีเศษเวรเศษกรรม ซึ่งเป็นเหมือนดอกเบี้ยติดค้างอยู่ ที่เราจำเป็นต้องได้รับโดยไม่อาจหลีกหนีพ้นไปได้

เจ้ากรรมนายเวรมีอะไรบ้าง    

     คนทุกคนเกิดมา เราจะมีเจ้ากรรมนายเวรเป็นของตนเองติดตามเรามา และจะมีเจ้ากรรมนายเวรอยู่ ๒ แบบคือ

     ๑. เจ้ากรรมนายเวรที่มีชีวิต คือ เจ้ากรรมนายเวรที่เรามีโอกาสเจอและสัมผัสสัมพันธ์กันอยู่บ่อยๆ เกิดเป็นวิบากกรรมกับเราได้เร็วแบบวันต่อวัน ทันตาเห็นเลย นั้นก็คือ เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนกับเราที่ยังมีลมหายใจอยู่ในชาตินี้ อาจจะเป็นคนใกล้ตัว เป็นพ่อแม่ เป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน หรือคนในที่ทำงาน เป็นเจ้านาย เป็นลูกน้อง คนรอบตัวเรา หรือแม้กระทั่งสัตส์เลี้ยงที่เราเลี้ยงไว้ หรืออาจเป็นคนไกลตัว อยู่ห่างกันที่ได้แต่ยังเฝ้ารอโอกาสที่เหมาะสมที่จะมาเจอเรา มาสร้างเรื่องราวให้เราต้องปวดหัวเป็นทุกข์เดือดร้อน หรือต้องการให้เราต้องสูญเสียอะไรบางอย่างในชีวิตไป

    วิธีง่ายๆ ที่เราจะรู้ได้และสังเกตด้วยตัวเราเองว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรในแบบนี้หรือไม่ก็คือ ต้องเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นคนหรือสัตว์ที่นำความเดือดร้อนมาให้เรา มาสร้างความกังวลใจให้เราอยู่ตลอดเวลา เป็นคนที่เราเห็นหน้าแล้วอยากหนีไปให้พ้น ไม่อยากพบเจอ แต่จะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้น ประเภทนี้แหละคือ เจ้ากรรมนายเวรแบบมีชีวิตที่ตอนนี้มาถึงตัวเราแล้ว

    เมื่อเรารู้ตัวดีแล้ว รู้จักเขาเป็นใครแล้ว พยายามทำดีกับเขา เข้าใจเขา ยอมเสียสละ ยอมทำตามที่เขาขอร้องเลี้ยงดู หรือแม้กระทั่งมีเหตุการณ์บางอย่างที่เรามีส่วนเกี่ยวข้องทำให้เขาพอใจ ซึ่งก็คือ การชดใช้ที่เราอาจไม่รู้ตัวเลย สังเกตดูง่ายๆ ว่า เจ้ากรรมนายเวรพวกนี้จะเปลี่ยนพฤติกรรมไปในทางที่ดี พูดและทำกับเรา คิดกับเราดีขึ้น

    ๒. เจ้ากรรมนายเวรที่ไม่มีชีวิต คือ เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และมันอาจยากมากที่คนทั่วไปอย่างเราๆ จะรับรู้ เพราะสภาพของเรากับเขามันอยู่คนละมิติกัน คนละภพภูมิกัน จึงไม่อาจสื่อสารกันได้ตามปกติของคนธรรมดา และยิ่งบางนที่ไม่เชื่อเรื่องกรรม การทำบุญกุศล การอุทิศผลบุญให้แก่ผู้อื่น ยิ่งเป็นการยากที่จะสื่อสารกันได้ ดังนั้นครูบาอาจารย์ท่านจึงเน้นการทำบุญทำทาน การถือศีลและการปฏิบัติธรรมด้วยการเจริญสมาธิภาวนา เพื่อให้จิตมีพลังที่สูงขึ้น สามารถส่งผ่านความรู้สึกที่ดีงามไปถึงอีกฝ่ายหนึ่งได้อย่างถูกต้องแม่นยำ เพราะเมื่อผู้รับเป็นจิตวิญญาณที่มีความละเอียดของรูปกายที่แตกต่างไปจากมนุษย์ทั่วไป มีทางเดียวที่เราจะสือ่สารกับเขาได้ ก็ด้วยจืตเหมือนกันกับเขา

    เจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณนั้น เราต้องปรับสภาพจิตของเราให้ละเอียดพอที่จะติดต่อกับเขาเพื่อที่จะขอโทษ และขออโหสิกรรมจากเขาได้นั้น โดยการทำสมาธิ ซึ่งเป็นการสำรวมจิตที่หยาบให้ละเอียดขึ้น เมื่อเราทำสมาธิได้ สามารถรวมจิตได้แล้ว เราก็จะสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นวิญญาณได้ดี บางคนที่เริ่มทำสมาธิอาจสงบน้อย ก็สำรวมจิตได้น้อย การสื่อถึงเจ้ากรรมนายเวร เขาก็รับรู้แต่เราสัมผัสไม่ได้ ก็เพราะจิตยังไม่สามารถปรับให้มีคุณภาพให้เข้ากับชีวิตที่อยู่ต่างมิตินั้น จึงไม่อาจติดต่อสื่อสารกันได้

