สัมมนาระดับชาติเรื่องอุบัติเหตุจราจร

ความตั้งใจของงานสัมมนาระดับชาติครั้งที่ 7 เรื่องอุบัติเหตุจราจร คือการสร้างให้เกิด กระแสทางสังคม ที่จะมามองในเรื่องอุบัติเหตุจราจร ซึ่งสิ่งที่ได้จากการจัดประชุม ผมมองเห็นว่า เราได้เครือข่ายที่ทำงานในเรื่อง Roadsafety ที่มีใจในการทำเรื่องนี้อย่างจริงจังเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นทีม งาน สอจร. ทีมงาน ปภ. ทีมงาน สนข. หน่วยงานของตำรวจ กระทรวงศึกษาธิการ และได้มีการประชุมร่วมกัน ร่วมทั้งมีการทำงานต่อเนื่องที่แต่ละหน่วยงานทำมาจนมีการประชุมเพื่อจะจัดเตรียมให้มีการประชุมครั้งที่ 8 ในปี 2550 นี้ โดย Theme ของงาน คงจะเป็นการสานต่อกับเรื่องเดิมในคราวที่แล้ว เรื่อง ชุมชนถนนปลอดภัย มอเตอร์ไซด์ปลอดอุบัติเหตุ และคงจะมีการนำเสนอความก้าวหน้าในประเด็นต่างๆที่ที่ประชุมได้ประกาศเป็นเจตนารมย์ร่วมกันไว้ใน 6 ประเด็น ได้แก่1.   ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดช่องทางเดินรถจักรยานยนต์อย่างจริงจัง หากปรับได้ให้ทำในถนนที่มีอยู่แล้ว และในการออกแบบถนนสายใหม่ทุกสายควรมีช่องทางเดินรถจักรยานยนต์2.   ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีมาตรการที่เข้มแข็ง จริงจัง ต่อเนื่อง ในการควบคุมพฤติกรรมเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ เมาแล้วขับ ไม่ใส่หมวกกันน็อค มอเตอร์ไซด์ดัดแปลง ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ไม่มีใบขับขี่ ขับขี่รถเร็ว โดยบูรณาการทุกยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง 3.   สนับสนุนให้มีเนื้อหาการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในหลักสูตรการเรียนการสอน ของนักเรียน นักศึกษาทุกระดับชั้น4.   ส่งเสริมและสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดให้ การป้องกันอุบัติเหตุจราจรเป็นภาระงานประจำ ที่จะต้องมีแผนงานและงบประมาณรองรับ5.   สนับสนุน “ระบบขนส่งมวลชน เพื่อแก้ปัญหาอุบัติเหตุจราจรอย่างยั่งยืน”  ให้เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องมีการออกแบบ ลงทุน ดำเนินการ ครอบคลุมกรุงเทพมหานคร เมืองใหญ่ และเส้นทางหลักในทุกภูมิภาคทั่วประเทศ

6.   ส่งเสริม สนับสนุน ยกระดับความเข้มแข็งขององค์การความปลอดภัยทางถนน ในด้านบุคคลากร งบประมาณ เพื่อให้สามารถผลักดัน วางแผน ประสาน กำกับ ติดตามการดำเนินงานเพื่อความปลอดภัยทางถนนได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

 

ซึ่งได้สรุปและรวบรวมมาจากการระดมสมองในเวทีนโยบายสาธารณะ เรื่อง ทางเลือกในการกำหนดวาระแห่งชาติว่าด้วยการควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุจราจร โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมป้องกันอุบัติเหตุจราจรทุกภาคี ถือได้ว่าเป็นเจตจำนงค์ร่วมกัน

 ที่ได้ประกาศไว้ว่าในแต่ละเรื่องทำไปถึงไหนแล้ว และคงเป็นเวทีรวมแรงรวมใจของคนทำงานเรื่อง ความปลอดภัยทางถนน อีกครั้งที่ ยิ่งก้าวยิ่งแรง และมีพลังมากยิ่งขึ้น

[arrive-alive]

ความปลอดภัยทางถนนเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน ร่วมไม่ร่วมมือกัน

โดยเฉพาะหน่วยงานเจ้าของถนน และผู้รักษากฎหมาย

 

วันเสาร์หนึ่งในเดือนนี้

ณ ริมรั้วมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งที่มีผู้เชี่ยวชาญระดับโลกเรื่อง Road Safety  

มีนักศึกษาขี่รถจักรยานยนต์โดนรถพ่วงซึ่งบรรทุกเครื่องจักรกลหนักผม่านมาเฉี่ยวรถจักรยานยนต์ล้มลงผู้ขับกระเด็นไปทางหนึ่ง คนซ้อนกระเด็นเข้าใต้ท้องรถพ่วง ล้อรถทับศรีษะนักศึกษาเคราะห์ร้ายผู้นั้นกระจาย

ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า

ตรงนั้นมีการทาสีขาว-แดงที่ขอบทาง แต่ปรากฎว่ามีรถจักรยานยนต์จอดอยู่เต็มไปหมด ทำให้รถจักรยานยนต์ที่นักศึกษาเคราะห์ร้ายโดยสารมาไม่สามารถหลบรถพ่วงได้

 

เราเรียนรู้อะไรบ้างจากเหตุการณ์นี้