    ทั้งนี้การฝึกสมาธิให้เกิดพลังจิต และเป็นพลังจิตที่ดีนั้น เราต้องเริ่มมาจากบุญที่มาจากทาน ศีล ภาวนา และต้องทำเป็นขั้นเหมือนเดินขึ้นบันได ไม่มีการลัดกระโดดข้ามขั้นตอน

บทสรุป

   โดยส่วนตัวของผู้เขียนมีความเชื่อและปฏิบัติสมาธิมาโดยตลอด ทั้งด้วยการทำทาน ศีล ภาวนา ซึ่งผลที่ได้อย่างเห็นได้ชัด คือ ความสงบและความสุขที่เกิดขึ้น ตลอดจนการลดทอนกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร ดังเช่น เวลาเกิดโรคไมเกรน ถ้าใช้การเจริญสมาธิ ก็สามารถทำให้หายปวดได้ และจากการศึกษางานวิจัยในต่างประเทศ ก็พบว่า มีงานวิจัยหลายงานที่สนับสนุนเกี่ยวกับการเจริญสมาธิที่สามารถช่วยบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้

ที่มา  เนื้อหาส่วนหนึ่งมาจากหนังสือธรรมะ "เสบียงทิพย์"

                                                                 

                                                                     ด้วยรักและเมตตา

                                                           อาจารย์ดร.ปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา

หมายเลขบันทึก: 561240เขียนเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2014 16:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2014 16:51 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

อยากทราบว่า มาจากวรรณกรรม หรือ มาจากคัมถีร์ มนุษยชาติจะได้แยกแยะออก เพราะทุกวันนี้ มีการหลอกทาน หลอกเงินด้วย

วลีกลุ่มนี้ กันมากมาย มันคือ ความจริง หรือ พยากรณ์

ที่มา..จากหนังสือธรรมะ แต่ถึงแม้ว่า จะไม่ทราบที่มาแน่ชัด แต่ถ้าพิจารณาอย่างมีเหตุผล สามารถเป็นแนวปฏิบัติที่ดีและเกิดประโยชน์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น อีกทั้งผู้เขียนได้เสนอให้เห็นแล้วว่า ได้มีงานวิจัยต่างประเทศจำนวนมาก ที่ได้ผลการวิจัยสนับสนุนแล้วว่า การปฏิบัติสมาธิ สามารถทำให้จิตใจเป็นสุข และสามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บได้ และจากการส่วนตัวก็ได้ลองเก็บข้อมูล ก็เป็นจริงดังที่นำเสนอ

...ใครปฏิบัติ...คนนั้นได้ประโยชน์นะคะ

มนุษย์ที่ ดี และเก่ง จะเพ่งเจตนาของผู้อื่นที่เค้าทำเพื่อประโยชน์ แต่มิใช่คอยแต่จาเพ่งโทษ จับผิดคนอื่นร่ำไป บันทึกนี้ ผู้เขียนได้มุ่งให้เหตุผลในการเขียนเกี่ยวกับการปฏิบัติสมาธิ อีกทั้งถ้าพิจารณาให้ดี ถ้าใช้เรื่องเจ้ากรรมนายเวร เป็นกุศโลบาย มันก็ทำให้เราเข้าใจบางอย่างเกี่ยวกับบุคคลที่เราไม่ชอบหน้า แต่ถ้าเป็นหลักจิตวิทยา การที่คนสองคนไม่ถูกกัน มีสาเหตุใหญ่มาจาก 1) บุคลิกภาพและลักษณะนิสัยไม่ตรงกัน 2) ความคิดเห็นแตกต่างกัน และ 3) ขัดผลประโยชน์กัน ซึ่งในข้อ 2 กับ ข้อ 3 เป็นสิ่งได้มีการศึกษาในเรื่องของทฤษฎีความขัดแย้ง แต่ที่ผู้เขียนได้ทำบันทึกนี้ขึ้นมา และไม่ใช้หลักทางจิตวิทยา เพราะเบื่อกับการอธิบายจิตวิทยา เนื่องจากคลุกคลีกับสิ่งนี้มาโดยตลอด และอยากนำเสนออะไรที่เป็นเรื่องเบาๆ ไม่ต้องอิงหลักวิชาการบ้าง...ขอได้โปรดท่านผู้อ่านที่อยากแสดงความคิดเห็น ท่านจงใช้หลักของความเป็นกัลยาณมิตร ใช้เหตุผลในการเสนอแนะ หรือที่เรียกว่า วิพากษ์ จงอย่าใช้แต่อารมณ์...และยังคงย้ำว่า ผู้มีการศึกษา จะเป็นผู้ยอมรับฟังความคิดเห็นของอื่น ตลอดจนเข้าในในผู่อื่นได้ดี....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท